ดูเครือข่ายตัดไม้พะยูง จ.อุบลฯ ก่อนสอบ 3 นาย ตร.รีดสด 1 แสน ผู้ต้องหา
เปิดบันทึกข้อความฉบับเต็ม! รอง สว.ป. ช่องเม็ก รายงาน ขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงส่งประเทศเพื่อนบ้าน แบ่งหน้าที่กันทำเป็นเครือข่าย ก่อนกรณีตั้ง กก.สอบ 3 นายตำรวจเรียกเงิน 1 แสนผู้ต้องหานั่งนับสดในรถกะบะวีโก้ จับตา!ตอนจบ
กรณี พล.ต.ต.ธวัชชัย นิลานุช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีนายตำรวจชั้นสัญญายศ ร.ต.ต.- พ.ต.ต. จำนวน 3 นายของอำเภอช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ถูกร้องเรียนมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ต้องหาคดีลักลอบตัดไม้พะยูง จำนวน 100,000 บาท เมื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ย.58 ในพื้นที่ อ.ช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ตามข่าวสำนักข่าวอิศรา wwwisranews.org ก่อนหน้านี้ (อ่านประกอบ: นั่งนับสด ๆในรถวีโก้! ตั้งกก.สอบ 3 นาย ตร.รีดเงินคดีตัดไม้พะยูง จ.อุบลฯ 1 แสน)
เหตุการณ์ก่อนที่ 3 นายตำรวจจะถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้างต้นนั้น วันที่ 11 ก.ย.58 เวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช่องเม็ก 5 นาย นำโดย พ.ต.ท.วิรัช ทรัพย์คณารักษ์ รอง ผกก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดอุบลราชธานีได้ร่วมกันจับกุมชาวบ้าน 2 คน ชื่อ นายไพรวรรณ เทพสวัสดิ์ อายุ 44 ปี และนายไพรบูรณ์ จาระงับ อายุ 45 ปี ภูมิลำเนาอยู่ใน อ.สิรินธร และอ.โขงเจียม จ.อุบลฯ
ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ให้การเบื้องต้นว่า ขณะกำลังตัดไม้อยู่นั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนชุดหนึ่ง จำนวน 4 นาย ได้เข้ามายังที่เกิดเหตุ ได้เข้ามายังที่เกิดเหตุ และควบคุมตัวตนกับลูกน้องที่ทำหน้าที่ดึงเลื่อยเอาไว้ แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าถ้าอยากให้เรื่องจบให้นำเงินจำนวน 150,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่จับกุมดำเนินคดี นายไพรวรรณ ได้ต่อรองเหลือ 100,000 บาท เมื่อตกลงกันได้จึงหายืมเงินจากผู้ร่วมขบวนการตลอดจนคนรู้จัก เมื่อได้ครบจำนวน จึงได้ทำการตรวจนับเงินในรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์ทอง คันที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวขับขี่มา ขณะนับเงินมี เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายนั่งขนาบข้างไว้ คนหนึ่งมีลักษณะตัวผอม ผิวดำ อายุประมาณ 50 ปี อีกนายหนึ่งตัวค่อนข้างท้วม ผิวดำแดง ตัดผมรองทรงสูง อายุประมาณ 40 ปีเศษ ลูกน้องที่มาด้วยกันเรียก “สารวัตร”
เมื่อส่งมอบเงินสดจำนวน 100,000 บาท เสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ที่รับเงินส่งมอบเงินคืนตนจำนวน 1,000 บาท ไว้ติดกระเป๋า และตำรวจคนที่มีรูปร่างผอม ผิวดำ หน้าตา ท่าทางมีอายุมากกว่าคนอื่นได้บอกกับตนว่าให้รีบตัดไม้พะยูงต่อเสร็จแล้วรีบไป ก่อนปล่อยตัวมือเลื่อยแล้วขับรถออกไป นายไพรวรรณจึงสั่งลูกน้องเลื่อยไม้ต่อ และในเวลาต่อมาจึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุด (ชุดของ พ.ต.ท.วิรัช ทรัพย์คณารักษ์ รอง ผกก.ป.) ร่วมกับเจ้าหน้าท่าไม้เข้าจับกุมดำเนินคดีในที่สุด
กรณีดังกล่าว สำนักข่าวอิศรานำบันทึกข้อความ ร.ต.ท.สุสันต์ คิรีเขียว รอง สวป.สภ.ช่องเม็ก ส่งถึงพนักงานสอบสวนช่องเม็ก กล่าวถึงพฤติการณ์ของขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงกลุ่มนี้ สรุปสาระสำคัญมาเสนอดังนี้
ขอเรียนว่าหลังจากที่ ข้าฯ พร้อมพวก ร่วมกับ จนท.ป่าไม้ อบ.14 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายไพวรรณ เทพสวัสดิ์ และนาย ไพรบูรณ์ จาระงับ จึงได้นำโทรศัพท์มือถือของผู้ถูกกล่าวหามาประกอบการสืบสวนขยายผล หาตัวผู้ร่วมขบวนการในการกระทำความผิด ทำให้ทราบว่ามีเครือข่ายผู้ร่วมกระทำความผิด ดังนี้
1. นายสุรัตน์ xxxx (ขอปิดนามสกุล) เลขที่ 58 ม.9 ต.นาเยีย อ.นาเยีย จว.อุบลฯ ปัจจุบันได้มาประกอบธุรกิจรับซื้อมันสำปะหลัง อยู่ที่บ้านหนองชาติ ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จว.อุบลฯ ใช้โทรศัพท์หมายเลข 083 xxxxxx ซึ่งในวันเกิดเหตุ (11 ก.ย. 58) นายไพรวรรณฯ ได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อนายสุรัตน์ฯ จำนวน 17 ครั้งตามเอกสารที่แนบมาท้าย
2. นายประสงค์ xxxx เลขที่ 475 ม.1 ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จว.อุบลฯ ใช้โทรศัพท์หมายเลข 085 xxxxx ซึ่งในวันเกิดเหตุ (11 ก.ย. 58) นายไพรวรรณฯ ได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อนายประสงค์ฯ จำนวน 13 ครั้ง ตามเอกสารที่แนบมาท้ายรายงานนี้
3. นายไพรเวช จาระงับ เลขที่ 31 ม.7 ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จว.อุบลฯ ใช้โทรศัพท์หมายเลข 088 xxxxx ในวันเกิดเหตุนายไพรวรรณฯ ได้ใช้โทรศัพท์ ติดต่อนายไพรเวชฯ จำนวน 12 ครั้ง
4. นายแพล พุ่มแก้ว เลขที่ 21/1 ม.4 ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จว.อุบลฯ มีอาชีพรับจ้างตัดไม้และเป็นทีมเดียวกันกับนายไพรวรรณฯ
จากการสืบสวนหาข่าวมาโดยต่อเนื่อง และสอบถามจากผู้ที่น่าเชื่อถือ ทราบว่า บุคคลดังกล่าวเป็นกลุ่มเครือข่ายลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ โดยลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ ดังนี้
- นายสุรัตน์ฯ ลำดับที่ 1 เป็นนายทุนผู้ออกค่าใช้จ่ายในการตัดไม้
- นายประสงค์ ลำดับที่ 2 เป็นผู้ติดต่อประสานงาน ชี้เป้า ตลอดจนติดต่อ เคลียร์เส้นทางหากมีเจ้าหน้าที่รับสินบน และในวันเกิดเหตุได้อยู่ในพื้นที่เพื่อดูความเคลื่อนไหวของ จนท.ตำรวจ
- นายไพรเวชฯ ลำดับที่ 3 มีหน้าที่นำไม้ข้ามไปจำหน่ายยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากนายนายไพรเวชฯ เป็นราษฎรบ้านห้วยหมากไต้ อ.โขงเจียม จว.อุบลฯ มีบ้านอยู่ติดกับท่าน้ำที่ใช้เป็นเส้นทางลักลอบนำของผิดกฏหมายไปขายยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน แต่นายไพรเวชฯ เป็นเขยบ้านหนองชาติ ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จว.อุบลฯ
- นายแพล พุ่มแก้ว ลำดับที่ 4 ในวันเกิดเหตุ เป็นผู้ทำการเลื่อยไม้พะยูงในที่เกิดเหตุ โดยนายแพลฯ อยู่ทีมเดียวกันกับนายไพรวรรณฯ
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ปัจจุบันคดีลักลอบไม้พะยูงอยู่ระหว่างการสอบสวน เช่นเดียวกับกรณีเรียกรับเงิน 1 แสนบาทของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย และเหยี่ยวเวหาอีก 1 คน รวมเป็น 4 คนจากผู้ต้องหากลุ่มนี้
ถึงที่สุดจะเป็นอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป