ทส.ไล่ออก 'วิฑูรย์ ชลายนนาวิน' อดีตรองอธิบดีป่าไม้
ปลัด ทส.ยอมรับ เซ็นคำสั่งไล่ออก “วิฑูรย์ ชลายนนาวิน”อดีตรองอธิบดีป่าไม้-ทช. คดีแปลภาพถ่ายหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ทำให้รัฐเสียหาย เจ้าตัวชี้โดนกลั่นแกล้ง ยื่นอุทธรณ์แล้ว
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ว่า กระทรวงทรัพยากรฯ ได้มีคำสั่งให้ไล่ออก นายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน อดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้และอดีตรองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) จากความผิดทำให้ราชการเสียประโยชน์จากการแปลภาพถ่ายทางอากาศบริเวณอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ให้เอกชนนำไปออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ เป็นความผิดตามมาตรา 85 (1) มีหน้าที่ราชการ แต่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบของทางราชการจนทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ มาตรา 85 (4) กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง 83 (1) ต้องไม่รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา การรายงานโดยปกปิดข้อความซึ่งควรต้องแจ้งถือว่าเป็นการรายงานเท็จด้วย มาตรา 83 (3) ต้องไม่อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนหาประโยชน์ให้แก่ตนเองและผู้อื่น เป็นต้น
นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรฯ มีคำสั่งให้ไล่ออกนายวิฑูรย์จริง หลังจากก่อนหน้านี้นายโชติ ตราชู อดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและสอบวินัยร้ายแรง ตั้งแต่ปี 2556 โดย ตนเป็นประธานสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งมีข้อสรุปดังกล่าว จากนั้นได้ส่งเรื่องให้ อ.กพ.กระทรวงทรัพยากรฯ พิจารณาและส่งเรื่องกลับมาให้กระทรวงออกคำสั่งไล่ออกนายวิฑูรย์ต่อไป ส่วนการลงโทษก็ต้องไปดูว่า เรื่องเกิดตั้งแต่เมื่อไร มีผลย้อนหลังหรือไม่ ซึ่งก็จะมีผลต่อการระงับการให้บำนาญ ขณะที่เครื่องราชอิสริยาภรณ์ก็ต้องคืน ถ้ามีโทษอาญาก็ต้องส่งให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ และจะมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไป
เมื่อถามว่ากระทรวงทรัพยากรฯ ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายวิฑูรย์ กรณีการแปลภาพถ่ายทางอากาศบริเวณที่ดินหาดฟรีดอมบีช ในป่าสงวนเขานาคเกิด ต.กระรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่ทำให้ราชการเสียประโยชน์ ขณะนี้ผลการสอบวินัยแล้วเสร็จหรือยัง นายเกษมสันต์ กล่าวว่า ใกล้แล้วเสร็จ เพราะทั้งกรณีหาดฟรีดอมและหาดเจ้าไหม มีลักษณะความผิดคล้ายกัน คาดว่าอีกไม่นานจะมีผลออกมา เมื่อถามต่อว่ากรณีหาดฟรีดอม มีอดีตอธิบดีกรมป่าไม้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย นายเกษมสันต์ กล่าวว่า มี รวมทั้งข้าราชการระดับสูง รวมเป็น 5 คน ซึ่งการสอบสวนก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง
ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล รักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ในส่วนของกรมอุทยานฯ ก็คงต้องมีการฟ้องร้องทางแพ่งและอาญาในเรื่องการบุกพื้นที่อุทยานฯ ต่อไป โดยทางแพ่งมาตรฐาน คือ 1.5 แสนบาท ซึ่งพื้นที่อุทยานฯ หาดเจ้าไหมเสียหายไปประมาณ 34 ไร่ หรือประมาณ 5 ล้านกว่าบาท
ขณะที่ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ยื่นอุทธรณ์กับคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.)ไปแล้ว ว่าเป็นเรื่องของผู้เชี่ยวชาญศาล เป็นความเห็นในทางวิชาการ ซึ่งอธิบดีกรมป่าไม้ในขณะนั้นก็ให้ความเห็นชอบในรายงานของตน และลงนามส่งไปยังผู้ร้อง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องงานในหน้าที่ของศาลยุติธรรม ไม่ใช่การปฏิบัติงานในหน้าที่ในตำแหน่งราชการ แต่เอามาตั้งวินัยสอบสวนในเรื่องของกระทรวง จึงมองว่าเป็นเรื่องของการกลั่นแกล้งกัน เพราะเป็นการออกคำสั่งย้อนหลังเมื่อตนเกษียณผ่านไป 1 ปี ซึ่งเวลานี้ มีเรื่องร้องเรียนและถูกตั้งกรรมการสอบอยู่ 4 เรื่อง บางเรื่องตั้งกรรมการสอบก่อนเกษียณเพียง 2 วัน โดย อดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ซึ่งมีคดีฟ้องร้องคดีกันอยู่ จึงคิดว่า น่าจะเป็นการกลั่นแกล้งกัน และขอถามว่าความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน.
ขอบคุณข่าวจาก