แหล่งพนันประชิดรั้วมหาวิทยาลัย ช่องโหว่ที่ยังไร้การควบคุม
ปัญหาการพนันถูกปล่อยปละละเลยมานาน จนระบาดไปสู่กลุ่มเยาวชนที่ขาดวุฒิภาวะแยกแยะความถูกต้องเหมาะสมจน กระโดดเข้าสู่เส้นทางการพนันในช่วงอายุที่เด็กขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะด้วยสภาพแวดล้อมรอบตัว ครอบครัว เพื่อนฝูง หรือกระทั่งเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกมากขึ้น
นี่เป็นปัญหาที่กำลังเข้าสู่จุดวิกฤติจำเป็นต้องเร่งหาทางแก้ไข
จากการสำรวจสถานการณ์ การพนันของเยาวชน ปี 2556 โดยเครือข่ายเยาวชน 4 ภาค ศูนย์ข้อมูลนโยบายสาธารณะเพื่อลดปัญหาการพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ พบว่า เยาวชน 67% เคยมีประสบการณ์ในการเสี่ยงโชครูปแบบต่างๆ มีเพียงแค่ 33% ที่ไม่เคย
และที่น่าตกใจคือ ช่วงเวลาในการเริ่มการเสี่ยงโชคครั้งแรก อยู่ในช่วงประถมศึกษาถึง 33% มัธยมต้น 32% มัธยมปลาย 23% ปริญญาตรี 9% และ ปวส.3%
ปัญหาที่ตามมาของการพนัน คือ เมื่อเริ่มต้นเล่นการพนันแล้วย่อมชักนำไปสู่อาชญากรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการลักขโมย ฉกชิงวิ่งราว การค้ายาเสพย์ติด เพื่อหาเงินมาใช้หนี้การพนัน จนมีข่าวการจับกุมนิสิต นักศึกษาอยู่เป็นระยะ จนถึงเวลาที่ควรจะต้องเอาจริงเอาจังกับการควบคุม และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชนไม่ให้เข้ามาข้องเกี่ยวกับการพนันเพื่อตัดตอนปัญหาอื่นๆ ที่จะตามมา
จากการลงพื้นที่ตามโครงการมหาวิทยาลัยไทยหยุดพนัน (Thai University Anti-Gambling ) ได้มีโอกาสพูดคุยกับนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยในพื้นที่ภาคกลางแห่งหนึ่ง นักศึกษาให้ข้อมูลว่า การพนันกลายเป็นเรื่องปกติในสายตานักศึกษาแถมบางคนยังระบุว่า ไม่ใช่เรื่องที่ต้องแก้ไข หรือหากจะแก้ไขก็คงทำได้ยาก โดยการพนันที่เล่นกันมาสุดคือ ไพ่ ที่เกินครึ่งของนักศึกษาทั้งหมดเคยเล่น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเรื่องความสนุก เพื่อนชักชวน หรือ และต้องการเงิน
นักศึกษารายหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า แม้จะไม่ได้เล่นไพ่กันภายในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะมีกฎระเบียบห้ามไว้ แต่นักศึกษาก็สามารถไปหาเล่นได้ตามหอพัก หรือบ้านเช่า ที่กระจายอยู่รอบมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นที่รับรู้กันในกลุ่มนักศึกษาว่าจะไปเล่นได้ที่ไหน
รวมไปถึงการเล่นไพ่ในช่วงออกค่ายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมในแต่ละวัน ขณะที่การพนันฟุตบอลมีให้เล่นกันตลอด และจะเล่นหนักขึ้นในช่วงฟุตบอลโลกหรือการแข่งนัดสำคัญ
หนักกว่านั้นคือนักศึกษาหลายคนทำหน้าที่เป็นคนเดินโพยส่งโต๊ะพนันนอกมหาวิทยาลัย ยิ่งระยะหลังเฉพาะมีเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกทั้งการติดต่อผ่านทางแอพลิเคชั่นไลน์
