สมาชิกสนช.เสนอร่างพ.ร.บ.คุ้มครองเกษตรพันธสัญญา หวังประโยชน์ตกที่เกษตรกรรายย่อย
เปิดร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองการทำสัญญาผลิตสินค้าและบริการทางการเกษตรในระบบเกษตรพันธสัญญา กำหนดคุ้มครองการทำสัญญาผลิตสินค้าและบริการทางการเกษตรเป็นสำคัญ รวมถึงมาตรฐานที่เป็นธรรมภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายไว้เป็นการเฉพาะ
เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางสมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) นำโดยนายสิงห์ศึก สิงห์ไพร และคณะ ได้นำเสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการคุ้มครองการทำสัญญาผลิตสินค้าและบริการทางการเกษตรในระบบเกษตรพันธสัญญา ต่อประธานสภานิติบัญญัติ
โดยในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวนั้น จัดทำขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรรายย่อย ให้สามารถแข่งขันภายใต้ตลาดเกษตรสมัยใหม่ที่มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างรวดเร็ว
การเสนอร่างพ.ร.บ. ฉบับนี้นั้น มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้มีกำกับและคุ้มครองการทำสัญญาผลิตสินค้าและบริการทางการเกษตรในระบบเกษตรพันธสัญญาอย่างเป็นธรรมต่อคู่สัญญาและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการสร้างความร่วมมือและพัฒนาศักยภาพในฐานะหุ้นส่วนอย่างยั่งยืน ทั้งทางด้านความมั่นคงของรายได้ มาตรฐานในการประกอบการทั้งภาคการรผลิตและภาคบริการ มีการควบคุมต้นทุนอย่างเป็นธรรม รวมไปถึงการควมคุมจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ
ในร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ได้ให้คำนิยามศัพท์ "ระบบเกษตรพันธสัญญา" และมุ่งเน้นที่การคุ้มครองการทำสัญญาผลิตสินค้าและบริการทางการเกษตรเป็นสำคัญ โดยให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ ตลอดจนรายละเอียดอันจำเป็นของสัญญา มาตรฐานที่เป็นธรรมภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายไว้เป็นการเฉพาะ
โครงสร้างของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ประกอบไปด้วย บทบัญญัติ 3 หมวด รวมทั้งสิ้น 24 มาตรา ครอบคลุมการกำหนดแนวทางการกำกับและควบคุมการทำสัญญาที่เป็นธรรม ลักษณะและรายละเอียดของสัญญามาตรฐาน การแจ้งจดทะเบียนสัญญา การจดทะเบียนและการเพิกถอนทะเบียนผู้ประกอบการธุรกิจทางการเกษตร ตลอดจนการระงับข้อพิพาท อันเป็นกรณีจำเป็นสำหรับการคุ้มครองการทำสัญญาให้เกิดความเป็นธรรม และป้องกันปัญหาผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ระบบนิเวศ ตลอดจนต่อบุคคลอื่นจากการดำเนินการตาสัญญาภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญา
ทั้งนี้ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีบทกำหนดโทษ ผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตร หรือเกษตรกร มีเจตนาหลีกเลี่ยงการจัดทำสัญญาเอาไว้ที่ จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่ต่ำกว่าสองแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