มัดปุ๊กเจียงฮาย“เมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา” สร้างคนดีสู่สังคม
“มัดปุ๊ก” เป็นคำมงคลที่สำคัญมากหมายถึงการรวมกันเป็นกลุ่มเป็นทีมก็จะเป็นธรรม ดังนั้น การรวมเมล็ดพันธุ์เด็กและเยาวชนคนเก่งคนดีมาร้อยรวมเข้าด้วยกัน 18 อำเภอ ก็จะได้สุดยอดของพลังงานที่ยอดเยี่ยม”
โครงการขับเคลื่อนองค์กรเด็กและเยาวชนสุขภาวะจังหวัดเชียงราย (มัดปุ๊กเจียงฮาย)จัดกิจกรรมโครงการ “เมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา”เพื่อพัฒนาเยาวชนแกนนำซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนมัดปุ๊กเจียงฮาย เครือข่ายสุขภาวะ 18 อำเภอของจังหวัดเชียงราย ให้มีทักษะและความสามารถในการจัดทำฐานข้อมูลสื่อสารสาธารณะ การเสริมสร้างความร่วมมือในการทำงานร่วมกัน การพัฒนาศักยภาพ และการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ โดยมีเยาวชนเข้าร่วม 100 คน ณ ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวันตำบลห้วยสัก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงรายภายใต้การสนับสนุนของสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชนและครอบครัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ผู้ก่อตั้งศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน กล่าวเริ่มงานด้วยการบรรยายธรรม เรื่อง “เมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา” พร้อมอธิบายความหมายของคำว่า“มัดปุ๊ก” ว่าเป็นคำมงคลที่สำคัญมากหมายถึงการรวมกันเป็นกลุ่มเป็นทีมก็จะเป็นธรรม ดังนั้น การรวมเมล็ดพันธุ์เด็กและเยาวชนคนเก่งคนดีมาร้อยรวมเข้าด้วยกัน 18 อำเภอ ก็จะได้สุดยอดของพลังงานที่ยอดเยี่ยม
“วันนี้ สิ่งที่จะมอบให้เด็กและเยาวชนนำไปเป็นหลักในการดำเนินชีวิต คือวิชาศิลปะในการบริหารจัดการชีวิตให้เข้าที่เข้าทาง ซึ่งเป็นวิชาที่สำคัญที่สุดในโลก แต่สถาบันศึกษาส่วนใหญ่มองข้ามไปเน้นแต่วิชาการวิชาชีพ แค่ติดเอฟ อกหักก็คิดฆ่าตัวตาย ซึ่งต่างจากคนต่างชาติที่ให้ความสนใจธรรมะ การนั่งสมาธิแต่คนไทยกลับกลัวไม่เอาแก่นแท้ของศาสนาที่เป็นมรดกตกทอด ทิ้งสิ่งที่ดีที่สุดไป เอาแต่เปลือกชอบทำบุญ บริจาคทาน ฉะนั้น ยิ่งเรียนยิ่งพัฒนาการศึกษาก็ยังคงต่ำลงเพราะขาดวิชาชีวิตและจิตภาวนารู้สารพัดรู้ แต่ไม่รู้ที่จะแก้ปัญหาชีวิตก็ถือว่าเป็นความรู้ที่ว่างเปล่า ดังนั้น ใจต้องมั่นคง”
