19 ข้อเสนอ กมธ.ปราบโกง ชง กรธ.อุดช่องทุจริต-ป้องกันนักการเมืองหัวใส?
เปิด 19 ข้อเสนอ กมธ.ปราบปรามการทุจริต ชง กรธ. อุดช่องการทุจริต ให้ผู้สมัครนักการเมือง-องค์กรอิสระ โชว์ภาษีย้อนหลัง 3 ปี ห้าม ส.ส.แปรญัตติงบ ส.ส.-ส.ว.ไม่มีเอกสิทธิคุ้มครอง ถูกจับได้หากพันคดีทุจริต ถ้า รบ. ใช้งบรัฐเสียหาย ป.ป.ช.-สตง. ฟ้องศาลปกครองได้ ลดวาระ กก.ป.ป.ช. เหลือ 6 ปี ห้าม จนท.กระบวนการยุติธรรมนั่งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ-ที่ปรึกษานักการเมือง
เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว สำหรับข้อเสนอในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายปัญหาสำคัญที่กัดกินประเทศไทยมาอย่างยาวนาน
โดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่มีนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ อดีตประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นประธานฯ ได้ทำข้อเสนอ 19 ข้อ เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ส่งให้กับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชุดนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานฯ
เพื่อแก้ไขปัญหา-อุดช่องโหว่ในกฎหมาย ป้องกันไม่ให้มีการทุจริต และจะส่งข้อเสนออย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ธ.ค. 2558
(อ่านประกอบ :กมธ.ปราบโกงชง กรธ.ให้นักการเมือง-องค์กรอิสระโชว์ภาษีย้อนหลัง ห้าม ส.ส.แปรญัตติงบ)
ข้อเสนอดังกล่าวมีอะไรบ้าง ? สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมไว้ ดังนี้
1.ประชาชนชาวไทยมีหน้าที่ในการป้องกัน ปฏิเสธ และต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมทั้งเป็นผู้เสียหายในคดีทุจริตและประพฤติมิชอบอันส่งผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ
2.ประชาชนมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลข่าวสารสาธารณะ ติดตามและร้องขอให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งนี้การจำกัดสิทธิดังกล่าวไม่อาจกระทำได้เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจบทบัญญัติแห่งกฎหมายเพียงเท่าที่จำเป็น
3.รัฐต้องจัดระบบการบริหารราชการแผ่นดินและการบริหารราชการแผ่นดินและการบริหารงานของรัฐ ให้มีกลไกป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบที่มีประสิทธิภาพ การบริหารราชการแผ่นดินต้องเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลเพื่อประโยชน์สาธารณะ
4.กำหนดให้องค์กรที่ใช้อำนาจรัฐหรืองบประมาณแผ่นดินต้องเปิดเผยแผนการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ ผลการดำเนินงาน การจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงรายการงบการเงินและสถานะทางการคลังให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปโดยไม่รอช้า
5.ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมืองทุกประเภทและทุกระดับ รวมทั้งผู้เข้ารับการสรรหาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ต้องแสดงสำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ย้อนหลังเป็นเวลา 3 ปี หากไม่แสดงหรือแสดงอันเป็นเท็จ ให้สมาชิกภาพหรือความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง ทั้งนี้ให้เปิดเผยเอกสารดังกล่าว รวมถึงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อสาธารณชนโดยเร็ว
6.ห้ามมิให้ผู้เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบหรือกระทำการให้การเลือกตั้งไม่สุจริตหรือไม่เที่ยงธรรม หรือให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะเหตุร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ รวมถึงบุคคลซึ่งเคยถูกปลดออก ไล่ออก หรือให้ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำการทุจริต กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือร่ำรวยผิดปกติ มีสิทธิรับสมัครรับเลือกตั้งหรือเข้าสรรหาเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง
7.ห้ามมิให้ ส.ส. นำงบประมาณที่ลดหรือตัดทอนจากการแปรญัตติไปจัดสรรเป็นงบ ส.ส.
8.กำหนดให้สามารถจับกุม คุมขัง หรือออกหมายเรียกตัว ส.ส. หรือ ส.ว. ในระหว่างสมัยประชุมได้ ในกรณีเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาอันเกี่ยวด้วยการทุจริตหรือประพฤติมิชอบหรือคดีความผิดเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งหรือการสรรหา (เอกสิทธิคุ้มครองสมาชิกรัฐสภาในระหว่างสมัยประชุม ไม่รวมถึงกรณีความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่)
9.ให้สมาชิกฝ่ายค้านเป็นประธานกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และทำหน้าที่กำกับติดตามเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ
10.ให้มีศาลชำนัญพิเศษคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเป็นการเฉพาะ โดยให้เป็นระบบไต่สวนสามารถอุทธรณ์ได้ และมีเขตอำนาจในกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง
11.ในกรณีที่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใด ก่อให้เกิดการใช้จ่ายเงินแผ่นดินอันวิญญูชนพึงเห็นได้ว่า ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐอย่างร้ายแรง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) หรือคณะกรรมการ ป.ป.ช. อาจไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนยื่นฟ้องต่อศาลปกครองแผนกคดีวินัยการคลังและการงบประมาณและให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า
12.กระบวนการสรรหากรรมการในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพในการคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ รวมทั้งคุณธรรมและจริยธรรมอย่างแท้จริง
13.กำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีองค์ประกอบที่หลากหลาย มีวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี มีอำนาจการไต่สวนและวินิจฉัยคดีทุจริตต่อหน้าที่หรือร่ำรวยผิดปกติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและข้าราชการระดับบริหาร (ระดับสิบขึ้นไป) และให้กำหนดระยะเวลาในการไต่สวนข้อเท็จจริงไม่ให้ล่าช้า สามารถมอบหมายให้กรรมการ ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. หรือผู้ที่มีอำนาจเกี่ยวข้องทำการไต่สวนและรวบรวมพยานหลักฐานแทนได้
14.กำหนดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นอิสระ และทำงานร่วมกับ ป.ป.ช. อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เนื่องจากคดีทุจริตมีความเกี่ยวพันกับข้าราชการหลายระดับ
15.กำหนดให้มีกลไกหรือระบบบูรณาการการทำงานขององค์กรที่มีหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และองค์กรตรวจสอบอำนาจรัฐ รวมถึงหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้สามารถนำคนผิดมาลงโทษโดยเร็ว
16.การสอบสวนคดีทุจริตคอร์รัปชั่นและประพฤติมิชอบที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจรัฐ และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องมีการกำหนดระยะเวลาในการไต่สวนข้อเท็จจริงและฟ้องดำเนินคดีโดยเร็ว และผู้เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบหากเกิดความเสียหายในกรณีที่ล่าช้า และหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณะอย่างเป็นเปิดเผยเป็นระยะ
17.ให้มีเนื้อหาว่าด้วยการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ในรัฐธรรมนูญตามแนวทางในหมวดที่สอง ส่วนที่สอง ของร่างรัฐธรรมนูญปี 2558
18.เจ้าหน้าที่ของรัฐในกระบวนการยุติธรรมต้องไม่เป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจหรือกิจการอื่นของรัฐในทำนองเดียวกัน รวมทั้งไม่เป็นที่ปรึกษาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือตำแหน่งในลักษณะเดียวกัน
19.ให้มีการปฏิรูปการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล สร้างจิตสำนึกแก่ประชาชน และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และให้กลไกในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมีประสิทธิภาพ ตามแนวทางในมาตรา 12 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปฏิรูปประเทศ
ทั้งหมดคือข้อเสนอ-แนวทางของ กมธ.ปราบปรามการทุจริต ที่เสนอต่อ กรธ. เพื่อต้องการอุดช่องโหว่การคอร์รัปชั่น ป้องกันนักการเมืองหัวใส เข้ามาหากินอีก !
หมายเหตุ : ภาพประกอบ กรธ. จาก ASTVmanager