หน่วยข่าวตั้งข้อสังเกตรัสเซียแจ้งเตือน IS เข้าไทย - ชายแดนใต้เฝ้าระวังเข้ม
กลายเป็นประเด็นร้อนที่สร้างความตื่นตระหนก เมื่อมีการเผยแพร่หนังสือแจ้งเตือนจากหน่วยต่อต้านข่าวกรองรัสเซียที่ส่งถึงกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ระบุว่ามีชาวซีเรีย 10 คนซึ่งเกี่ยวข้องกับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส เดินทางเข้าประเทศไทย
ท่ามกลางกระแสไหลเวียนของข่าวสารแบบฝุ่นตลบ มีการตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานด้านการข่าวไทย
เจ้าหน้าที่รายนี้ ระบุว่า แม้มีการแจ้งเตือนจากหน่วยต่อต้านข่าวกรองของรัสเซียจริง แต่บุคคลเป้าหมายจะเข้ามาในประเทศไทยจริงหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต้องตรวจสอบในรายละเอียดก่อน
เขายังตั้งข้อสังเกตว่า โดยปกติหน่วยข่าวต่างประเทศ มักแจ้งข่าวให้ฝ่ายความมั่นคงไทยเฝ้าระวังผลประโยชน์ของประเทศตนตลอดเวลา โดยข่าวที่ส่งหรือแจ้งเตือนมาอาจยังไม่ยืนยันความถูกต้อง เป็นการแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ช่วยเฝ้าระวัง ฉะนั้นจึงยังไม่ควรตื่นตระหนก และเอกสารการแจ้งเตือนไม่ควรหลุดออกมาสู่สาธารณะ
สำหรับกรณีของรัสเซีย ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ข่าวนี้รัสเซียไม่ได้รับข่าวมาจากแหล่งข่าวของตนเอง แต่ได้รับแจ้งเตือนจากหน่วยข่าวมิตรประเทศอีกทอดหนึ่ง อีกทั้งมีแค่รัสเซียประเทศเดียวที่แจ้งเตือน ไม่มีหน่วยข่าวอื่นๆ แจ้งเตือนเข้ามาเลย ประกอบกับจำนวนของผู้ต้องสงสัยเป็นไอเอสถึง 10 คน ดูจะมากเกินไปหรือไม่ เพราะการก่อการร้ายสมัยใหม่ใช้คนไม่มากนัก เมื่อประกอบกับข้อมูลการข่าวที่ทางการไทยได้มาเอง สรุปเบื้องต้นว่าข่าวนี้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อย แต่เพื่อความไม่ประมาท ก็ได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ ซึ่งก็ได้ดำเนินการมาตั้งแต่หลังมีการก่อการร้ายกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสแล้ว
สตม.ยันแจ้งเตือนไอเอสเข้าไทยเรื่องจริง
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม. ยอมรับว่า หนังสือแจ้งเตือนจากหน่วยต่อต้านข่าวกรองรัสเซีย เป็นหนังสือจริง แต่หนังสือลักษณะนี้ไม่ควรเล็ดลอดออกมา เพราะจะสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน
ขณะนี้ทาง สตม.ได้ประสานไปยังสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย เพื่อขอข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เนื่องจากในแต่ละวันมีชาวซีเรียเดินทางผ่านเข้า-ออกประเทศไทยนับร้อยคน ซึ่ง สตม.ก็ได้ติดตามตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยโดยตลอดอยู่แล้ว หากพบก็จะผลักดันออกนอกราชอาณาจักรทันที
ส่วนจุดหมายที่ว่าคนกลุ่มนี้จะเดินทางไป เช่น ภูเก็ต พัทยานั้น ยังไม่แน่ชัด กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่บางพื้นที่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ โดย สตม.จะประชุมเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง
เลขาฯสมช.สั่งสอบคนทำเอกสารลับหลุด
พลเอกทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ว่าใครเป็นคนปล่อยหนังสือฉบับนี้ออกมา โดย สมช.อาจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปฟ้องสื่อมวลชนที่เผยแพร่ข้อความและคำสั่งต่างๆ ที่กระทบต่อความมั่นคง
คสช.-กอ.รมน.วอนอย่าเพิ่งตระหนกข่าวไอเอส
พลตรีบรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. กล่าวว่า ประเด็นที่มาของเอกสารลับมากที่ถูกเผยแพร่ออกมา ขอให้เป็นการยืนยันความมีอยู่จริงของหน่วยราชการนั้นๆ ส่วนความเห็นต่อประเด็นเนื้อหาของเอกสาร ขอเรียนว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งโดยตรงกับประเทศใด ส่วนความน่าจะเป็นที่กลุ่มก่อการร้ายจะเดินทางเข้าไทยนั้น ต้องรอการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลตามข้อมูลในเอกสารที่มีการเผยแพร่
ทั้งนี้ หน่วยงานด้านความมั่นคงทุกหน่วยได้มีมาตรการรองรับตามภารกิจของแต่ละหน่วยอยู่แล้ว และเห็นว่าข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ หากยังไม่มีการยืนยันในข้อเท็จจริง อาจทำให้สังคมเกิดความกังวลเกินกว่าเหตุได้
สอดคล้องกับ พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่บอกว่า ขอให้คนไทยอย่าพึ่งตื่นตระหนกกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์เอกสารว่าเป็นของจริงหรือปลอม อีกทั้งที่ผ่านมาหน่วยงานด้านการข่าวไม่พบข้อมูลความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายไอเอสในประเทศไทย
ชายแดนใต้แจ้งเตือนเฝ้าระวังไอเอส
ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจากส่วนกลางให้ตรวจสอบและติดตามข่าวความเคลื่อนไหวในพื้นที่ที่อาจมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส ภายหลังมีการแจ้งเตือนจากรัสเซีย เบื้องต้นยังไม่พบการเคลื่อนไหวยของกลุ่มดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้ประมาท
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เอกสารที่อ้างว่าเป็นของกองบัญชาการตำรวจสันติบาล สั่งการให้ตรวจสอบกรณีหน่วยต่อต้านข่าวกรองรัสเซียแจ้งเตือนมีชาวซีเรียต้องสงสัยเชื่อมโยงกลุ่มไอเอส เดินทางเข้าไทย