บทบาท 'กองทัพบก'กับ'อุทยานราชภักดิ์' ห้ามมีคำว่า 'ทุจริต' เด็ดขาด!
"..ต้องมีการแยกระหว่างคนทำไม่ดี กับคนมอบเงิน ถ้าใครไปทำผิด ก็ลงโทษคนนั้น ไม่ใช่รัฐบาลรับผิดชอบทั้งหมด กองทัพเป็นคนเริ่มโครงการนี้ ไม่ใช่ คสช.เริ่ม เป็นโครงการเพื่อเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นว่าเป็นโครงการที่ดี จึงอนุมัติเงินให้ไปจำนวนหนึ่ง ขณะที่เงินอีกส่วน กองทัพไปหาเอง.."
นับตั้งแต่การดำเนินงานโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ถูกระบุว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น ในขั้นตอนการดำเนินงานส่วนต่างๆ
"การแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น" ดูเหมือนจะเป็นประเด็นสำคัญประเด็นหนึ่งกลุ่มการเมืองขั้วอำนาจเก่า หยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นทางสังคม ส่งสัญญาณเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงท่าทีที่ชัดเจนต่อเรื่องนี้
ขณะที่ 'พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ออกมายืนยันเสียงแข็งว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสอบสวนข้อเท็จจริง กำลังทำตามหน้าที่ ตามอำนาจทางกฎหมาย ในการเข้าไปตรวจสอบในปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ(ป.ป.ท.) ได้ทำหนังสือไปถึงกองทัพบกว่าได้เข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว เพื่อทำงานซ้อนกับคณะกรรมการที่กองทัพบกตั้งขึ้นมาตรวจสอบด้วย เพื่อป้องกันข้อครหา เนื่องจากเป็นประเด็นกระแสสังคม
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ไพบูลย์ ได้เรียกร้องไปยังพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ถ้ามีหลักฐานในการทุจริตกรณีดังกล่าว ขอให้นำมามอบให้กับตนได้ทันที พร้อมเปิดห้องรับฟังและจะดำเนินการลงมาสอบสวนด้วยตัวเอง เพราะนายกรัฐมนตรีประกาศชัดเจนแล้วว่าใครผิด ก็ต้องถูกลงโทษ ไม่ละเว้น แต่พรรคเพื่อไทยควรย้อนกลับไปดูในสมัยที่เป็นรัฐบาลมากี่ปี ปล่อยให้มีทุจริตมากมายแค่ไหน
พล.อ.ไพบูลย์ ยังระบุด้วยว่า "หากพรรคเพื่อไทยมีหลักฐาน ระบุชัดตัวบุคคล วัน เวลา สถานที่ เอามาให้พล.อ.ไพบูลย์ จะเปิดห้องลงมือสอบเอง นี่เห็นแต่นั่งมโนกันทั้งสื่อมวลชนชอบเขียน ชอบพูดกันทุกวัน โยงคนนั้นคนนี้ ทะเลาะในกองทัพ ผู้ใหญ่ไม่ถูกกันบ้าง ถามว่าต้องการบั่นทอนความเชื่อมั่นสถาบันกองทัพและหวังผลทางการเมืองใช่หรือไม่ อย่าทำตามกระแสตีกินสร้างภาพอยู่ข้างนอก"
"ต้องมีการแยกระหว่างคนทำไม่ดี กับคนมอบเงิน ถ้าใครไปทำผิด ก็ลงโทษคนนั้น ไม่ใช่รัฐบาลรับผิดชอบทั้งหมด กองทัพเป็นคนเริ่มโครงการนี้ ไม่ใช่ คสช.เริ่ม เป็นโครงการเพื่อเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นว่าเป็นโครงการที่ดี จึงอนุมัติเงินให้ไปจำนวนหนึ่ง ขณะที่เงินอีกส่วน กองทัพไปหาเอง"
เพื่อให้สาธารณชนรับทราบข้อเท็จจริงมากขึ้น โดยเฉพาะบทบาท ของ รัฐบาล คสช. และกองทัพบก ในการดำเนินงานโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ศูนย์รวมศรัทธาของคนไทยทั้งประเทศ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังการดำเนินงานโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ จากฐานข้อมูลเว็บไซต์สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) พบข้อเท็จจริงดังนี้
- คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 27 มี.ค.2558 รับทราบตามที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก รายงานว่ากระทรวงกลาโหม โดยกองทัพบก มีแนวคิดจะจัดสร้างอุทยานประวัติศาสตร์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยามขึ้นในพื้นที่ของกองทัพบก บริเวณฝั่งตรงข้ามสวนสนประดิพัทธ์ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
โดยมีองค์ประกอบ 3 ส่วน ได้แก่
ส่วนที่หนึ่ง พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยามจำนวน 7 พระองค์ ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์
ส่วนที่สอง ลานอเนกประสงค์ เป็นพื้นที่สำหรับใช้กระทำพิธีสำคัญของกองทัพบก และรับรองบุคคลสำคัญจากต่างประเทศในโอกาสที่มาเยือนอย่างเป็นทางการ
และส่วนที่สาม อาคารพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม จัดสร้างอยู่บริหารใต้ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ
ทั้งนี้ ได้ประสานขอความร่วมมือจากกรมศิลปากรในการดำเนินการให้เป็นไปอย่างถูกต้อง งดงาม และสมพระเกียรติ
สำหรับงบประมาณจะประสานขอความร่วมมือและเชิญชวนหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมบริจาคเงินสมทบทุนการจัดสร้าง โดยกำหนดจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ.2559
และหากกระทรวงกลาโหมมีความจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนการจัดสร้างจากเงินงบประมาณด้วยก็ให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ต่อมาในช่วงเดือนพ.ค.2558 พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงได้นามในหนังสือแจ้งความคืบหน้าการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ให้ที่ประชุม ครม. รับทราบ
ระบุสาระสำคัญว่า ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ได้มีหนังสือถึงสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อขอให้นำความกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองพระบาท เรื่อง กองทัพบกจะดำเนินการจัดสร้างอุทยานประวัติศาสตร์ ณ บริเวณพื้นที่ของกองทัพบก ในเขตอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างและพระราชทานชื่อว่า "อุทยานราชภักดิ์" โดยจะใช้พื้นที่รวมประมาณ 222 ไร่
มีองค์ประกอบหลักที่สำคัญ 3 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม จำนวน 7 พระองค์ เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่
ส่วนที่ 2 ลานอเนกประสงค์ เนื้อที่ประมาณ 91 ไร่ สำหรับใช้กระทำพิธีที่สำคัญ
ส่วนที่ 3 อาคารพิพิธภัณฑ์ หรือห้องจัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ บริเวณ ด้านล่างฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ จะเป็นการนำเสนอเกี่ยวกับพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจที่สำคัญตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
สำหรับงบประมาณที่จะใช้ในการจัดสร้างจะเป็นลักษณะของการประชาสัมพันธ์และเชิญชวนหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมบริจาคเงินสมทบทุนการจัดสร้างโดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง ดังนี้
1. เพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณสมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยามตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
2. เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับกระทำพิธีที่สำคัญของกองทัพบกและรับรองบุคคลสำคัญจากต่างประเทศ ในโอกาสที่มาเยือนกองทัพบกอย่างเป็นทางการ
3. เพื่อใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์
ทั้งนี้ ในหนังสือแจ้งความคืบหน้าการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่ลงนามโดย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดังกล่าว ยังระบุว่า กระทรวงกลาโหม จึงขอความกรุณาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อทราบความคืบหน้าการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ณ บริเวณพื้นที่ของกองทัพบก ในเขตอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า สำนักงานราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร แจ้งว่ าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับเป็นองค์ประธานที่ปรึกษาในคณะกรรมการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ (ดูเอกสารประกอบ)