พระมหาวุฒิชัย เล่าถึงเหตุการณ์ที่มีคนถามพระพุทธเจ้าว่า ท่านสอนอะไร ทำไมคนถึงเคารพท่าน พระพุทธเจ้าตอบว่า เราสอนให้คน ยืน นั่ง หายใจ ถ้าอย่างนั้นใครๆ ก็ทำได้ แต่พระพุทธเจ้าตอบว่าใช่ใครๆ ก็ทำได้ แต่ทำได้กับทำเป็นนั้นต่างกัน ดังนั้น ธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอนจึงเป็นเหมือนออกซิเจน ทุกคนเกิดมาต้องหายใจเอาออกซิเจนเข้าไป ธรรมะจึงจำเป็นแก่คนทั้งโลก ซึ่งไม่เกี่ยวกับศาสนาไม่เกี่ยวกับความเชื่อ แต่คือความจริงสามารถใช้ได้กับคนทั้งโลกและทุกศาสนา ฉะนั้นสิ่งที่ตกหล่นไปจากระบบการศึกษา คือการฝึก ไม่ใช่การเรียนเพื่อสอบ สอบเสร็จประกาศ เด็กไทยก็ไม่รักการอ่าน พระพุทธเจ้าสอนให้ Let It Go ชีวิตต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่มีปัญหามีความทุกข์คิดแต่จะฆ่าตัวตาย
“ดังนั้น แค่ปล่อยก็ลอยตัว โดยเอาธรรมะเป็นที่พึ่ง เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตให้เป็นทั้งนี้ ธรรมะคือเรื่องที่เท่และล้ำค่าที่สุดในเวทีโลกขณะนี้ เพราะแนวโน้มโลก คนสำคัญ คนดัง เช่น มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กโอปราห์วินฟรีย์หันมาให้ความสนใจธรรมะเช่นเดียวกัน”
พระมหาวุฒิชัย เล่าอีกว่า ทุกคนเกิดมาพร้อมกับแผนบีหรือแผนสอง ไม่ว่าจะยากจน อ้วน ดำ พิการ ทุกคนที่มาสู่โลกใบนี้ มีแผนสำรองในชีวิตเสมอ เมื่อเกิดมาในครอบครัวที่ไม่พร้อมก็ต้องตั้งเป้าหมายว่าเราจะพร้อมให้ดู อย่าไปโทษพ่อแม่ขอนำตัวอย่างของคนที่ใช้ชีวิตอย่างมีทักษะโดยที่ไม่ยอมให้ปัญหาต่างๆ มาเบี่ยงเบนทำร้ายชีวิตให้ไปไม่ถึงฝั่งนิควูจิซิค(Nick Vujicic) นักสร้างแรงบันดาลใจที่มีชื่อเสียงระดับโลก หนุ่มพิการไม่มีแขน-ขาในวัยเรียนถูกเพื่อนล้อเป็นเอเลี่ยนเคยพยายามฆ่าตัวตาย แต่ผู้เป็นพ่อคอยให้กำลังใจและแง่คิดเสมอว่า เมื่อพระเจ้าให้ร่างกายมาแบบนี้ แสดงว่าพระเจ้ามีแผนบีมาให้แล้ว คือต้องการให้ใช้สมองและความคิด นอกจากนี้ การได้กำลังใจจากคนรอบข้างแม้เพียงคำพูดดีๆ เพียง 1 คำ สามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้ฉะนั้น หากแผนเอที่พ่อแม่ให้มาเป็นทุนที่ไม่พร้อม ทุกคนมีแผนสองเสมอในชีวิตเสมอที่ต้องค้นหาให้พบ
ด้านนายวรสฤษฏิ์ ปิงเมืองอาจารย์ประจำ มรภ.ชร.และผู้อำนวยการโครงการขับเคลื่อนองค์กรเด็กและเยาวชนสุขภาวะจังหวัดเชียงราย (มัดปุ๊กเจียงฮาย) บอกว่า โครงการ “เมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา”เป็นโครงการหนึ่งภายใต้โครงการขับเคลื่อนองค์กรเด็กและเยาวชนสุขภาวะจังหวัดเชียงราย (มัดปุ๊ก เจียงฮาย)มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเด็กดีให้เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงรายให้มีจำนวนที่มากขึ้น เนื่องจากขณะนี้ มีเด็กเก่งมากพอแล้ว จึงอยากให้มีคนดีมาช่วยสร้างบ้านสร้างเมือง เพราะบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร อนาคตก็อยู่ที่เด็กและเยาวชนยุคนี้
