เปิดตัว “โฮงเฮียนแม่น้ำของ” สนามการเรียนรู้ธรรมชาติแห่งลุ่มน้ำโขง
"..โฮงเฮียนแม่น้ำของ (Chiang Kong Mekong School on Local Knowledge) เป็นผลิตผลจากการทำงานด้านการอนุรักษ์นิเวศ-วัฒน์ธนธรรมลุ่มแม่น้ำโขงยาวนานกว่า 15 ปี จัดตั้งขึ้นภายใต้ปรัชญา “เคารพในธรรมชาติ ศรัทธาในความเท่าเทียมกันของมนุษย์(Respect for nature. Faith in humanity justice)” จากความร่วมมือของชาวบ้านและภาคส่วนต่างๆแถบลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อเปิดสนามการเรียนรู้นอกระบบด้านนิเวศน์วัฒนธรรมลุ่มแม่น้ำโขง.."
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา 'ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม สมาคมนักข่าวหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ 15 สำนักข่าว' ลงพื้นที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามความคืบหน้าการเตรียมการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในเฟสที่ 2 (ปี2559) ในแง่ผลกระทบต่อชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน และ อำเภอเชียง จังหวัดเชียงราย ของตามนโยบายรัฐบาล (อ่านประกอบ : ยอมตายไม่ยอมเสียป่า! 'เชียงของ' รวมพลค้านนโยบายเขตศก.พิเศษเฟส 2)
ตลอดจนร่วมงานเปิดโฮงเฮียนแม่น้ำของ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง หมู่ที่ 1 ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ ระหว่างวันที่ 18-19 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้อำนวยการสถาบันการศึกษา นักเรียนนักศึกษา เครือข่ายพัฒนาเอกชน และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมจำนวนมาก
ทั้งนี้ โฮงเฮียนแม่น้ำของ(Chiang Kong Mekong School on Local Knowledge) เป็นผลิตผลจากการทำงานด้านการอนุรักษ์นิเวศ-วัฒน์ธนธรรมลุ่มแม่น้ำโขงยาวนานกว่า 15 ปี
จัดตั้งขึ้นภายใต้ปรัชญา “เคารพในธรรมชาติ ศรัทธาในความเท่าเทียมกันของมนุษย์(Respect for nature. Faith in humanity justice)” จากความร่วมมือของชาวบ้านและภาคส่วนต่างๆแถบลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อเปิดสนามการเรียนรู้นอกระบบด้านนิเวศน์วัฒนธรรมลุ่มแม่น้ำโขง ภายใต้การสนับสนุนของ องค์การแม่น้ำสากล โครงการสื่อชายขอบ สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต มูลนิธิกระจกเงา โครงการอนุรักษ์แม่น้ำอิง สถาบันองค์กรชุมชนลุ่มแม่น้ำโขง มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) กลุ่มรักษ์เชียงของ เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมลุ่มแม่น้ำโขง-ล้านนา
กิจกรรมน่าสนใจวันงานมีมากมาย อาทิ เสวนาหัวข้อ “การศึกษาท้องถิ่นกับการพัฒนาสังคมไทย” , "เข็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ปั้มจีดีพี แลกฐานทรัพยากรและวิถีชุมชน?" นิทรรศการและฐานการเรียนรู้สำหรับเยาวชน อาทิ ป่าชุมชน การจัดการเขตอนุรักษ์พันธุ์ปลา ระบบนิเวศกับการพัฒนา การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์-วัฒนธรรม การแสดงทางวัฒนธรรมท้องถิ่น นอกจากนี้ได้มีการนำเสนอผลงานวิจัยไทบ้านด้านทรัพยากรในพื้นที่
โดยท้ายกิจกรรม ตัวแทนสถาบันการศึกษา 9 แห่งในอำเภอเชียงของและเวียงแก่น ได้ลงนาม บันทึกข้อตกลงร่วมกันเพื่อจัดเวลาให้นักเรียนในสังกัดเข้ามาศึกษาความรู้ในโฮงเฮียนน้ำของ อย่างน้อย 3 ปี เพื่อประเมินผลความสำเร็จของการก่อตั้งโฮงเฮียนน้ำของ และปรับปรุงหลักสูตรต่อไปในอนาคตอีกด้วย
'ครูตี๋-นิวัฒน์ ร้อยแก้ว' ครูใหญ่โฮงเฮียนแม่น้ำของ และประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ ตัวตั้งตัวตีคนสำคัญบอกว่า โฮงเฮียนแม่น้ำของ ก่อตั้งขึ้นด้วยแนวคิดการจัดการเรียนในรูปแบบสนามการเรียนรู้ ภายใต้ปรัชญาเคารพธรรมชาติ ศรัทธาความเท่าเทียมของมนุษย์ โดยการนำองค์ความรู้ท้องถิ่น มาเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของคนภายในและภายนอก เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนเกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันเป็นเครือข่ายการทำงานร่วมกันจัดการทรัพยากรธรรมชาติลุ่มน้ำโขง เนื่องจากสถานการณ์แม่น้ำโขงปัจจุบันถูกกระทำอย่างรุนแรงจากโครงการพัฒนาที่ยึดแต่เศรษฐกิจเป็นตัวตั้ง ทั้งโครงการก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้น้ำขึ้นลงอย่างวิปริตจนชาวบ้านไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ การใช้สารเคมีที่ไหลลงสู่แม่น้ำส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย หรือแม้แต่โครงการระเบิดเกาะแก่งเพื่อเปิดทางเดินเรือพาณิชย์ ที่ทำให้ระบบนิเวศเสียหาย ปลาไม่มีแหล่งอาหาร และบางส่วนสูญพันธุ์ไปในที่สุด
@'ครูตี๋-นิวัฒน์ ร้อยแก้ว'
“มีชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 70 ล้านคนจาก 6 ประเทศที่แม่น้ำโขงไหลผ่าน มีความสัมพันธ์และพึ่งพิงกับแม่น้ำเพื่อการดำรงชีวิต และกำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากกระแสน้ำขึ้นลงอย่างรวดเร็วไม่เป็นฤดูกาล และความมั่นคงทางอาหารที่ถูกทำลาย โดยปัจจุบันแม่น้ำโขงกำลังถูกยึดครองโดยกลุ่มผลประโยชน์เพียงไม่กี่กลุ่ม ทั้งๆ ที่แม่น้ำความยาว 4,909 กิโลเมตร ควรเป็นของมนุษย์ทุกคนในโลกนี้” ครูตี๋บอก
ด้าน “จีระศักดิ์ อินทะยศ” ผู้ประสานงานกลุ่มรักษ์เชียงของ กล่าวเสริมถึงสถานการณ์ปลาในแม่น้ำโขงว่า ทุกวันนี้ปลาในแม่น้ำโขงแทบจะไม่เหลือให้จับอีกแล้ว ส่วนปลาที่วางขายอยู่ตามตลาดสดนั้นส่วนใหญ่เป็นปลาจากต่างถิ่น หรือปลาที่เลี้ยงในฟาร์มและในกระชัง เช่น ปลานิล ปลาทับทิม โดยพันธุ์ปลาส่วนใหญ่ก็มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าตลาดผลิตภัณฑ์เกษตร
“แม้แต่ปลาบึกและปลาคังซึ่งเป็นปลาชื่อดังของลำน้ำโขงและอำเภอเชียงของ ทุกวันนี้ก็มาจากการเพาะเลี้ยงและการนำเข้าทั้งสิ้น ตามสถิติที่มีการจดบันทึกไว้ ช่วงปี 2529-2538 สามารถจับปลาบึกได้รวมกันถึง 362 ตัว ขณะที่ในปี 2539-2549 หลังจากที่มีการสร้างเขื่อนในลำน้ำโขง สามารถจับปลาบึกได้รวมแล้วเพียง 48 ตัวเท่านั้น และปัจจุบันภาครัฐได้สั่งห้ามจับปลาบึกแล้ว ปลาบึกจึงกลายมาเป็นปลาอนุรักษ์” “จีระศักดิ์” ระบุ
ขณะที่ “สมเกียรติ เขื่อนเชียงสา” ผู้ประสานงานเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านนา ช่วยขยายสถานการณ์ปัจจุบันของแม่น้ำโขงว่า ขณะนี้มีการศึกษาความเป็นไปได้ของการสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขง โดยมีทั้งสิ้น 21 โครงการ ในจำนวนนี้ดำเนินการแล้วเสร็จ 6 โครงการ อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 1 โครงการ ซึ่งเขื่อนแรกในประเทศจีนสร้างขึ้นเมื่อปี 2539 ส่งผลให้ระดับน้ำเปลี่ยนแปลงไป กระทั่งมีการสร้างเขื่อนที่ 2-3 ในประเทศจีน ระดับน้ำเริ่มขึ้นลงไม่เป็นฤดูกาลชัดเจนขึ้น
“ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็ค่อยชัดขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะเรื่องการเพาะปลูกริมแม่น้ำโขง และการหาปลา ที่เสียหายและปริมาณลงลงมาโดยตลอด ตอนแรกชาวบ้านในประเทศไทยยังไม่ทราบสาเหตุ เรื่อยมาจนถึงปี 2544 มีโครงการระเบิดเกาะแก่ง ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของความสนใจและรับทราบเรื่องการสร้างเขื่อนในพื้นที่ต้นน้ำ” สมเกียรติ กล่าว
สำหรับโครงสร้างองค์ความรู้ของโฮงเฮียนแม่น้ำของนั้น จะเน้นการศึกษาเรียนรู้นอกระบบห้องเรียนแก่เยาวชนตลอดจนประชาชนทั่วไป ด้วยการนำองค์ความรู้ท้องถิ่นในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง โดยใช้โฮงเฮียนแม่น้ำของเป็นกลไกหลับในการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วม การกำหนดแนวทางอนุรักษ์ พัฒนา ตั้งระดับท้องถิ่น ไปจนระดับประเทศ เชื่อมโยงภูมิภาค สร้างกระบวนการเรียนรู้การทำงานด้านสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมลุ่มน้ำ
ใช้แนวคิดการจัดการในรูปแบบ “สนามการเรียนรู้” (Fied of Learning) ทั้งด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมท้องถิ่น ตลอดจนสร้างผลงานทางวิชาการกระบวนการศึกษาวิจัยจากท้องถิ่นเอง จัดทำห้องสมุดแม่น้ำโขงเป็นฐานข้อมูลเรียนรู้สืบค้น
โดยเมื่อผู้สนใจได้รับข้อมูลการเรียนรู้ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว จะถูกส่งต่อไปยังสนามการเรียนรู้ในพื้นที่จริง เรียกว่า “ห้องเรียนธรรมชาติ” อาทิ พื้นที่ชุ่มน้ำกก ชุ่มน้ำอิง ปางควาย ป่าชุมชน เขตอนุรักษ์พันธุ์ปลา เป็นต้น
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อเข้าศึกษาเรียนรู้กับโฮงเฮียนแม่น้ำของ ได้ที่ เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านนา เลขที่ 260 หมู่ที่ 1 ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย 57140 Email :mekonglover@hotmail.com โทร 089-955-7860