"ดาว์พงษ์"ปัดฝุ่นสอบตกเรียนซ้ำชั้น
"ดาว์พงษ์" ปัดฝุ่นสอบตกเรียนซ้ำชั้น สั่ง สพฐ.วิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสีย เชื่อสร้างความเข้มแข็งให้เด็ก สอนให้เด็กเรียนรู้ความผิดหวัง สั่งปลัด ศธ.หาสาเหตุ ทำไมเด็กแห่เรียนพิเศษ มั่นใจครูสอนในห้องไม่ด้อยฝีมือ
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ) กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้มอบหมายให้นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) ไปทบทวนเรื่องการสอบตกซ้ำชั้น วิเคราะห์ถึงข้อดี-ข้อเสีย เพราะในอดีตที่ผ่านมา หากเรียนและสอบไม่ผ่านก็ต้องเรียนซ้ำชั้นอีกปี แต่ปัจจุบันไม่มีการซ้ำชั้น เมื่อเด็กไม่ผ่านก็ใช้วิธีการซ่อมในรายวิชานั้น แต่มาตรฐานการซ่อมของครูแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ครูบางคนใช้วิธีการซ่อมที่ไม่เหมาะสม ทุกวันนี้ เท่าที่ทราบเรื่องการตกซ้ำชั้นมีเฉพาะเด็กที่ขาดเรียน เข้าเรียนไม่ครบตามที่หลักสูตรกำหนดอย่างเห็นได้ชัด จึงจะซ้ำชั้น
ดังนั้นตนเห็นว่าควรจะต้องกลับมาดูเรื่องนี้กันใหม่ เพราะคุณภาพของเด็กที่จบออกมาในแต่ละชั้นปีจะส่งผลต่อการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น หากเด็กไม่ได้ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นก็จะเกิดปัญหา เช่น เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4 ยังอ่านไม่ออก เขียนไม่คล่อง เมื่อเลื่อนชั้นขึ้นก็เป็นภาระฉุดรั้งเพื่อน หรือเมื่อมาเรียนต่อในสายอาชีพ แทนที่จะสอนวิชาชีพได้เลย วิทยาลัยอาชีวศึกษาก็ต้องมาสอนวิชาสามัญเพิ่ม ไม่เช่นนั้นก็เรียนไม่ได้ ซึ่งเสียงสะท้อนเหล่านี้เราก็ต้องฟัง ส่วนจะนำเรื่องดังกล่าวกลับมาดำเนินการหรือไม่นั้น ก็ต้องรอดูข้อมูลของ สพฐ. โดยตนขอให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน
รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า นโยบายเรียนซ้ำชั้นไม่ได้เป็นนโยบายที่ตนทำตามใจตัวเอง ทุกอย่างต้องฟังทั้งคนใน ศธ.และคนนอก ศธ. และการจะนำระบบเรียนตกซ้ำชั้นกลับมาใช้ใหม่ก็ต้องมีเหตุผล ให้พัฒนาการศึกษาได้เร็วขึ้น หากทำได้เชื่อว่าจะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้เด็ก เพราะการเรียนตกซ้ำชั้นไม่ใช่สิ่งเลวร้าย
"คนเราทุกคนต้องเรียนรู้การผิดหวัง เพราะเราสร้างให้เด็กยอมรับความผิดหวังได้ เด็กบางอาจจะนำความผิดหวังนั้นเป็นแรงผลักดันในการสร้างความแข็งแกร่งก็ได้ แต่ต้องยอมรับว่าความผิดหวัง บางครั้งอาจจะทำให้รู้สึกล้มเหลวไปเลย แต่ผมคิดว่าคนแบบนี้มีน้อย ส่วนใหญ่เมื่อผิดหวังก็จะเข้มแข็งไปเอง" รมว.ศธ.กล่าว
พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนยังขอให้ นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) ไปวิเคราะห์ปัญหาว่าทำไมเด็กถึงชอบเรียนกวดวิชาหรือเรียนเสริมพิเศษนอกห้องเรียน และนำเหตุผลมาวิเคราะห์ เพราะตนไม่สบายใจที่ถูกสังคมปรามาสครูว่าสอนไม่ดี ทำให้เด็กเรียนไม่รู้เรื่องจึงไปเรียนพิเศษ และตนไม่เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น แต่ตนไม่สามารถใช้ความเชื่อตัดสินอะไรได้ ต้องใช้เหตุผลดูว่าเรียนเพื่ออะไร เช่น เด็กเรียนพิเศษเพื่อที่จะสอบเก็บคะแนน ใช้ในการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย เป็นต้น ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้เป็นเพียงการหาแนวทางแก้ไขปัญหาลดการกวดวิชาลง แต่คงไม่ถึงขั้นห้ามไม่ให้กวดวิชาเลย.