ปลัดศธ.เร่งหาคนกลางสงบศึก‘เอแบค’
ปลัดศธ.เร่งหาคนกลางสงบศึก‘เอแบค’ รับหนักใจแก้ปัญหาไม่ง่าย อัคราธิการบินด่วนจากโรม ปราม3‘ภราดา’ยุติแตกแยก
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัดศธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการหาคนกลาง เข้ามาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในของฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ(เอแบค)ว่า ตอนนี้ตนกำลังเร่งหาคนกลางที่เป็นที่ยอมรับจากทั้งสองฝ่าย คาดว่าภายในวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคมนี้น่าจะทราบว่าเป็นใคร
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) รับหน้าที่หย่าศึกม.เอแบค เรียกประชุมคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยฯเพื่อหาทางออก โดยมอบหมายให้ รศ.นพ.กำจร ไปหาคนกลางที่เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาความขัดแย้งดังกล่าวที่กินเวลานานหลายเดือนแล้วเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อมหาวิทยาลัย และนักศึกษา
“หากทราบบุคคลที่แน่ขัดแล้วก็จะสอบถามความเห็นจากผู้ขัดแย้งทั้งสองฝ่าย ก่อนเสนอให้ รมว.ศึกษาฯ เซ็นลงนาม ยอมรับว่าการแก้ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ถ้าไม่ยุ่งยากเรื่องคงไม่มาถึงกระทรวงศึกษาฯ ดังนั้นคงต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาเป็นคนกลางในการแก้ไขปัญหานี้ อย่าเพิ่งไปคาดเดา” ปลัดศธ.กล่าวย้ำ
ด้าน ดร.สุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล รักษาการอธิการบดี ม.อัสสัมชัญ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ที่มีความปราถรนาดีจะให้ปัญหาที่เกิดขึ้นใน ม.อัสสัมชัญ จบลงจึงได้เข้ามารับฟังและช่วยแก้ไขปัญหา แต่อยากให้การแก้ไขปัญหาโดยคำนึงถึงกฏหมาย และสิ่งใดที่เราทำได้ก็จะทำให้ทุกเรื่อง แต่หากทำไม่ถูกต้องจะเกิดผลเสียกับทางมหาวิทยาลัยและนักศึกษา
ดร.สุทธิพร กล่าวด้วยว่า ส่วนคนที่จะมาเป็นคณะกรรมการกลางที่จะเข้ามาสอบเพื่อแก้ไขปัญหาภายในนั้น ใครมาก็ได้แต่อยากได้คนที่มีประสบการณ์ และทั้งสองฝ่ายยอมรับ เมื่อทางกระทรวงศึกษาฯ หาคนได้แล้วก็อยากให้ส่งรายชื่อมาให้กรรมการสภาฯลงมติเห็นชอบก่อน ไม่ใช่เอาใครมาสอบก็ได้ และการสอบก็ให้อยู่กับเอกสารหลักฐาน รวมถึงการสอบจะต้องเป็นทำโดยเปิดเผย
ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวจาก ม.อัสสัมชัญ ถึงความคืบหน้ากรณีมีคำสั่งจากศูนย์กลางบริหารคณะเซนต์คาเบรียล โดยอัคราธิการใหญ่จากกรุงโรมเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่งผู้ช่วยอัคราธิการ 2 ท่านมาจัดการสะสางปัญหาความขัดแย้งภายใน โดยให้นักบวช 3 ท่านในฐานะกรรมการสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้แก่ ภราดาวิศิษฐ์ ศรีวิชัยรัตน์ ภราดามีศักดิ์ ว่องประชานุกูล และภราดาวิริยะ ฉันทวโรดม หยุดการกระทำอันเป็นความขัดแย้งภายในคณะที่สร้างความแตกแยกในหมู่กรรมการสภา
อย่างไรก็ตามหนึ่งในสามนักบวช คือ ภราดาวิศิษฐ์ ศรีวิชัยรัตน์ ยังคงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะเซนต์คาเบรียล โดยยังคงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งในกลุ่มกรรมการสภาที่จะไม่อนุมัติใบปริญญาบัตร และลงนามมีมติไม่อนุมัติใบปริญญาบัตรแก่นักศึกษาที่กำลังจะจบในปีการศึกษา 2557 นี้
นอกจากนี้ ยังคงเพิกเฉยต่อคำสั่งให้ออกจดหมายยกเลิกคำสั่งที่เป็นคนลงนามอันเป็นโมฆะ เช่นคำสั่งแต่งตั้ง นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เป็นรักษาการอธิการบดีที่มิชอบด้วยกฎหมาย โดยล่าสุดมีรายงานว่า อธิการเจ้าคณะเซนต์คาเบรียลได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อขั้นตอนแล้ว โดยฟ้องภราดาวิศิษฐ์ ฐานปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่าเมื่อวันที่ 1ตุลาคมที่ผ่านมา ภราดาสุรสิทธิ์ สุขชัย อธิการเจ้าคณะเซ็นต์คาเบรียล ได้เป็นโจทย์ยื่นฟ้องศาลอาญา ภราดาวิศิษฐ์ ศรีวิชัยรัตน์ ผู้เป็นจำเลยในข้อหาที่จำเลยปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม คดีเลขที่ 10003/2558 ศาลแขวงพระนครเหนือ ซึ่งศาลรับฟ้องเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม โดยนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้
ข่าวแจ้งอีกว่า หากเอกสารคำสั่งที่อัคราธิการได้ส่งถึงนักบวชทุกคนในคณะเซ็นคาเบรียล ครบ 30 วันแล้ว ภราดาวิศิษฐ์ ศรีวิชัยรัตน์ ยังไม่หยุดการกระทำอันเป็นการละเมิดคำสั่งของศูนย์กลางบริหารคณะเซนต์คาเบรียล จะถือว่าเป็นการละเมิดกฎนักบวชที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด นั่นคือการนบนอบเชื่อฟังผู้ใหญ่ของคณะเซ็นต์คาเบรียล ภราดาวิศิษฐ์ ศรีวิชัยรัตน์ จะต้องสิ้นสภาพการเป็นนักบวช ในที่สุด
ขอบคุณข่าวจาก