พม.จับมือประชาสังคม เสนอ 6มิติฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ก.พัฒนาสังคมฯ ร่วมกับเครือข่ายสตรี-ภาคประชาสังคม เสนอ 6 มิติ เยียวยาฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย ตั้งศูนย์ลงทะเบียนผู้ประสบภัย One-stop Service
นางสาวศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า จากการประชุมระดมความคิดเห็นร่วมกับเครือข่ายองค์กรสตรีและองค์กรพัฒนาภาคประชาสังคม กรณีปัญหอุทกภัยในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อระดมความคิดประมวลเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเรื่องการเยียวยาฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม และแผนการป้องกันและรับมือพิบัติภัยธรรมชาติในอนาคต ที่ประชุมได้มีข้อเสนอแนะ แผนการช่วยเหลือในระยะสั้น
โดยในกรณีที่ชุมชนต้องการอพยพ มอบหมายกระทรวงฯ โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ประสานการอพยพชุมชนออกจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่รัฐจัดให้ และการให้ความช่วยเหลือในกรณีชุมชนพึ่งตนเอง ซึ่งเป็นชุมชนผู้ประสบภัยที่ไม่ได้อพยพ และประสงค์จะพักอาศัยอยู่ในบ้านเรือนต่อไป โดยใช้ระบบบริหารจัดการในชุมชนด้วยตนเองให้จัดถุงยังชีพมอบให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอบางบัวทอง คลองสามวาตะวันออกและคลองสามวาตะวันตก ภาษีเจริญ สะพานสูง สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย และสมาคมสมาพันธ์เครือข่ายเด็กและสตรี คนหูหนวกแห่งประเทศไทย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า
ขณะที่และแผนการช่วยเหลือระยะยาว ซึ่งเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเรื่องการเยียวยา ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม และแผนการป้องกันและรับมือพิบัติภัยธรรมชาติในอนาคต 6 มิติ ได้แก่ การฟื้นฟูเชิงกายภาพ ทั้งการฟื้นฟูชุมชน ซ่อมแซมบ้านเรือนให้ประชาชน การตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์แบบครบวงจรในชุมชน การฟื้นฟูเชิงเศรษฐกิจ มีการฟื้นฟูอาชีพและสร้างรายได้ มาตรการในการช่วยเหลือภาระหนี้สินและการขาดรายได้-ตกงาน โดยจัดตั้งศูนย์ลงทะเบียนผู้ประสบภัย One-stop Service Flood Victims Center ผู้ประสบภัยที่มีหนี้สินและสูญเสียรายได้จากการได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม ต้องได้รับการพักการชำระหนี้ทันทีไม่ต่ำกว่า 6 เดือนขึ้นไป
ปัญหาสุขภาวะ–ชีวอนามัย การป้องกันและควบคุมโรคระบาดอันเนื่องมาจากภาวะน้ำท่วม และการเจ็บไข้ได้ป่วยอันเนื่องมาจากน้ำท่วม โดยรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องการป้องกันเชื้อโรค ให้บริการสาธารณสุขขั้นมูลฐานกับประชาชนและชุมชนหลังน้ำลด ปัญหาสภาวะจิตใจและความมั่นคง สร้างกลไกเฝ้าระวังเรื่องความเครียดและสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจให้ผู้ประสบภัย การวางแผนป้องกันรับมือพิบัติภัยธรรมชาติในระยะยาว จัดตั้งกลไกระดับชาติเพื่อจัดการปัญหาภัยพิบัติอย่างบูรณาการ ตั้งศูนย์รับมือภัยพิบัติในระดับชุมชนปฏิบัติการในพื้นที่ และการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน เพื่อป้องกันและรับมือภัยพิบัติในอนาคต ควรมีการอบรมอาสาสมัครชุมชน แปรชุมชนจากการเป็นผู้รอรับการช่วยเหลือ เป็นชุมชนจัดการตนเอง และชุมชนอาสาป้องกันภัย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะเป็นผู้นำมติดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาลต่อไป .