บางคนเล่นพนันบอลผ่านทางอินเตอร์เน็ตที่มีเว็บไซต์ต่างๆ เปิดอย่างกว้างขวาง แถมยังโฆษณากันอย่างเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ต่างจากการพนันรูปแบบอื่นๆ ที่หาเล่นได้ไม่อยากในอินเตอร์เน็ต มีวิธีการรับจ่ายเงินผ่านบัตรเติมเงินต่างๆ ไม่ต้องใช้การโอนหรือบัตรเครดิต
นักศึกษาปีสองมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า มีเพื่อนที่ติดหนี้พนันบอลกับโต๊ะพนันนอกมหาวิทยาลัยสูงถึง 4-5 แสนบาท จนถูกข่มขู่จากโต๊ะบอลสุดท้ายต้องใช้วิธียืมเงินจากเพื่อนหลายๆ คนไปใช้หนี้โต๊ะบอล ทุกวันนี้ก็ยังคอยหลบหน้าไม่มาเรียนหนังสือ แถมในมหาวิทยาลัยยังมีเหตุการณ์ของหายอยู่เรื่อยๆ ทั้งมอเตอร์ไซที่หายบ่อยมาก แต่ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือไม่
กลุ่มนักศึกษาเล่าให้ฟังด้วยว่า รอบรั้วมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยแหล่งพนันนับสิบร้าน ทั้งร้านเกมออนไลน์ โต๊ะบอล ร้านเหล้าที่ห่างจากมหาวิทยาลัยไม่กี่ร้อยเมตร และมีการพนันรูปแบบใหม่ๆ เข้ามาเรื่อยๆ และเคยเห็นตำรวจเข้ามาตรวจค้น หรือสั่งปิด ทั้งที่เป็นเรื่องผิดกฎหมาย
ด้านนายพงศ์ธร จันทรัศมี ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลนโยบายสาธารณะเพื่อลดปัญหาการพนัน ระบุถึงสาเหตุที่ทำให้การพนันในมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นนั้น เนื่องจากส่วนใหญ่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้เล่นการพนันได้ง่าย แม้ในมหาวิทยาลัยจะมีมาตราการห้ามปราม แต่ไม่ครอบคลุมไปถึงพื้นที่รอบมหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วยแหล่งการพนัน ขณะที่นักศึกษาเองก็มีประสบการณ์พนันมาก่อน บางแห่งนักศึกษาทำตัวเป็นเจ้ามือเป็นเจ้าของธุรกิจพนันย่อยๆ
สำหรับการมาตรการแก้ไขปัญหานั้น เขาเห็นว่า ในส่วนของพื้นที่นอกมหาวิทยาลัย มีหลายวิธีอย่างที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาหาดใหญ่ มีการร่วมมือชุมชน หน่วยงานรัฐระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ภายใต้กรรมการลดอบายมุขสร้างสุขให้สังคม ซึ่งจะเป็นกลไกช่วยติดตามสถานการณ์ ช่วยเหลือทางมหาวิทยาลัยจัดการปัญหาแหล่งพนันและอบายมุขนอกมหาวิทยาลัย
นอกจากนี้ เห็นว่า มหาวิทยาลัยควรมีศูนย์ให้คำปรึกษาคอยให้คำแนะนำเด็กที่มีปัญหาจากการพนัน ซึ่งปกติแล้วจะมีศูนย์ให้คำปรึกษาเรื่อง ยาเสพย์ติด ปัญหาท้องไม่พร้อม อยู่แล้วก็ควรพิจารณาเพิ่มประเด็นเรื่องการพนันเข้าไป เพราะมหาวิทยาลัยเป็นคนที่ใกล้ชิดเด็กในช่วงอายุ 17-22 ปี มากที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นเยาวชนที่ยังไม่บรรลุยังถูกล่อลวงได้ระดับหนึ่ง
นายพงศ์ธร ระบุว่า จากการลงพื้นที่ในโครงการมหาวิทยาลัยหยุดพนัน จะเห็นว่าสถานการณ์การพนันในกลุ่มนักศึกษานั้นส่วนใหญ่จะมีทั้งเล่นไพ่กันในหอพัก บางส่วนเล่นการพนันฟุตบอล ก็ไปพูดคุยเพื่อหาวิธีแก้ปัญหา รวมทั้งดูให้สัมพันธ์กับเรื่องกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาใครมีแนวโน้มติดพนันต้องระมัดระวัง แทนที่จะให้ทั้งก้อนก็แบ่งเป็นส่วนๆ ไม่ให้เอาเงินไปหมุนเล่นการพนัน และเท่าที่ทราบ กยศ.ปรับวิธีจ่ายเป็นหักตรงค่าใช้จ่ายและให้เหลือเพียงค่าขนมรายเดือนจำนวนไม่มาก
