เปิดเส้นทางเงิน 3 สาย 'อุทยานราชภักดิ์' ก่อน สตง.ลุยสอบเคลียร์ปม 'หัวคิว'
"..สิ่งที่เป็นปัญหาในขณะนี้ คือ งานก่อสร้างบางส่วน ไม่ได้มีการทำสัญญาไว้ ซึ่งเป็นปัญหาสืบเนื่องมาจากการที่เอกชนหลายรายใช้วิธีการบริจาคในรูปแบบการเข้ามารับงานก่อสร้างให้ แทนการบริจาคเงิน และเมื่อทำงานเสร็จ ก็มาขอให้มีการตีราคางาน และขอให้ทางอุทยานฯ ออกใบอนุโมทนาให้ เพื่อนำไปใช้ในเรื่องการหักค่าใช้จ่าย ยกเว้นภาษี.."
นับเป็นระยะเวลานานนับสัปดาห์แล้ว ที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าไปติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์
คำถามที่น่าสนใจ คือ ณ เวลานี้ สตง. ตรวจสอบพบเจอข้อสังเกตสำคัญอะไรบ้างหรือยัง?
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการยืนยันข้อมูลจากทีมตรวจสอบ สตง. ว่า เส้นทางการเงินที่นำมาใช้ในการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งอยู่ในเป้าหมายการตรวจสอบของ สตง. ขณะนี้ มี 2 ส่วนหลัก คือ 1.เงินงบประมาณแผ่นดิน 2. เงินสนับสนุนที่ได้รับมาจากการบริจาคของหน่วยงานภาครัฐ
โดยการใช้จ่ายเงินทั้ง 2 ส่วนนี้ สตง. กำลังเข้าไปดูว่า เงินถูกนำไปใช้ในภารกิจงานส่วนใดบ้าง มีเอกสารหลักฐาน และเนื้องานที่ออกมาถูกต้องหรือไม่ ซึ่งในขั้นตอนการปฏิบัติงานในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปนั่งทำงานตรวจสอบข้อมูลเอกสารในกองทัพบกแล้ว
แต่ติดขัดปัญหาขั้นตอนการปฏิบัติงานในส่วนของทหาร ที่ห้ามมิให้นำเอกสารออกมาจากกองทัพบกได้ ถ้าต้องการจะดูเอกสารชิ้นใด ต้องทำเรื่องขออนุญาตให้ทหารเบิกเอกสารมาให้เป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า เส้นทางเงินประมาณที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการงานก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ในขณะนี้ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 เส้นทาง คือ 1. เงินงบประมาณแผ่นดิน 2. เงินบริจาคจากภาครัฐและเอกชน และ 3.เงินบริจาคของประชาชนทั่วไป
"สิ่งที่เป็นปัญหาในขณะนี้ คือ งานก่อสร้างบางส่วน ไม่ได้มีการทำสัญญาไว้ ซึ่งเป็นปัญหาสืบเนื่องมาจากการที่เอกชนหลายรายใช้วิธีการบริจาคในรูปแบบการเข้ามารับงานก่อสร้างให้ แทนการบริจาคเงิน และเมื่อทำงานเสร็จก็มาขอให้ตีราคางาน และขอให้ทางอุทยานฯ ออกใบอนุโมทนาให้ เพื่อนำไปใช้ในเรื่องการหักค่าใช้จ่าย ยกเว้นภาษี ข้อมูลค่อนข้างซับซ้อน และเยอะมาก"
"สำหรับประเด็นนี้ สตง.จะเข้าไปตรวจสอบว่า งานก่อสร้างส่วนที่ได้รับบริจาคจากเอกชนจริงๆ แล้ว มีอะไรบ้าง และมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณมาใช้และซ้ำซ้อนกันหรือไม่ เอกชนเขามาทำงานให้แล้ว แต่ไปทำเรื่องเบิกจ่ายเงินจ่ายเพิ่มอีกหรือเปล่า ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ค่อนข้างจะมีความซับซ้อนมาก คงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบสักระยะหนึ่ง ถึงจะเห็นข้อมูลที่ชัดเจน " ทีมตรวจสอบสตง.ระบุ
ส่วนปัญหาเรื่องการหักหัวคิวโรงหล่อ นั้น ทีมตรวจสอบ สตง. ระบุว่า เท่าที่ได้รับฟังข้อมูลมา ขณะนี้สามารถยืนยันได้ว่า เซียนพระรายหนึ่ง ซึ่งถูกระบุว่าตอนนี้อยู่ในต่างประเทศ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างชัดเจน
"แต่การจะระบุว่าเรื่องนี้มีปัญหาเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ต้องเข้าไปดูกระบวนการทำงานหล่อองค์พระรูป ว่าจริงๆแล้วทำกันอย่างไร เพราะมีข้อมูลบางส่วนยืนยันว่าองค์พระรูปแต่ละองค์ จริงๆแล้ว จะมีคนในวงการพระเครื่อง มาเสนอตัวที่จะออกงบประมาณเพื่อสร้างถวายให้ ในรูปการบริจาคสิ่งของ ก่อนที่คณะกรรมการก่อสร้างจะไปว่าจ้างโรงหล่อมาทำงานตามแบบที่ออกไว้อีกครั้ง"
"ส่วนขั้นตอนการไปเรี่ยไรเงินมาของกลุ่มเซียนพระตามสายของตนเอง ต้องดูว่ามีเรื่องผลประโยชน์เกิดขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะการเรี่ยไรเงินที่สูงกว่าความเป็นจริง"
ขณะที่ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าฯ สตง. ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ขณะนี้ สตง.อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลงานก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งนอกจากการตรวจสอบข้อมูลการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินแล้ว จะมีการตรวจสอบเงินบริจาคในส่วนของหน่วยงานภาครัฐด้วย ว่าถูกนำไปใช้จ่ายในเรื่องใดบ้าง
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ได้รับรายงานความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่ พบว่า ข้อมูลเรื่องเงินมีหลายรายละเอียดค่อนข้างมาก เงินมาจากการหลายแหล่ง คงต้องค่อยๆ ไล่ดูข้อมูลไปแต่ละส่วน คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบพอสมควร
"แต่ยืนยันว่าสตง.จะทำงานอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เรื่องนี้มีความชัดเจนโดยเร็ว" ผู้ว่าฯ สตง.ระบุ
ทั้งหมดนี่ คือ ข้อมูลความคืบหน้าล่าสุด ในการตรวจสอบข้อมูลอุทยานราชภักดิ์ ของ สตง.