ก่อนที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีมติรับทราบตามที่กระทรวงกลาโหมรายงานความคืบหน้าการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ดังกล่าว อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 2 มิ.ย.2558 ที่ผ่านมา
ด้วยบทบาทของกองทัพบก ที่มีต่องานสร้างอุทยานราชภักดิ์ดังกล่าว และความสำคัญในขั้นตอนการดำเนินงานตามข้อมูลที่ระบุไป
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร ที่ในระหว่างการแถลงผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในการใช้จ่ายงบประมาณ และการบริหารงานก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2558 ของ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) จะรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เมื่อถูกสื่อมวลชนถามถึงข้อมูลความผิดปกติที่เกิดขึ้นในหลายส่วน
เห็นได้ชัดเจนจากสำคัญให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ธีรชัย ที่ยืนยันชัดเจนว่า การดำเนินงานโครงการฯ นี้ ในช่วงที่ผ่านมาเป็นไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น และไม่จำเป็นต้องให้หน่วยงานใดมาตรวจสอบ
"สื่อไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะตรวจสอบ ตนเป็นผู้ดำเนินการ"
“จะเอาให้ตายกันไปเลย หรือประหารชีวิต 7 ชั่วโคตร อยากให้ดูเจตนาคนทำบ้าง ถ้าเป็นแบบนี้จะอยู่กันมีความสุขได้อย่างไร เขาไม่มีอะไรและไม่ได้ทำอะไร ก็จะให้ผิดให้ได้ เขาอยู่เฉยๆ เขาเจตนาดีก็จะให้เขาผิดให้ได้ สังคมไทยเป็นอะไรกันตอนนี้”
"ส่วนการตรวจสอบการทุจริต หากมีอะไรต่อไปข้างหน้าไม่ปล่อยอยู่แล้ว"
นั่นเป็นเพราะว่าถ้าโครงการฯมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น หน่วยงานที่จะต้องรับผิดชอบเป็นอันดับแรก ก็หนีไม่พ้น "กองทัพบก" นั่นเอง
และความรุนแรงของปัญหาน่าจะบานปลาย ไปถึงผู้บริหารระดับสูงในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะต้องมีส่วนรับผิดชอบในเหตุความผิดปกติ ที่เกิดขึ้นด้วย
เรียกได้ว่า "พัง" กันเป็นแถบ
ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรอีกเหมือนกันเมื่อสื่อมวลชนถามถึงกรณี ที่ พล.อ.อุดมเดช ยอมรับว่า มีเซียนพระหักค่าหัวคิวจากโรงหล่อจริงนั้น
พล.อ.ธีรชัย จะตอบคำถามเพียงแค่ว่า เรื่องนี้อยากให้ท่านชี้แจง และสื่อควรไปถามท่านเอง จะเรียกว่าค่านายหน้าหรืออะไรก็แล้ว แต่ไปถามท่านเอง!
ตอกย้ำให้เห็นชัดเจน สำหรับโครงการนี้ กองทัพบก จะไม่ยอมไม่ให้คำว่า 'ทุจริต' เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด
ใครทำอะไรไว้ ก็ไปรับผิดชอบกันเอาเอง?
อ่านประกอบ :
ผบ.ทบ.ลั่นสร้าง‘อุทยานราชภักดิ์’ไม่มีทุจริต! ปมหักหัวคิวให้ถาม ‘อุดมเดช’
ป.ป.ช.ยังไม่พบ จนท.รัฐทุจริตปมสร้างอุทยานราชภักดิ์-ขอข้อมูล ทบ.เพิ่ม
เจอหักค่านายหน้า 12 ล.!เปิดตัว'โผนปฏิมากรรมฯ' โรงหล่อแห่ง2 อุทยานราชภักดิ์
แกะรอย 'อุ๊ กรุงสยาม' เซียนพระคดีอุทยานราชภักดิ์ ถูกทหารเชิญตัวให้ปากคำจริงหรือ?
เปิดตัว'โรงหล่อประติมาไฟน์' ถูกชักหัวคิว 10 % พันคดีอุทยานราชภักดิ์
รอผล ทบ.ก่อน! ป.ป.ช.ยังไม่ลุยสอบปม‘อุทยานราชภักดิ์’
ทรัพย์สิน 22 ล.‘พล.อ.สุรเชษฐ์’ก่อนนั่งรอง ปธ.มูลนิธิราชภักดิ์
เผยโฉมที่ตั้ง'มูลนิธิราชภักดิ์'ทหารเวรอ้างบ้าน'อุดมเดช'
ศรัทธาแห่ง “อุทยานราชภักดิ์” ทำลายไม่ได้! ถ้าการใช้จ่ายเงินโปร่งใส
ใครเป็นใคร 6 กรรมการ 'มูลนิธิราชภักดิ์'
แพร่ประกาศตั้ง"มูลนิธิราชภักดิ์” ประเดิมทุนเริ่มแรก 2แสน 'อุดมเดช' นั่งปธ.
1,288 รายชื่อบริจาคสร้าง'อุทยานราชภักดิ์' กลุ่มทรูมากสุด5ล.-'หมอหยอง' 1 แสน
ตามไปดู! 'อุทยานราชภักดิ์' ในวันที่ 'คนบางกลุ่ม' ทำเรื่องมิบังควร!