"พื้นที่ในรั้วมหาวิทยาลัย เป็นพื้นที่บ่มเพาะปัญญา ไม่ควรให้ธุรกิจการพนันที่ถูกกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ ส่วนธุรกิจพนันผิดกฎหมายยิ่งต้องเข้มงวดป้องกัน โดยเฉพาะธุรกิจพนันบอล ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักศึกษา และคนวัยทำงาน ส่วนการพนันออนไลน์ทางมหาวิทยาลัยก็มีมาตรการทั้งการบล็อกเว็บออนไลน์ และสิ่งเสริมให้เด็กรู้จักเรื่องความน่าจะเป็นกับโอกาสที่จะได้ถูกรางวัลจากการพนัน ถือเป็นการติดอาวุธทางปัญญาให้กับนักศึกษาซึ่งวิธีนี้เหมาะสมกับนักศึกษาที่เริ่มเป็นผู้ใหญ่" นายพงศ์ธร กล่าว
ทั้งนี้ ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลฯ ยังประเมินสถานการณ์ด้วยว่า การแก้ปัญหาในระยะยาวนั้นคงเป็นเรื่องที่ท้าทาย และต้องใช้เวลา เพราะถูกปล่อยปละมานานพอสมควร แม้ระยะหลังรัฐบาล คสช.จะให้ความสำคัญ แต่ก็ยังเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นที่ต้องรอการขยายผล และสนับสนุน และมีการติดตามการดำเนินการตามนโยบายที่เข้มงวดอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้การบ่อนการพนันหายไปกลับมาเหมือนเดิม
“สิ่งที่เราพยายามทำคือทำกลไกที่จะอยู่กับเด็ก ซึ่งเริ่มเห็นว่า สถานการณ์การพนันนั้นเข้าขั้นวิกฤติ ต้องเริ่มทำอะไรสักอย่างไม่เช่นนั้น เสียเด็กไปเป็นหนี้สิน ถูกทำร้าย หรือไปก่ออาชญากรรม ส่วนระยะยาวต้องแก้ที่กฎหมายให้มีผลบังคับใช้จริงจัง มีบทลงโทษรุนแรงหากทำผิดกฎหมาย โดยเด็กเยาวชน ต้องได้รับการคุ้มครอง” นายพงศ์ธร กล่าว
การพนันท้าทายกว่าอบายมุขตัวอื่น เพราะยังไม่เจ้าภาพที่ดูแลภาพรวมอย่างเป็นทางการ และมีการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์อยู่เรื่อย เช่นเดี๋ยวนี้คนจะแทงน้ำเต้าปูปลา ไม่ต้องไปซื้อชุดเล่นที่เป็นกระดาษแล้วตัวอย่างจากที่พบในกลุ่ม มีการเล่นผ่านแอพมือถือกันแล้ว แต่จ่ายกันเป็นเงินสด หากจะไปไล่ตามในบ่อนคงไม่ทัน ไม่มีหลักฐาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ผู้บริหารด้านกิจการนักศึกษาของ มหาวิทยาลัยต้องเท่าทัน
นายพงศ์ธร กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกับนักศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัตตานี นักศึกษาสะท้อนความเห็นตรงกันว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีบังคับใช้กฎหมายจริงจังเพิ่มบทลงโทษจากการพนัน ทำให้รู้สึกว่าเป็นความผิดไม่อยากทำอีกเพราะ ปัจจุบันบทลงโทษอ่อนมาก และเสนอให้มหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมลดเวลาที่ให้เด็กไปหมกหมุ่นกับการพนัน โดยสรรหากิจกรรมเสริมอย่างอื่นพร้อมกับ เสนอให้ชุมชนร่วมเป็นหูเป็นตา ร่วมป้องกันการพนันรอบรั้วมหาวิทยาลัย .-
ขอบคุณภาพประกอบจาก : www.thaihealth.or.th