เปิดตัว 'ธีระมิวสิค' ผู้จัดหา 'กลอง' ให้เคพีเอ็น ขายต่อกทม. ชุดละ 6 หมื่น
เปิดตัว 'บ.ธีระมิวสิค' หนึ่งในซัพพลายเออร์จัดหา 'กลอง' ให้เคพีเอ็น ก่อนขายต่อกทม. ชุดละ 6 หมื่น ยันสินค้าเป็นของดีมีคุณภาพ แต่ปัดแจ้งราคาต้นทุน บอกแค่อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม แถมได้ลำโพง อุปกรณ์เสริมด้วย เผยยอดรวมงบล่าสุด 5 โครงการ 1.2 พันล้าน
ไม่ว่าอะไรจะเป็นสาเหตุสำคัญที่แท้จริงที่ทำให้ บริษัท เคพีเอ็น มิวสิค จำกัด คู่สัญญาในการจัดหาเครื่องดนตรีให้กับกรุงเทพมหานคร โดยสำนักการศึกษา ในโครงการพัฒนาทักษะทางด้านดนตรี วงเงินหลายร้อยล้านบาท ใช้ชื่อ บริษัท เคพีเอ็น มิวสิค จำกัด เป็นผู้ทำสัญญาเพียงรายเดียว แทนที่จะเป็น กิจการร่วมค้า เคพีเอ็น-ที ตามเอกสารที่ยื่นซองเสนอราคา
แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฎชัดเจนในขณะนี้ คือ การจัดหาเครื่องดนตรีของบริษัท เคพีเอ็น มิวสิค จำกัด ใช้วิธีการซื้อสินค้าต่อมาจากผู้ผลิตหลายราย เพื่อนำไปส่งมอบให้กับโรงเรียนในสังกัด กทม.
(อ่านประกอบ : เบื้องหลัง! โครงการจัดซื้อเครื่องดนตรี กทม. 'เคพีเอ็น' คว้า 3 สัญญารวด 732 ล. ใช้ชื่อกิจการร่วมค้ายื่นซอง แต่ลงนามบ.เดียว! 'วิลาศ' ชงป.ป.ช.สอบ เปียโน 'สุขุมพันธุ์')
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2558 นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรค ประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า จากการตรวจสอบเอกสารประกอบการจัดส่งเครื่องดนตรีให้กับโรงเรียนในสังกัด กทม.ของ บริษัท เคพีเอ็น มิวสิค จำกัด พบว่ามีการระบุชื่อ บริษัท ธีระมิวสิค จำกัด ปรากฎอยู่ในใบส่งเครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง
"ผมไม่แน่ใจว่า ตัวย่อ ที ที่ปรากฎอยู่ในชื่อของกิจการร่วมค้าเคพีเอ็น-ที ตามเอกสารที่ยื่นซองเสนอราคาเสนอกับกทม. จะเป็น บริษัท ธีระมิวสิค จำกัด หรือไม่ เพราะเห็นชื่อบริษัทแห่งนี้ ปรากฎอยู่ในใบส่งมอบกีต้าร์ไฟฟ้า ที่เอาไปส่งให้โรงเรียนในสังกัด กทม.ด้วย"
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท ธีระมิวสิค จำกัด มีตัวตนอยู่จริง จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2529 ทุนปัจจุบัน 40 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 100-108 ซอยเวิ้งนครเกษม ถนนเจริญกรุง แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจนำเข้า จำหน่ายเครื่องดนตรี
ปรากฎชื่อ นายธีระ เตชะยืนยง และ นางสุรางค์ เตชะยืนยง เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เม.ย.2558 มี 7 ราย นายธีระ เตชะยืนยง และ นางสุรางค์ เตชะยืนยง ถือหุ้นใหญ่สุด คนละ 9,000 หุ้น มูลค่า 9,000,000 บาท นายกิตติพงษ์ เตชะยืนยง นายฉัตรชัย เตชะยืนยง นางสาวปัทมาภรณ์ เตชะยืนยง นายพิพัฒน์ เตชะยืนยง นางสาวอัมพร เตชะยืนยง ถืออยู่คนละ 4,400 หุ้น มูลค่า 4,400,000 บาท