เขาบอกอีกว่า โครงการฯ นี้ ใหญ่มากทำเต็มพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย เพราะหากทำเป็นเพียงบางส่วนพลังความสำเร็จก็จะเกิดขึ้นได้ยาก ทั้งนี้ ต้องค้นหาเยาวชนที่มีศักยภาพเป็นแกนนำหลักในอำเภอต่างๆ หากแต่ละอำเภอสามารถสร้างเมืองของตนเองดีในระดับตำบล และขยายเครือข่ายไปยังหมู่บ้าน ก็จะสามารถช่วยกันสร้างเยาวชนเชียงรายให้เป็นคนดี เพื่อเป้าหมายเชียงรายน่าอยู่
“วันนี้ เชียงรายจะเจริญขึ้นมาก เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายเรื่องจึงอยากฝากเด็กและเยาวชนดูแล 3 อำเภอเป็นพิเศษ คือ แม่สาย เชียงของ และเชียงแสน เพราะเป็นอำเภอที่ติดชายแดน ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในอนาคต ทุกคนต้องเตรียมพร้อมในความเจริญของเชียงรายดังนั้น ถือเป็นโอกาสสำคัญที่เด็กและเยาวชนจะเป็นคนที่เข้ามาช่วยสร้างบ้านสร้างเมือง”
วรสฤษฏิ์ บอกว่า คงต้องขอบคุณ สสส.ที่มาจุดประกาย เป็นแรงกระตุ้นให้ดำเนินการ อย่างไรก็ตามความยั่งยืนคงอยู่ที่เด็กและเยาวชนคนในพื้นที่ ต้องเข้มแข็งสามารถที่จะดำเนินการต่อไปได้ด้วยตัวเอง โดยทำงานร่วมกับท้องถิ่น หน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดเชียงราย ให้เห็นความสำคัญและให้การสนับสนุนการทำงานของเด็กและเยาวชนให้ดำเนินการต่อไปได้อย่างยั่งยืน เพื่อร่วมมือร่วมแรงช่วยกันสร้างเชียงรายให้มีแต่เด็กและเยาวชนพลเมืองดี
เช่นเดียวกันกับนางเพ็ญพรรณ จิตตะเสนีย์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชนและครอบครัว บอกว่า สสส.ไม่ได้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเด็กและเยาวชน แต่เป็นเพียงผู้สนับสนุนให้กลุ่มเด็กและเยาวชนได้พัฒนาตนเอง ได้สร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันระหว่างเด็กและเยาวชนด้วยกันเอง พร้อมทั้งได้มีโอกาสทำงานร่วมกับผู้ใหญ่ในระดับ ตำบล อำเภอ และจังหวัด โดยใช้พลังด้านบวกที่มีอยู่มาแลกเปลี่ยนการทำงานร่วมกัน เนื่องจากพบว่าการทำงานของทุกคนในพื้นที่ที่ทำกิจกรรม อาทิ ภูมิปัญญาท้องถิ่น การแสดง ศิลปะ ดนตรี การลดละเลิกเหล้าบุหรี่ เพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร การออกกำลังกาย มีลักษณะต่างคนต่างทำจึงไม่มีพลัง
“ดังนั้น จึงอยากให้เยาวชนแกนนำได้มาเจอกันรวมพลังที่มีอยู่มากถึง 3,000 กว่าคน ซึ่งมีแนวโน้มในอนาคตที่ดีในระยะ 1 ปีที่ผ่านมาต้องขอบคุณเยาวชนแกนนำที่ทำให้โครงการนี้เป็นรูปธรรมและเป็นความจริง สามารถทำเชียงรายให้เป็นตัวอย่างที่ดีในการขับเคลื่อนงานด้านเด็กและเยาวชน ซึ่งในอนาคตพื้นที่ที่เด็กและเยาวชนอาศัยอยู่ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม จะส่งผลต่อตัวเด็ก ครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาติเกิดการพัฒนาที่ดี”