ชาวบ้านริมโขงกว่า 8,200 คน ลงชื่อค้านสร้างเขื่อนเเม่น้ำโขง
ประชาชนแม่น้ำโขงกว่า 8,200 คน ลงชื่อในแถลงการณ์ต่อรัฐบาลแม่น้ำโขง ไปยังรัฐบาลไทย-ลาว-กัมพูชา-เวียดนาม โปรดเห็นใจต้องรับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน2558 ตัวแทนชาวบ้านแม่น้ำโขงจากสามประเทศ ส่งหนังสือพร้อม “แถลงการณ์ประชาชน ว่าด้วยโครงการเขื่อนในภูมิภาคแม่น้ำโขง: รัฐบาลประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ต้องฟังเสียงประชาชน!” และสำเนาลายเซ็นและลายนิ้วมือของประชาชนจำนวนทั้งสิ้น 8,271 คน ไปยังรัฐบาลสปป.ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม
รวมมีรายชื่อและการลงลายนิ้วมือจากประชาชน 2,906 คนจากประเทศกัมพูชา รายชื่อพร้อมลายเซ็นของประชาชน 1,891 คนจากประเทศไทย และรายชื่อพร้อมลายเซ็นของประชาชน 3,474 จากประเทศเวียดนาม แนบท้ายไปด้วย
โดยทั้งหมดนี้ ส่วนใหญ่เป็นการลงนามโดยประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำโขงในทั้งสามประเทศ พื้นที่รอบทะเลสาบเขมรในกัมพูชา และปากแม่น้ำโขงในเวียดนาม นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจาก 77 องค์กรทั้งจากในภูมิภาคเเละนานาประเทศ
การรวบรวมรายชื่อสำหรับแถลงการณ์ประชาชน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2558 เป็นต้นมานี้ เป็นกระบวนการเคลื่อนไหวที่ทำร่วมกันระหว่างเครือข่ายประชาชนแม่น้ำโขงทั้งสามประเทศ แม้ยังไม่ปรากฏว่ามีเครือข่ายประชาชนใดจากประเทศสปป. ลาวสามารถเข้าร่วมลงรายชื่อในแถลงการณ์ดังกล่าวได้
หนังสือส่งมอบ ซึ่งลงนามโดยนายลอง โสแจด (Long Sochet) ตัวแทนชุมชนชาวประมงกัมพูชา (CCF) นายชาญณรงค์ วงศ์ลา จากกลุ่มฮักเชียงคาน ประเทศไทย และนายโว ทัน ตรัง (Vo Thanh Trang) ตัวแทนชาวบ้านจังหวัดอันเกียง ปากแม่น้ำโขงประเทศเวียดนาม
ระบุจุดยืนจากแถลงการณ์และของเครือข่ายประชาชนอีกครั้ง หลังการพยายามเชิญตัวแทนรัฐบาลเข้าร่วมการประชุมระดับภูมิภาค“เสียงประชาชนแม่น้ำโขง: สารถึงรัฐบาลแม่น้ำโขงเรื่องเขื่อนแม่น้ำโขง” ที่เครือข่ายสามประเทศพยายามจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่มหาวิทยาลัยอันเกียง ปากแม่น้ำโขงประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
โดยระบุว่า แถลงการณ์ที่ส่งมานี้แสดงให้เห็นความทุกข์ร้อนขมขื่นของพวกเรา จากผลกระทบการสร้างเขื่อนใหญ่ที่มีมาแล้ว และที่กำลังจะมีเพิ่มบนแม่น้ำโขงสายหลักและแม่น้ำต่าง ๆ ในลุ่มแม่น้ำโขง เราจึงขอเรียกร้องอย่างจริงจัง ให้รัฐบาลของเราฟังเสียงของประชาชน และเคารพสิทธิของเราในการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคต และแม่น้ำของเรา และเรียกร้องปฎิบัติการอย่างเร่งด่วนเกี่ยวกับเขื่อนที่กำลังถูกผลักดัน โดยเฉพาะเขื่อนดอนสะโฮงในสปป. ลาว
“พวกเรา ชาวบ้านและพลเมืองของภูมิภาคแม่น้ำโขง มีพันธะสัญญาต่อกันที่จะทำงานเกี่ยวกับเขื่อนในภูมิภาคร่วมกันต่อไป การรวบรวมรายชื่อและลายนิ้วมือจะยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าพวกเราจะได้คำตอบในเรื่องที่เราเรียกร้อง”
สำหรับประเทศไทย จดหมายถูกส่งตรงไปยังพลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย โดยจะส่งสำเนาถึงปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ
ในผู้ลงนามในจดหมายตอบจากสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทยมายังเครือข่ายประชาชนแม่น้ำโขงของทั้งสามประเทศในวันที่ 11 พฤศจิกายนว่า ไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมระดับภูมิภาคได้ เพราะปลัดกระทรวงฯ “ติดภาระกิจอื่น”