ล่าสุด นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการปี 2557 แจ้งว่ามี รายได้จากการขาย 211,670,206.25 บาท มีต้นทุนสินค้าที่ขาย 188,491,194.07 บาท มีกำไรขั้นต้น 23,179,012.18 บาท รายได้อื่น 193,249.63 บาท มีค่าใช้จ่ายในการบริหาร 14,037,776.42 บาท ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 3,714.58 บาท กำไรสุทธิ 7,365,608.63 บาท
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง บริษัท ธีระมิวสิค จำกัด เพื่อขอสัมภาษณ์ข้อเท็จจริง ได้รับการยืนยันจาก นางสาวปัทมาภรณ์ เตชะยืนยง หนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัท ฯ ว่า บริษัท ธีระมิวสิค ฯ ไม่ได้จดทะเบียนเป็นกิจการร่วมค้า กับ บริษัท เคพีเอ็น มิวสิค แต่เป็นหนึ่งในผู้จัดหาสินค้า มาขายให้กับ บริษัท เคพีเอ็น มิวสิค เพื่อไปส่งมอบให้กับโรงเรียนในสังกัด กทม.อีกต่อหนึ่ง
"สินค้าที่เราจัดหาให้กับ เคพีเอ็น คือ กลอง โดยเริ่มจัดหาให้ตั้งแต่การดำเนินงานโครงการช่วงแรก และขอยืนยันว่า สินค้าของเราเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสามารถพิสูจน์ได้ ส่วนสินค้าชนิดอื่น เป็นของบริษัทอื่น ที่ส่งให้กับเคพีเอ็น ซึ่งสินค้าทุกชิ้นก็มีคุณภาพดีเช่นกัน"
นางสาว ปัทมาภรณ์ ยังเล่าให้ฟังว่า "ช่วงแรกที่มีข่าวออกมารู้สึกเห็นใจทางเคพีเอ็นมาก เพราะสินค้าที่เขาจัดหาเป็นสินค้าที่มีคุณภาพที่ดี สามารถพูดได้ว่า ของทุกชิ้นมีคุณภาพ เขาตั้งใจทำ เพราะเห็นว่าโครงการนี้ เป็นโครงการที่ดี"
นางสาว ปัทมาภรณ์ ยังระบุด้วยว่า ส่วนสาเหตุที่บริษัท ฯ เข้ามารับหน้าที่จัดหากลองให้กับเคพีเอ็น ในโครงการ ฯ นี้ เป็นเพราะได้รับการติดต่อจากเคพีเอ็น เหมือนกับบริษัทรายอื่น แล้วก็ไปร่วมประชุม กับทางเคพีเอ็น ก่อนที่บริษัท ฯ ได้รับผิดชอบงานในส่วนการจัดหากลอง
เมื่อถามว่า ราคากลองของบริษัทที่ขายต่อให้กับบริษัทเคพีเอ็น อยู่ที่เท่าไร นางสาว ปัทมาภรณ์ ตอบว่า "อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ส่วนบริษัทเคพีเอ็น จะนำไปขายต่อให้กับ กทม.เท่าไหร่นั้นเป็นเรื่องของเคพีเอ็น เราไม่เกี่ยวข้องด้วย"
"ดิฉันก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่า เคพีเอ็น เขาเอาไปขายให้ กทม.ราคาชุดละ 6 หมื่นบาท แต่เรื่องนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกันด้วยนะ เพราะสินค้าที่เราส่งไปให้ไม่ได้มีแค่กลองอย่างเดียว มีลำโพง มีพรม และอุปกรณ์อีกหลายอย่าง "
เมื่อถามว่า บริษัทเอกชนรายอื่น ที่ขายสินค้าให้กับ เคพีเอ็น มีใครบ้าง นางสาว ปัทมาภรณ์ ตอบว่า "มีหลายรายจำไม่ได้ "
