เผยรายชื่อ ขรก.-นักการเมืองท้องถิ่น 20 จว. 52 คน ป.ป.ช.ฟันทุจริต-ไม่ยื่นบัญชีฯ
มติ ป.ป.ช. เชือดลอตใหญ่ ข้าราชการ-นักการเมืองท้องถิ่น 20 จว. 52 คน สารพัดทุจริต-จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน เผยรายชื่อ อดีต อธิการ มรภ.ชัยภูมิ ผอ.ศูนย์บำบัดรักษายาเสพติด ชม. ปลัดอำเภอ นายกเทศมนตรี จนท.ที่ดิน จ.สุราษฎร์ฯ ปมโฉนดเกาะสมุย ด้วย
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : วันที่ 12 พ.ย.58 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่เอกสารข่าว ความคืบหน้าคดีทุจริต/ความผิดในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด และได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อลงโทษทางวินัย หรือส่งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีทางอาญา หรือเสนอคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อวินิจฉัยแล้วแต่กรณี
โดยมีข้าราชการ และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกชี้มูลรวม 20 จังหวัด รวม 52 คน
ในจำนวนเป็นนักการเมืองท้องถิ่น 21 คน ได้แก่ ส่วนกลาง (กรุงเทพฯ) ปราจีนบุรี ราชบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา พิษณุโลก เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ อุทัยธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ หนองบัวลำภู ศรีสะเกษ กาฬสินธุ์ มุกดาหาร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และ สตูล
ที่น่าสนใจ อาทิ
นายไพโรจน์ ทองปลิว นายกเทศมนตรีตำบลป่าแดง นายเจริญชัย ภุมรินทร์ ปลัดเทศบาลตำบลป่าแดง นายจีระศักดิ์ เงื่อนจันทร์ทอง นายสนั่น ธรรมรังศรี ราษฎรที่ได้รับแต่งตั้ง เป็นกรรมการตรวจการจ้าง เรียกรับเงินจากผู้กล่าวหา เพื่อตอบแทนการจ่ายเงิน ค่าจ้างก่อสร้างถนนหินคลุก ซอยนครไทย - ชาติตระการ
นายแพทย์จรูญ จิตติวุฒิการ ผู้อำนวยการศูนย์ฯ นางสิวลี จารุวรรณ์ พยาบาลวิชาชีพ ๗ วช
นางสาวอารีรัตน์ ชาติวุฒานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ๗ วช ศูนย์บำบัดรักษายาเสพติด เชียงใหม่ กระทรวงสาธารณสุข จัดทำใบเสร็จรับเงินค่าเช่าที่พักของผู้เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องสมุนไพรเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดแบบครบวงจร อันเป็นเท็จ มาเบิกจ่ายเงินโดยทุจริต
นายไพศาล จิตตะมัย นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น อนุญาตให้ผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำและขยายผิวจราจร ปรับปรุง ภูมิทัศน์ถนนรอบบึงหนองโคตร ใช้พื้นที่สาธารณะก่อสร้างที่พักคนงานและขุดดินในพื้นที่สาธารณะไปใช้ในการก่อสร้าง
นายพิบูลย์ แพนพา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอ นายเดชา นาใจตรอง ปลัดอำเภอ นายสัมฤทธิ์ พันทองคำ เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี ๔ ที่ว่าการอำเภอหนองพอก ร่วมกันตรวจรับและเบิกจ่ายเงินค่าซ่อมแซมอาคารที่ว่าการอำเภอและบ้านพักข้าราชการ รวม ๓ หลัง โดยไม่มีการซ่อมแซมจริง
ผศ.ดร.พิชัย ละแมนชัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ดำเนินการจัดจ้างโครงการ ปรับถมดินบริเวณโรงเรียนน้ำพุและบริเวณสนามกอล์ฟ โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบ เป็นเหตุให้ราชการได้รับความเสียหาย
นายจารุพิษณ์ เรืองสุวรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอศรีบุญเรืองและรักษาการในตำแหน่งหัวหน้าศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอโนนสัง เบียดบังเงินบำรุงการศึกษาไปเป็นประโยชน์ส่วนตน
นายเจริญ จันทร์ปาน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด สุราษฎร์ธานี นายวิมุข อินทร์ดำ ผู้ใหญ่บ้าน ม.๕ ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย นางวนิดา วิชัยดิษฐ์หรือ วิชัยดิษฐ ทุจริตในการออก น.ส.๓ กเลขที่ ๓๙๓๖ ม.๕ ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย
(ดูตารางประกอบ)
ที่ |
จังหวัด |
ผู้ถูกกล่าวหา/ตำแหน่ง |
ข้อกล่าวหา/พฤติการณ์ |
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. |
1 |
ส่วนกลาง |
1.นายชาญชัย สิงโตโรจน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย 2.นายทองน้อย ทองเจือ ผู้จัดการทั่วไปประจำ สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ 3. นายพันธุวัฒน์ โกมารกุล ณ นคร ผู้จัดการทั่วไปประจำ สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ 4. นายชาลี ภมรมนตรี ผู้จัดการทั่วไปประจำสหราช-อาณาจักรและไอร์แลนด์
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) |
ร่วมกันขายบัตรโดยสาร สำนักงานสาขาลอนดอน ต่ำกว่าราคาที่กำหนด และ ไม่ควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ทำข้อตกลงให้ตัวแทนจำหน่ายขายบัตรในราคาที่ต่ำกว่าราคา ที่กำหนด
|
- นายชาญชัย สิงห์โตโรจน์ นายทองน้อย ทองเจือ นายพันธุวัฒน์ โกมารกุล ณ นคร และนายชาลี ภมรมนตรี มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยแล้ว |
2 |
ส่วนกลาง |
พันตำรวจโท กษิดิศ อินทร์เนียม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสารวัตรธุรการ สถานีตำรวจนครบาลบางยี่เรือ |
เบียดบังเงินประกันตัวผู้ต้องหา, อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 และเครื่องวิทยุติดตามตัวไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่น |
พันตำรวจโท กษิดิศ อินทร์เนียม มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
|
ที่ |
จังหวัด |
ผู้ถูกกล่าวหา/ตำแหน่ง |
ข้อกล่าวหา/พฤติการณ์ |
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. |
๓ |
ส่วนกลาง |
๑.นางสาวสาริศา พิชัยฤกษ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกจัดหา/พัสดุ ๒.นายสุเมธ รุจนเสรี นายศุภกฤต ศักดิ์สัจจาภิรมย์ และนางวัชรี ธิติมุทา คณะกรรมการจัดจ้าง โดยวิธีพิเศษ
องค์การตลาด |
จัดจ้างปรับปรุงอาคารทรงไทยสำนักงานตลาดสาขาบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ในราคาสูงกว่าความเป็นจริงและมีการสมยอมในการเสนอราคา |
นางสาวสาริศา พิชัยฤกษ์ นายสุเมธ รุจนเสรี นายศุภกฤต ศักดิ์สัจจาภิรมย์ และนางวัชรี ธิติมุทา มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยแล้ว |
๔ |
ปราจีนบุรี |
นางจีรพร เชยประทุม หรือนางนิชาภา หอมชื่น เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี เทศบาลเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี |
เบียดบังเงินค่ารักษาพยาบาล และค่าจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ การเรียนการสอน ไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่น |
นางจีรพร เชยประทุม หรือนางนิชาภา หอมชื่น มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑4๗ และมาตรา ๑5๗ ทั้งนี้ ในส่วนของความผิดทางวินัย ต้นสังกัดได้มีคำสั่งลงโทษไล่ นางจีรพร เชยประทุม หรือนางนิชาภา หอมชื่น ออกจากราชการแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะต้องส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาลงโทษซ้ำอีก แต่แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบสำหรับความผิดทางอาญา ได้ส่งสำนวนการ ไต่สวนข้อเท็จจริงไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว |
๕ |
ราชบุรี |
นายสมจิตต์ กุ้ยอ่อน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบต.ดอนใหญ่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี |
ขอใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ที่ขึ้นบัญชีไว้ โดยระบุชื่อและลำดับที่ของผู้สอบแข่งขันได้ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับ ๓ โดยมิชอบ |
นายสมจิตต์ กุ้ยอ่อน มีมูลความผิดฐานละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตาม พรบ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.๒๕๓๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๙๒ และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1๕7 ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว |
๖ |
พระนครศรีอยุธยา |
นายสกลไกร ขาวบริสุทธิ์ เลขานุการนายก อบต.บ้านคลัง อ.บางบาล |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นตำแหน่ง และกรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี |
เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ นายสกลไกรฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา ห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ |
๗ |
สุพรรณบุรี |
นายศิรวิชญ์ ภู่วงศ์ นายก อบต.วังยาว อ.ด่านช้าง
|
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่ง |
เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ นายศิรวิชญ์ฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา ห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙ |
๘ |
ฉะเชิงเทรา |
นายอิทธิพงษ์ วันทะนะ รองนายก อบต.เมืองเก่า อ.พนมสารคาม |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่ง และกรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี |
เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ นายอิทธิพงษ์ฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ |
๙ |
พิษณุโลก |
1.นายไพโรจน์ ทองปลิว นายกเทศมนตรีตำบลป่าแดง 2.นายเจริญชัย ภุมรินทร์ ปลัดเทศบาลตำบลป่าแดง 3.นายจีระศักดิ์ เงื่อนจันทร์ทอง 4.นายสนั่น ธรรมรังศรี ราษฎรที่ได้รับแต่งตั้ง เป็นกรรมการตรวจการจ้าง
อำเภอชาติตระการ |
เรียกรับเงินจากผู้กล่าวหา เพื่อตอบแทนการจ่ายเงิน ค่าจ้างก่อสร้างถนนหินคลุก ซอยนครไทย - ชาติตระการ14 |
1.นายไพโรจน์ฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ ตำแหน่ง หรือแก่เทศบาล หรือ แก่ราชการ แต่นายไพโรจน์ฯ พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องให้ถอดถอนอีก แต่ให้ส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ นอกจากนี้ นายไพโรจน์ฯ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 2.นายเจริญชัยฯ มีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 และมาตรา 161 3.นายจีระศักดิ์ เงื่อนจันทร์ทอง และนายสนั่น ธรรมรังศรี มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุน นายไพโรจน์ฯ และนายเจริญชัยฯ กระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 และมาตรา 161 ประกอบมาตรา 86 และ มาตรา 265 กรณีมูลความผิดทางวินัย ได้ส่งสำนวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อลงโทษทางวินัย และกรณีมูลความผิดทางอาญา ได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว |
๑๐ |
พิษณุโลก |
นายบุญนาค แสงอ่อน นายก อบต.โคกสลุด อ.บางกระทุ่ม |
เรียกรับผลประโยชน์จากการกำหนดประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ (โบนัส) ประจำปี ๒๕๕๓ |
นายบุญนาคฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ฯ แต่นายบุญนาคฯ พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องให้ถอดถอนอีก แต่ให้ส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ นอกจากนี้ นายบุญนาคฯ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว |
๑๑ |
เชียงใหม่ |
๑.นายแพทย์จรูญ จิตติวุฒิการ ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ๒.นางสิวลี จารุวรรณ์ พยาบาลวิชาชีพ ๗ วช ๓.นางสาวอารีรัตน์ ชาติวุฒานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ๗ วช
ศูนย์บำบัดรักษายาเสพติด เชียงใหม่ กระทรวงสาธารณสุข |
จัดทำใบเสร็จรับเงินค่าเช่าที่พักของผู้เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องสมุนไพรเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดแบบครบวงจร อันเป็นเท็จ มาเบิกจ่ายเงินโดยทุจริต |
