กสม.วอนยึดหลักรัฐธรรมนูญ กรณีจับกุมมือโพสผังทุจริตราชภักดิ์
กสม. วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดรัฐธรรมนูญในการดำเนินการต่อ กรณี การควบคุมตัวผู้ถูกจับและขังกรณีมือโพสผังทุจริตราชภักดิ์
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ในงานพิธีมอบรางวัล เนื่องในวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธันวาคม ประจำปี 2558 นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุการณ์จับกุมตัวนายฐนกร ศิริไพบูลย์ และนายธเนตร อนันตวงษ์ ว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ติดตามทั้งสองเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดด้วยความห่วงใย
โดยล่าสุดเมื่อ 14 ธันวาคม 2558 ได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ควบคุมตัวนายฐนกรไปฝากขังต่อศาลที่มีเขตอำนาจ และปัจจุบันนายฐนกร ถูกคุมขังอยู่ที่เรือจำพิเศษกรุงเทพมหานครแล้ว ส่วนทางด้านนายธเนตร ยังไม่ปรากฏว่ามีการควบคุมตัวไว้ที่ใดนั้น
ประธาน กสม. กล่าวว่า ทางเราจึงอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมครั้งนี้ สร้างความชัดเจนให้เกิดขึ้น เพื่อที่อย่างน้อยทางญาติพี่น้องของผู้ถูกควบคุมรับทราบว่าถูกคุมขังอยู่ที่ใด สภาพการเป็นอยู่เป็นอย่างไร และเข้าเยี่ยมได้ ส่วนในเรื่องว่า ถูกจับกุมขณะรักษาตัวอยู่นั้น ทางคณะกรรมการสิทธิฯ จำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นจริงตามที่มีการรายงานไปก่อนหน้านี้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีการรายงานที่คลาดเคลื่อนอยู่บ้างเรื่องนี้จึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน แต่หากมีการควบคุมตัวขณะรักษาตัวจริง ทางผู้ควบคุมต้องมีมีหลักประกันในการรักษาอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญต้องสร้างความชัดเจนให้เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นที่คุมขัง
ทั้งนี้เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของบุคคล และเพื่อเป็นการป้องกันมิให้ความขัดแย้งในสังคมไทยขยายออกไปทางกสม.จึงใคร่ขอวิงวอนให้องค์กรที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน ดังนี้
1. การควบคุมหรือคุมขังผู้ถูกควบคุมหรือขังสมควรเปิดเผยสถานที่ที่ถูกควบคุมหรือขัง และแจ้งแก่ญาติของผู้ถูกควบคุมหรือขังโดยไม่ชักช้า เพื่อให้ญาติสามารถเข้าเยี่ยมได้ตามเวลาที่เหมาะสม ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุธศักราช 2557 ข้อ 4 กติการะหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (ICPED) ที่ประเทศไทยได้ลงนาม (Signature) ไว้
2. กรณีผู้ถูกควบคุมตัวอยู่ระหว่างการรักษาพยาบาล ต้องมีหลักประกันว่าบุคคลนั้นจะได้รับการรักษาโรคอย่างต่อเนื่องตามแผนการรักษาของแพทย์จนกว่าจะหายเป็นปกติ
ทั้งนี้ประธาน กสม. กล่าวด้วยว่า ทางคณะกรรมการสิทธิฯ จะติดตามสถานการณ์และรายงานดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องต่อไป