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ ถ้าจะมีหน่วยงานรัฐเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ นางสาว ปัทมาภรณ์ ตอบว่า ไม่กังวล เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด และในส่วนของเคพีเอ็น เขาก็มีความตั้งใจดีที่จะทำโครงการนี้ สินค้าทุกอย่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นของดีมีคุณภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการดำเนินโครงการพัฒนาทักษะทางดนตรี ของ กทม. ที่มีการตรวจสอบพบข้อมูลล่าสุดในขณะนี้ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ
ช่วงแรก ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 มี 2 โครงการ สำหรับโรงเรียน 90 โรง วงเงินรวม 250 ล้าน ประกอบด้วย
1. ประกวดราคาซื้อเครื่องดนตรีและอุปกรณ์ตามโครงการพัฒนาทักษะทางดนตรีในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร งบประมาณ 88,686,900 บาท เลขที่โครงการ 53064004891 ประกวดราคาระหว่าง 7 ก.ค. – 7 ก.ย. 2553 บจก.เคพีเอ็น มิวสิค ชนะการประมูลด้วยราคา 86,580,000 บาท
2. ประกวดราคาจ้างเหมาทำระบบคอมพิวเตอร์และการพัฒนาทักษะทางดนตรี ตามโครงการพัฒนาทักษะทางดนตรีในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร งบประมาณ 161,313,100 บาท ประกวดราคาช่วงเดียวกันคือระหว่าง 7 ก.ค. – 8 ก.ย. 2553 กิจการร่วมค้า kpnt ชนะการเสนอราคาที่ 158,760,000 บาท
ช่วงที่สอง ดำเนินการภายใต้งบประมาณ พ.ศ. 2555-2557 ขยายเป็น 150 โรงเรียน วงเงินรวม 480 ล้านบาทประกอบด้วย
1. ประกวดราคาจ้างเหมาทำระบบคอมพิวเตอร์และการพัฒนาทักษะทางดนตรี ฯ งบประมาณ 326,517,000 บาท ประกวดราคาช่วง 26 ธ.ค. 2554 – 26 ก.ย. 2555 เลขที่โครงการ 54124008782 กิจการร่วมค้า kpnt ชนะการประมูลด้วยราคา 323,700,000 บาท
2. ประกวดราคาซื้อเครื่องดนตรีและอุปกรณ์ ฯ งบประมาณ 153,483,000 บาท ประกวดราคาช่วงไล่เลี่ยกัน คือ ระหว่าง 27 ธ.ค. 2554 – 17 ก.ย. 2555 เลขที่โครงการ 54124009315 บริษัท เคพีเอ็น มิวสิค จำกัด ได้งานด้วยราคา 150,300,000 บาท
ช่วงล่าสุดปี 2557 ได้จัดทำโครงการเพิ่มในชื่อ โครงการพัฒนาทักษะทางดนตรีฯ ระยะที่ 2 รวมการซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องดนตรีเข้าด้วยกัน และขยายโรงเรียนเป็น 197 โรง ตั้งงบประมาณผูกพันระหว่าง พ.ศ. 2557-2559 วงเงิน 585,000,000 บาท ดำเนินการประกวดราคาช่วง 7 ก.ค. – 30 ต.ค. 2557 เลขที่โครงการ 57075063462 กำหนดวงเงินดำเนินงานไว้ที่ 571,003,229 บาท ต่ำกว่างบประมาณ 13,996,771 บาท และกำหนด minimum bid ไว้ที่ 1 ล้านบาท
มีผู้เข้าเสนอราคา 2 ราย คือ กิจการร่วมค้า จีซอฟต์ มิวสิค เสนอราคาที่ 569,003,229 บาท ต่ำกว่าวงเงินดำเนินงาน 2 ล้านบาท ขณะที่ กิจการร่วมค้า kpn-t ซึ่งได้งานเสนอราคาที่ 568,003,229 บาท ต่ำกว่าวงเงินดำเนินงานเพียง 3 ล้านบาท
รวมวงเงินทั้งสิ้นกว่า 1,287,140,000 บาท