๑.นายแพทย์จรูญฯ และนางสิวลีฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรง แต่บุคคล ทั้งสองได้เกษียณอายุราชการและลาออกจากราชการตามลำดับแล้ว ซึ่งตาม พรบ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๑๐๐ วรรคสอง ระบุว่ากรณีที่ผู้นั้นออกจากราชการไปแล้วและผลการสอบสวนปรากฎว่าผู้นั้นกระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง ให้งดโทษ จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อลงโทษทางวินัยอีก ๒.นางสาวอารีรัตน์ฯ ความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว |
ที่ |
จังหวัด |
ผู้ถูกกล่าวหา/ตำแหน่ง |
ข้อกล่าวหา/พฤติการณ์ |
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. |
๑๒ |
เชียงใหม่ |
๑.นายสมคิด แสงติ๊บ รองนายก อบต.บ้านแอ่น อ.ดอยเต่า ๒.นายพัฒนา คำปวน รองนายก อบต.บ้านหลวง อ.แม่อาย |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี |
เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ นายสมคิดฯ และนายพัฒนาฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙ |
๑๓ |
เพชรบูรณ์ |
นางลักษณาหรืออังคณา รังแก้ว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ๔ เทศบาลตำบลวิเชียรบุรี |
เบิกจ่ายเงินเป็นค่าส่งใช้หนี้เงินกองทุนส่งเสริมกิจการเทศบาล แล้วนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว |
นางลักษณาหรืออังคณาฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง แต่ต้นสังกัดได้ลงโทษไล่ออกนางลักษณาหรืออังคณาฯ ซึ่งเหมาะสมแก่กรณีแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องให้ลงโทษซ้ำอีก แต่ให้แจ้งผลให้ผู้บังคับบัญชาทราบ นอกจากนี้ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๔๗ และมาตรา ๑๕๗ และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว |
๑๔ |
อุทัยธานี |
๑.นายสุนทร พิมพาพร รองนายก อบต.ระบำ อ.ลานสัก ๒.นายธนากรหรือพราม ประคำสี รองนายก อบต.ระบำ อ.ลานสัก |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่ง และกรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี |
เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ นายสุนทรฯ และนายธนากรหรือพรามฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ |
๑5 |
ขอนแก่น |
นางสาวปุณย์จิรภา (ปิยฉัตร) ชมชื่น เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานธุรการชำนาญงาน สำนักงานอัยการจังหวัดพล |
ปลอมเอกสารการเบิกเงินและแก้ไขจำนวนเงินในสมุดคุมเช็คและต้นขั้วเช็ค โดยไม่มีอำนาจ และชำระค่าวัสดุให้กับผู้ขาย ไม่ตรงเวลาโดยนำเงินไป ช่วยเหลือผู้อื่น |
นางสาวปุณย์จิรภาฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง แต่ต้นสังกัดได้ลงโทษไล่ออกนางสาวปุณย์จิรภาฯ ซึ่งเหมาะสมแก่กรณีแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องให้ลงโทษซ้ำอีก แต่ให้แจ้งผลให้ผู้บังคับบัญชาทราบ นอกจากนี้ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑47 มาตรา ๑57 มาตรา 161 มาตรา 264 มาตรา 265 และมาตรา 268 ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว |
ที่ |
จังหวัด |
ผู้ถูกกล่าวหา/ตำแหน่ง |
ข้อกล่าวหา/พฤติการณ์ |
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. |
๑๖ |
ขอนแก่น |
นายไพศาล จิตตะมัย นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น |
อนุญาตให้ผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำและขยายผิวจราจร ปรับปรุง ภูมิทัศน์ถนนรอบบึงหนองโคตร ใช้พื้นที่สาธารณะก่อสร้างที่พักคนงานและขุดดินในพื้นที่สาธารณะไปใช้ในการก่อสร้าง |
นายไพศาลฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการ ฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ฯ แต่นายไพศาลฯ พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องให้ถอดถอนอีก แต่ให้ส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ นอกจากนี้ นายไพศาลฯ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1๕๑ และมาตรา 157 และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว |
๑๗ |
ร้อยเอ็ด |
๑.นายพิบูลย์ แพนพา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอ ๒.นายเดชา นาใจตรอง ปลัดอำเภอ ๓.นายสัมฤทธิ์ พันทองคำ เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี ๔
ที่ว่าการอำเภอหนองพอก |
ร่วมกันตรวจรับและเบิกจ่ายเงินค่าซ่อมแซมอาคารที่ว่าการอำเภอและบ้านพักข้าราชการ รวม ๓ หลัง โดยไม่มีการซ่อมแซมจริง |
นายพิบูลย์ฯ นายเดชาฯ และนายสัมฤทธิ์ฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1๔๗ และมาตรา 157 ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว |
๑๘ |
ชัยภูมิ |
ผศ.ดร.พิชัย ละแมนชัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ |
ดำเนินการจัดจ้างโครงการ ปรับถมดินบริเวณโรงเรียนน้ำพุและบริเวณสนามกอล์ฟ โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบ เป็นเหตุให้ราชการได้รับความเสียหาย |
ผศ.ดร.พิชัยฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1๕๑ และมาตรา 157 และตาม พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๒ ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว |
๑๙ |
ชัยภูมิ |
๑.นายบุญเตือน ราคาแพง รองนายก อบต.นางแดด อ.หนองบัวแดง ๒.นางสมถวิล จงสูงเนิน สมาชิกสภาเทศบาลเมืองชัยภูมิ |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี |
เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ นายบุญเตือนฯ และนางสมถวิลฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙
|
ที่ |
จังหวัด |
ผู้ถูกกล่าวหา/ตำแหน่ง |
ข้อกล่าวหา/พฤติการณ์ |
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. |
๒๐ |
หนองบัวลำภู |
นายจารุพิษณ์ เรืองสุวรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอศรีบุญเรืองและรักษาการในตำแหน่งหัวหน้าศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอโนนสัง |
เบียดบังเงินบำรุงการศึกษาไปเป็นประโยชน์ส่วนตน |
นายจารุพิษณ์ฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1๔๗ ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว |
๒๑ |
หนองบัวลำภู |
นายสำรองหรือพีรวัส โหม่งพุฒ นายกเทศมนตรีตำบลจอมทอง อ.ศรีบุญเรือง |
ขุดดินและลูกรังในบริเวณที่ทิ้งขยะของเทศบาลฯ ไปใช้ในโครงการต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุมัติจากสภาเทศบาล และก่อสร้างถนนลูกรังถนนสายหนองลุมพุก-บ้านศรีบุญเรือง และร่องระบายน้ำถนนศรีอัมพร บ้านศรีวิชัย และถนนศรีวิลาศ บ้านลาดกรุงศรี ไม่ถูกต้องตามแบบรูปรายการ |
นายสำรองหรือพีรวัสฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ฯ แต่นายสำรองหรือพีรวัสฯ พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องให้ถอดถอนอีก แต่ให้ส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ นอกจากนี้ นายสำรองหรือพีรวัสฯ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1๕๑ และมาตรา 157 และได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว |
๒๒ |
ศรีสะเกษ |
๑.นายประสพ เรียมทอง นายก อบต.โคกตาล ๒.นายเทียนชัย ศรีสิงห์ รองนายก อบต.โคกตาล ๓.นายประเดิมชัย เทาศิริ รองนายก อบต.โคกตาล ๔.นายไชยสิทธิ์ เตารัตน์ ปลัด อบต.โคกตาล ๕.นางสาวจุฬารัตน์ พิมพ์นนท์ เจ้าหน้าที่พัสดุ อบต.โคกตาล ๖.นายณรงค์ชาญ สุวรรณโชติ หัวหน้าส่วนโยธา อบต.โคกตาล ๗.นายโอกาสหรือวงเดือน ลาลุน
อ.ภูสิงห์ |
ซื้อรถยนต์เก่าที่ผ่านการใช้งานแล้ว โดยไม่ได้รับอนุมัติงบประมาณ แล้วจัดทำหลักฐานเท็จว่าเป็นการซ่อมแซมรถยนต์เก่าที่ได้รับบริจาค เพื่อปกปิดความผิด |
