'วิษณุ'ปัด กัน'บิ๊กตู่'จากปมร้อนจำนำข้าว
"วิษณุ"ขยายเวลาอีก 30 วัน เปิดทาง "ปู"แจงจำนำข้าว ชี้เคยเปิดโอกาสให้แล้ว แต่ไม่ยอมมาเอง ยันไม่ได้กัน "บิ๊กตู่"จากปมร้อน แต่ยึดตามข้อกฎหมาย จ่อเชิญผู้เกี่ยวข้อง 12 คดีสำคัญให้ข้อมูล ยอมรับบางโครงการเหลือหลักฐานไม่ครบ
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินการเรียกเก็บค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าขณะนี้ได้มีการขยายเวลาให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการรับจำนำข้าวออกไปอีก 30 วัน เหมือนที่เคยขยายจนถึงวันที่ 30 ก.ย. และยังสามารถขยายได้อีก เพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น ใครที่เคยถูกเชิญมาให้ข้อมูลแล้วยังไม่ได้เข้ามา ก็จะถามไปอีกครั้งว่าจะมาหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้เคยเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาให้ข้อมูลแล้ว แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอส่งข้อมูลเป็นลายลักษณ์อักษร ส่วนคณะกรรมการที่มีการส่งข้อมูลมาแล้ว ก็จะส่งให้นายกฯ ภายใน 1-2 วันนี้ ขอย้ำว่าเราไม่เคยบอกว่านโยบายจำนำข้าวผิด และไม่เคยบอกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทุจริต แต่มีการปล่อยให้เกิดการทุจริต อีกทั้งมีการบอกมาแล้วว่ามีการทุจริต แต่ไม่มีการแก้ไข ตรวจสอบ และไม่ดำเนินการ จึงกลายเป็นความผิดของผู้บังคับบัญชา
เมื่อถามว่าการระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ไม่ต้องลงนามนั้นเป็นการป้องกันไม่ให้ นายกฯถูกฟ้องกลับหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ไม่ใช่ เพราะถึงนายกฯลงนามก็ใช่ว่านายกฯจะถูกฟ้องกลับได้ และถึงนายกฯจะไม่ลงนาม หากจะหาทางฟ้อง ใช่ว่าจะหาทางฟ้องไม่ได้ ถ้าทนายเก่งก็ฟ้องจนได้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่อยู่ที่กฎหมายข้อบังคับเขาว่าอย่างไร นายกฯ ยังบอกเลยว่าหากจำเป็นก็พร้อมลงนาม หากฟ้อง คนฟ้องก็ต้องคิดให้ดีว่าจะฟ้องคนหรือตำแหน่ง และถึงอย่างไร นายกฯ ก็ยังต้องลงนามร่วมกับ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบ ส่งไปยังคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่ง ซึ่งเป็นชุดที่ 2 อยู่ดี”
เมื่อถามว่าการเรียกเก็บค่าเสียหายที่มีข่าวว่าสูงถึงแสนล้านบาทนั้น เป็นวงเงินมากที่สุดตั้งแต่มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ.2539 หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ในกฎหมายดังกล่าวมีช่องทางที่สามารถผ่อนผันหรือลดลงมาได้ และตนไม่เข้าใจว่า ทนายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาชี้ถึงจุดอ่อนขั้นตอนการดำเนินการของรัฐบาลทำไม เหตุใดไม่ไปพูดในศาลทีเดียว ทางรัฐบาลเองก็ยังไม่เปิดออกไปหมดเลย
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงการดำเนินการกับ 12 คดีที่รัฐบาลเป็นโจทก์ 6 คดี และเป็นจำเลย 6 คดีตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯว่า ทั้ง 12 โครงการต้องดำเนินการพร้อมกัน เพราะแต่ละโครงการจะมีผู้ที่รับผิดชอบอยู่แล้ว ตนเป็นเพียงแค่ศูนย์กลางของข้อมูลเท่านั้น โดยจะเรียกคนที่รับผิดชอบแต่ละโครงการมาพูดคุย เมื่อถามว่าข้อมูลหลักฐานแต่ละโครงการยังอยู่ครบหรือไม่ เพราะผ่านมานานมากแล้ว นายวิษณุ กล่าวว่า ยอมรับว่าบางเรื่องก็มีปัญหาอยู่เหมือนกัน แต่คงบอกไม่ได้ว่าเรื่องอะไรบ้าง เพราะจะเป็นการเผยจุดอ่อนให้ฝ่ายตรงข้ามเห็น เมื่อถามว่าแต่ละโครงการที่มีปัญหาในอดีตที่ผ่านมาเป็นเพราะข้าราชการไม่รักษาผลประโยชน์ของประเทศหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า "คิดว่าวันหนึ่งก็คงต้องพูดประเด็นนี้กัน แต่ตอนนี้กำลังหน้าสิ่ว หน้าขวานในการที่จะพูดถึง 12 คดี ถ้าเราพูดไป ตำหนิเขาไป เขาก็อาจจะไม่ทำงาน แต่บางทีก็ต้องเห็นใจคนที่มารับผิดชอบ 12 คดีในวันนี้ไม่ได้เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ มีการย้ายไป ย้ายมา ก็ต้องมารับผิดชอบ ซึ่งในที่ประชุม ครม.ผมได้ชี้แจงให้ฟังหมดว่าโครงการไหน เกิดในรัฐบาลไหน แต่ไม่ได้บอกว่ารัฐบาลนั้นผิด เพราะบางเรื่องก็มีแววว่ารัฐบาลจะชนะ และใครเป็นรัฐบาลวันนั้นก็ต้องตัดสินใจแบบนั้น".
ขอบคุณข่าวจาก