เก่าไปใหม่มา...เปลี่ยนผู้ว่าฯ จชต.ยกชุด
มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ 15 พ.ย.2554 ซึ่งอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับรองปลัดกระทรวง อธิบดี และผู้ว่าราชการจังหวัด (ระดับ 10) จำนวน 34 ตำแหน่งนั้น ปรากฏว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตำแหน่งผู้ว่าฯของทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
กล่าวคือ นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าฯนราธิวาส ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯสมุทรสงคราม นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าฯยะลา ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯสงขลา และนายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯปัตตานี
ทั้งนี้ ในส่วนของ นายธนน กับ นายกฤษฎา เป็นการ "ย้ายออก" จากพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะกรณีของนายกฤษฎา ถือว่าได้ไปจังหวัดใหญ่กว่า ในทางราชการเสมือนได้โบนัส ส่วน จ.สมุทรสงคราม ที่นายธนนได้รับแต่งตั้งให้ไปเป็นผู้ว่าฯคนใหม่นั้น แม้จะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่สงบสุข มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่สำคัญ และชุมชนท้องถิ่นมีความเข้มแข็งมาก
บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ยังไม่มีชื่อผู้ว่าฯคนใหม่ของทั้ง 2 จังหวัด โดยเป็นที่คาดหมายกันว่าจะมีการผลักดันรองผู้ว่าฯอาวุโสอันดับ 1 ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน
ส่วนกรณีของ นายธีระ ผู้ว่าฯปัตตานีคนใหม่นั้น ถือว่าเป็นการ "ย้ายเข้า" เนื่องจากผู้ว่าฯปัตตานีคนเก่า คือ นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล เกษียณอายุราชการไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย. แต่นายธีระไม่ถือเป็น "คนหน้าใหม่" สำหรับพื้นที่นี้ เพราะเคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯยะลาก่อนหน้านายกฤษฎา และนายธีระยังเป็นคน อ.เมืองปัตตานีด้วย
เส้นทางการรับราชการของนายธีระ หรือที่คนในพื้นที่เรียกกันติดปากว่า "ผู้ว่าฯเด" เคยเป็นปลัดอำเภอหลายอำเภอใน จ.ปัตตานี ทั้ง อ.เมือง กิ่ง อ.ไม้แก่น (เดิม) อ.สายบุรี อ.ยะหริ่ง อ.ปะนาเระ กิ่ง อ.กะพ้อ (เดิม) อ.ยะรัง และกิ่ง อ.ทุ่งยางแดง (เดิม)
ปี 2541 ขึ้นเป็นผู้อำนวยการกองประสานงานความมั่นคง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ปี 2544 เป็นนายอำเภอระแงะ จ.นราธิวาส ถัดจากนั้นอีก 1 ปี เป็นนายอำเภอเบตง จ.ยะลา ปี 2546 เป็นปลัดจังหวัดปัตตานี จากนั้นอีก 2 ปีเป็นรองผู้ว่าฯนราธิวาส รองผู้ว่าฯปัตตานี และขึ้นเป็นผู้ว่าฯยะลาเมื่อปี 2549 ก่อนจะขยับออกไปเป็นผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช เมื่อปี 2552 และล่าสุดกลับไปเป็นผู้ว่าฯปัตตานี เพื่อพัฒนาบ้านเกิดในปีสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ
นายธีระ หรือ "ผู้ว่าฯเด" สมัยขึ้นเป็นผู้ว่าฯยะลา นับเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดคนแรกในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นมุสลิม จากนั้นก็มี นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล อดีตผู้ว่าฯปัตตานีที่เพิ่งเกษียณอายุราชการไปซึ่งเป็นมุสลิมและเป็นคนปัตตานีเช่นกัน การกลับไปเป็นผู้ว่าฯที่บ้านเกิดของนายธีระ จึงมีกระแสตอบรับค่อนข้างดีจากประชาชนในพื้นที่
ขณะที่ นายกฤษฎา บุญราช ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าฯสงขลาคนใหม่ หลังจากทำผลงานดีเยี่ยมสมัยเป็นผู้ว่าฯยะลาซึ่งเป็นผู้ว่าฯจังหวัดแรกของเขา เคยเป็นนายอำเภอแหวนเพชร และถูกดึงเข้าไปทำงานที่สำนักงานจังหวัดปัตตานีในฝ่ายแผนและโครงการ โดยขณะนั้นมี นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ปี 2537 ขึ้นเป็นนายอำเภอที่ จ.เชียงใหม่ และอยู่ที่เชียงใหม่นานถึง 7 ปีจึงโยกเข้าภาคกลาง ไปเป็นนายอำเภอเมืองอ่างทองและนายอำเภอเมืองปทุมธานี
เดือน เม.ย.2547 กรมการปกครองตั้งนายกฤษฎาเป็นผู้ตรวจราชการกรมฯ และเจ้าตัวได้เลือกเป็นผู้ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำหน้าที่อยู่ 2 ปีจึงอาสาเข้าทำหน้าที่รองผู้ว่าฯยะลา ทำงานอีก 3 ปีจึงได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าฯ และล่าสุดข้ามไปเป็นผู้ว่าฯสงขลา แต่ก็ยังถือเป็นหนึ่งใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่อยู่ภายใต้กฎหมายของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งนายกฤษฎาได้รับการทาบทามจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.คนใหม่ ให้ทำหน้าที่รองผอ.ศอ.บต.จากฝ่ายปกครองอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
ส่วน นายธนน เวชกรกานนท์ อดีตผู้ว่าฯนราธิวาสหมาดๆ เคยเป็นปลัดจังหวัดราชบุรีเมื่อปี 2547 หลังจากนั้นอีก 2 ปีขึ้นเป็นรองผู้ว่าฯราชบุรี และปีรุ่งขึ้นก็ล่องใต้เป็นรองผู้ว่าฯนราธิวาส กระทั่งวันที่ 1 ต.ต.2552 ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯนราธิวาส ทำหน้าที่อยู่ 2 ปีจึงโยกออกจากพื้นที่ไปพักเหนื่อยที่ จ.สมุทรสงคราม
การโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของกระทรวงมหาดไทยเที่ยวนี้ ทำให้ตำแหน่งข้าราชการฝ่ายปกครองที่สำคัญในพื้นที่ถูกปรับเปลี่ยนยกชุด รวมทั้งตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต. ซึ่งมีภาพเป็นฝ่ายปกครองด้วยเช่นกัน
เก่าไปใหม่มา...ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของบระบบราชการที่เกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย การปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักธรรมาภิบาลและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างจริงใจต่างหากที่จะคงทนถาวรและอยู่ในความทรงจำของชาวบ้านตลอดไป
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เก่าไปใหม่มา...จากซ้ายไปขวา นายธีระ มินทราศักดิ์ นายกฤษฎา บุญราช และ นายธนน เวชกรกานนท์