๑.นายประสพฯ นายเทียนชัยฯ และ นายประเดิมชัยฯ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ฯ แต่ทั้งสามรายพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องให้ถอดถอนอีก แต่ให้ส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ นอกจากนี้ ทั้งสามราย มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา โดยนายประสพฯ กระทำผิดตามมาตรา ๑๕๑,๑๕๗,๑๖๒ (๔) นายเทียนชัยฯ และนายประเดิมชัยฯ กระทำผิดตามมาตรา ๑๕๗,๑๖๒ (๔) ๒.นายไชยสิทธิ์ฯ และนางสาวจุฬารัตน์ฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑,๑๕๗,๑๖๒ (๔) ๓.นายณรงค์ชาญฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗,๑๖๒ (๔) ๔.นายโอกาสหรือวงเดือนฯ มีมูลความผิดทางอาญาฐานผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด ทั้งนี้ ในส่วนของความผิดทางวินัย ได้ส่งสำนวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย สำหรับความผิดทางอาญา ได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว |
๒๓ |
กาฬสินธุ์ |
นายทองจันทร์ ด้วงคำจันทร์ เลขานุการนายก อบต. หนองตอกแป้น อ.ยางตลาด |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่ง และกรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี |
เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ นายทองจันทร์ฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ |
๒๔ |
กาฬสินธุ์ |
นายสมชัย ทิพย์อุทัย นายก อบต.นาบอน อ.คำม่วง |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีเข้ารับตำแหน่ง |
เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยให้นายสมชัยฯ พ้นจากตำแหน่ง และห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ศาลฎีกาฯ วินิจฉัย และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙ |
๒๕ |
มุกดาหาร |
นางกัลยา เมืองโคตรหรือสุพร นายก อบต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่ง และกรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี |
เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ นางกัลยาฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา ห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.๒๕๔๒ ม. ๑๑๙ ประกอบ ป.อาญา ม. ๙๑ |
ที่ |
จังหวัด |
ผู้ถูกกล่าวหา/ตำแหน่ง |
ข้อกล่าวหา/พฤติการณ์ |
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. |
๒๖ |
สุราษฎร์ธานี |
๑.นายเจริญ จันทร์ปาน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด สุราษฎร์ธานี ๒.นายวิมุข อินทร์ดำ ผู้ใหญ่บ้าน ม.๕ ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย ๓.นางวนิดา วิชัยดิษฐ์หรือ วิชัยดิษฐ |
ทุจริตในการออก น.ส.๓ ก เลขที่ ๓๙๓๖ ม.๕ ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย |
๑.นายเจริญฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ ๒.นายวิมุขฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ๓.นางวนิดาฯ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด ทั้งนี้ ในส่วนของความผิดทางวินัย ได้ส่งสำนวนไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย สำหรับความผิดทางอาญา ได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว |
๒๗ |
นครศรีธรรมราช |
นางนิภา ขอบขำ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนการคลัง อบต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง |
เบียดบังเงิน ที่ศูนย์พัฒนาเด็ก-เล็กวัดคีรีวรรณา ชำระคืนให้แก่อบต.ช้างกลาง ไปเป็นประโยชน์ส่วนตน |
นางนิภา ขอบขำ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 157 ทั้งนี้ ได้ส่งสำนวนไปยัง ผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว |
๒๘ |
สตูล |
นายสุไลหมาน อาดำ รองนายก อบต.เกตรี อ.เมืองสตูล |
จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ กรณีพ้นตำแหน่ง และกรณีพ้นตำแหน่งแล้วหนึ่งปี |
เสนอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยห้ามมิให้ นายสุไลหมานฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ลงโทษตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๑๙ ประกอบ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ |