ทำเนียบ ขรก.รวยผิดปกติ!‘นิพัทธ’49 ล.รายที่ 8 -รอคิว 6 คน ลุ้นคดี‘เสี่ยตือ’ 16 ล.
พลิกบัญชี ขรก.รวยผิดปกติ ‘นิพัทธ’อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นรายที่ 8 ถูกศาลแพ่งสั่งริบทรัพย์ 49 ล. ลุ้นในชั้น ป.ป.ช.อีก 4 - ชั้นศาล 3 คน ขณะที่ฝั่งนักการเมือง ‘เสี่ยตือ-สมศักดิ์ ’ ชี้ชะตารายที่ 4 เบ็ดเสร็จ 2 กลุ่มโดนแล้ว 14 คน (มีตารางประกอบ)
14 ต.ค. 58 ศาลแพ่งอ่านคำพิพากษาคดีริบทรัพย์ นายนิพัทธ พุกกะณะสุต อายุ 72 ปี อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ จำนวน 49 ล้านบาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ทรัพย์สินตามคำร้องจำนวน 49 ล้านบาท ที่นายนิพัทธ อ้างว่าได้มาจากการจำหน่ายวัตถุมงคล และการขายที่ดินของภริยา ไม่มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากนายนิพัทธ ไม่นำพยานบุคคลผู้ซื้อวัตถุมงคลมาสืบ รวมถึงไม่มีหลักฐานว่าภริยาได้รับเงินค่าขายที่ดินมาอย่างไร พยานหลักฐานของนายนิพัทธ จึงไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานของอัยการ ศาลแพ่งจึงมีคำสั่งให้ทรัพย์สินจำนวน 49 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด นายนิพัทธ ยังสามารถยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาได้ภายใน 30 วัน
ถ้าพลิกข้อมูลคดีร่ำรวยผิดปกติในอดีตตั้งแต่พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ พ.ศ. 2518 (ป.ป.ป.) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ที่ให้มี คณะกรรมการ ป.ป.ช. จนถึงปัจจุบันมีข้าราชการถูกศาลมีคำพิพากษา ยึดทรัพย์ในความผิดมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติก่อนหน้านี้ 7 ราย
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เรียบเรียงมาเสนอดังนี้
1.พล.อ.ชำนาญ นิลวิเศษ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ป. ชี้มูลว่าร่ำรวยผิดปกติจำนวน 69.1 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2528 และศาลฎีกาตัดสินเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2539
2.นายเมธี บริสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ศาลฎีกาพิพากษายึดทรัพย์ 12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541
3.นายธีระชัย ชัยสุนทรโยธิน เจ้าหน้าที่บริหารงานพัสดุ 6 สำนักงานชลประทานที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ป. ตรวจสอบพบว่าปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตสร้างความร่ำรวยจากตำแหน่งที่มีอำนาจหน้าที่ระหว่างปี 2518 - 2529 และถูกศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายึดทรัพย์ 2,065,000 บาท เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2543
4. นายสุวิทย์ ลอยใหม่ เจ้าหน้าที่ระดับ 3 องค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ ถูกร้องเรียนว่า แสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายระหว่างปี 2521 ถึง 2525 ศาลอุทธรณ์พิพากษายึดทรัพย์ 1,773,555.55 บาท เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2543
5. นายสมภพ อุณหวัฒน์ นายช่างโยธาระดับ 9 กรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.) ชี้มูลว่าร่ำรวยผิดปกติ เมื่อ วันที่ 29 มิถุนายน 2537 ศาลพิพากษายึดทรัพย์ 73,525,436.09 บาท เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2547
6. นายสุนทร ตันถาวร ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. วินิจฉัยว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นในลักษณะร่ำรวยผิดปกติระหว่างปี 2539-2542 จำนวน 15,260,380.56 บาท ศาลแพ่งพิพากษายึดทรัพย์ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2547
7. นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลว่าร่ำรวยผิดปกติ จำนวน 64.7 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2555 ส่งเรื่องให้อัยการยื่นคำร้องต่อศาลอาญายึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินต่อมา 31 ม.ค. 57 ศาลแพ่ง มีคำสั่งให้ทรัพย์สินของ นายสุพจน์ กับพวก ซึ่งเป็นเครือญาติ 7 คน อาทิ เงินสด เงินฝากในธนาคารพาณิชย์ต่างๆ รวม 9 บัญชี เงินฝากในสหกรณ์ออมทรัพย์กรมทางหลวง โฉนดที่ดินย่านต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด บ้านพัก รถยนต์ ห้องชุด รวมมูลค่าทั้งสิ้น 64,998,587 บาท พร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน
หากรวมนายนิพัทธ ล่าสุด เท่ากับเป็นรายที่ 8
ขณะที่มีข้าราชการถูก ป.ป.ช.ชี้มูลและคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล อย่างน้อย 2 ราย
1.พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ถูก คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลเมื่อ วันที่ 6 ก.พ.2557 ในข้อหาร่ำรวยผิดปกติ จำนวน 296,323,911 บาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน คดีนี้ล่าสุดอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นศาลซึ่งต้องรอดูว่าจะมีความผิดตามที่ ป.ป.ช.ชี้มูลหรือไม่
2.นายสามารถ ใจสมุทร อดีตผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 สงขลา ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูล เมื่อวันที่ 26 มี.ค.58 และมีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบตามความเห็นของอนุกรรมการไต่สวนฝ่ายเสียงข้างมากว่านายสามารถ ร่ำรวยผิดปกติ 113,311,730 บาท ประกอบด้วยหุ้นกู้ด้อยสิทธิธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นเงินจำนวน 700,000 บาท, สลากออมสินพิเศษธนาคารออมสิน เป็นเงิน 107,772,000 บาท ที่ดิน โรงเรือน และสิ่งปลูกสร้างอื่น รวมมูลค่า 3,549,730 บาท ยานพาหนะ 1 คัน มูลค่า 1,290,000 บาท ล่าสุด สำนักงานอัยการจังหวัดสงขลาได้มีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดสงขลาแล้ว
อยู่ระหว่างไต่สวนอย่างน้อย 3 ราย
1.นายศุภกิจ ริยะการ (นายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ) อดีตสรรพากรพื้นที่ 22 บางรัก มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะมีการโอนย้าย ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินดังกล่าว จึงได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของนายศุภกิจ และผู้ที่เกี่ยวข้องไว้เป็นการชั่วคราว รวมมูลค่าประมาณ 48 ล้านบาท (อยู่ในชื่อของเครือญาติด้วย) เกี่ยวเนื่องกับคดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมสรรพากร
2.นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ อดีตนักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 27 ถูก ป.ป.ช.อายัดทรัพย์สิน กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติ และผู้ที่เกี่ยวข้องไว้เป็นการชั่วคราว ได้แก่ เงินฝาก เงินลงทุน ทรัพย์สินในตู้นิรภัยกับธนาคาร และยานพาหนะ รวมมูลค่าประมาณ 19 ล้านบาทเศษ เกี่ยวเนื่องกับคดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมสรรพากร
3.นายธาริต เพ็งดิษฐ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถูกป.ป.ช. อายัดทรัพย์สินรวมกว่า 40 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินฝาก บ้านและที่ดิน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และรถยนต์
อีก 1 ราย ถูกอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว
ยังไม่มีข้อมูลว่า ตั้งข้อกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ คือ นายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ถูก ป.ป.ช.อายัดทองคำมูลค่า 179 ล้านบาท และทรัพย์สินส่วนอื่น ๆ ที่ป.ป.ช. กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ก็จะมีมูลค่ารวม 600 ล้านบาท
ขณะที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นับจาก ปี 2545-2557 มีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายึดทรัพย์ 3 ราย
1. นายรักเกียรติ สุขธนะ (อดีต)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติว่าปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและร่ำรวยผิดปกติ เมื่อ 12 กันยายน 2545 ต่อมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายึดทรัพย์ 233,880,000 บาท ตกเป็นของแผ่นดินเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2546 และวันที่ 28 ตุลาคม 2546 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 15 ปี ในข้อหาทุจริตจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขโดยการเรียกรับเงิน 5 ล้านบาทจากเจ้าของบริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด
2. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษายึดทรัพย์ 46,373,687,454.70 บาท เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2553 เป็นการยึดทรัพย์อดีตนายกฯที่มีอิทธิพลทางการเงินและบารมีทางการเมือง เกิดขึ้นภายหลังรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาตรวจสอบทรัพย์สิน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นการเฉพาะ กระบวนการไต่สวนดำเนินการตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดและศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินชี้ขาด
3. น.ส.ณฐกมล (นฤมล) นนทะโชติ ลูกสาว พล.อ.สัมฤทธิ์ นนทะโชติ คนสนิท พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายึดทรัพย์ จำนวน 68,104,000 บาท ซึ่งรวมถึงทรัพย์สินที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำสั่งยึดหรืออายัดไว้ชั่วคราวตามคำสั่งที่ 8-11/2556 ลงวันที่ 15 มกราคม 2556 พร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน
ป.ป.ช.ชี้มูลและอยู่ในชั้นศาลฎีกาฯ 1 รายคือ
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลร่ำรวยผิดปกติกรณีบ้านเลขที่ 5/5 ตำบลไผ่จำศีล อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ปลูกสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 ในช่วงที่นายสมศักดิ์ ดำรงตำแหน่ง รมช.กระทรวงศึกษาธิการ และมีการก่อสร้างต่อเนื่องในขณะที่นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยมาปลูกสร้างแล้วเสร็จ เมื่อปี 2554 ใช้เงินในการปลูกสร้างประมาณ 16 ล้านบาทเศษ ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาลฎีกาฯและศาลฎีกาฯนัดฟังคำสั่งในวันที่ 20 ต.ค.นี้
เบ็ดเสร็จคดีมีคดีร่ำรวยผิดปกติทั้ง ข้าราชการและนักการเมืองที่ ศาลพิพากษาให้มีความผิดแล้ว 11 คดี ( เท่าที่ตรวจสอบพบ) รวมวงเงินที่ถูกยึดทรัพย์ประมาณ 46,963.2 ล้านบาท (บางคดียังไม่ถึงที่สุด)
มีคดีอยู่ในชั้นไต่สวน ป.ป.ช.และในชั้นศาล ประมาณ 7 ราย (นักการเมือง 1 ราย)
น่าสังเกตว่า ยังไม่มีนักการเมืองท้องถิ่นเลยสักราย
ต้องกลั้นใจยาวๆ ลุ้น ‘ศักยภาพ’ของ ป.ป.ช. ใครจะเป็นคิวต่อไป (ดูตารางประกอบ)
ชื่อตำแหน่ง | วงเงินที่ถูกยึดทรัพย์ (บาท) |
คดีร่ำรวยผิดปกติที่ศาลพิพากษายึดทรัพย์ | |
ข้าราชการ | |
1.พล.อ.ชำนาญ นิลวิเศษ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม |
19 กันยายน 2528 คณะกรรมการ ป.ป.ป. ชี้มูลร่ำรวยผิดปกติ 69.1 ล้านบาท 18 มกราคม 2539 ศาลฎีกาตัดสินตกเป็นของแผ่นดิน |
2.นายเมธี บริสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
|
ศาลฎีกาพิพากษายึดทรัพย์ 12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 |
3.นายธีระชัย ชัยสุนทรโยธิน เจ้าหน้าที่บริหารงานพัสดุ 6 สำนักงานชลประทานที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช | ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายึดทรัพย์ 2,065,000 บาท เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2543 |
4. นายสุวิทย์ ลอยใหม่ เจ้าหน้าที่ระดับ 3 องค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ | ศาลอุทธรณ์พิพากษายึดทรัพย์ 1,773,555.55 บาท เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2543 |
5. นายสมภพ อุณหวัฒน์ นายช่างโยธาระดับ 9 กรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย |
ศาลพิพากษายึดทรัพย์ 73,525,436.09 บาท เมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2547 |
6. นายสุนทร ตันถาวร อดีต ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) |
ป.ป.ช. วินิจฉัยว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ จำนวน 15,260,380.56 บาท ศาลแพ่งพิพากษายึดทรัพย์ เมื่อ 15 ธันวาคม 2547 |
7. นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม |
24 กรกฎาคม 2555 ป.ป.ช. ชี้มูลว่าร่ำรวยผิดปกติ 64.7 ล้านบาท 31 ม.ค. 57 ศาลแพ่ง มีคำสั่งให้ทรัพย์สินของ นายสุพจน์ กับพวก 7 คน รวมมูลค่า 64,998,587 บาท พร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน |
8. นายนิพัทธ พุกกะณะสุต อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ |
14 ต.ค. 58 ศาลแพ่งริบทรัพย์ จำนวน 49 ล้านบาท |
รวมมูลค่า ประมาณ | 287.6 ล้าน |
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง | |
1.นายรักเกียรติ สุขธนะ (อดีต)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข |
12 กันยายน 2545 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติว่าปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและร่ำรวยผิดปกติ ต่อมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายึดทรัพย์ 233,880,000 บาท ตกเป็นของแผ่นดินเมื่อ 30 กันยายน 2546 |
2. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี | ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษายึดทรัพย์ 46,373,687,454.70 บาท เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2553 |
3. น.ส.ณฐกมล (นฤมล) นนทะโชติ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลูกสาว พล.อ.สัมฤทธิ์ นนทะโชติ คนสนิท พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี |
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายึดทรัพย์ จำนวน 68,104,000 บาท เมื่อ 4 ธ.ค.57 |
รวมมูลค่าประมาณ | 46,675.6 ล้าน |
คดีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลแล้วและอยู่ในชั้นพิจารณาของศาล | |
1.นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ |
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลร่ำรวยผิดปกติกรณีบ้านเลขที่ 5/5 ตำบลไผ่จำศีล อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ใช้เงินในการปลูกสร้างประมาณ 16 ล้านบาทเศษ ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาลฎีกาฯ |
2.พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม |
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลเมื่อ 6 ก.พ.2557 ในข้อหาร่ำรวยผิดปกติ จำนวน 296,323,911 บาท คดีนอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นศาล |
3.นายสามารถ ใจสมุทร อดีตผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 สงขลา |
คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูล เมื่อ 26 มี.ค.58 ร่ำรวยผิดปกติ 113,311,730 บาท ล่าสุด สำนักงานอัยการจังหวัดสงขลาได้มีคำสั่งยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดสงขลาแล้ว |
รวมมูลค่าประมาณ | 425.6 ล้าน |
คดีอยู่ระหว่างไต่สวนของ คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. หรือถูกอายัด | |
1.นายศุภกิจ ริยะการ (นายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ) อดีตสรรพากรพื้นที่กรุงเทพฯ 22 บางรัก และเครือญาติ |
ป.ป.ช.อายัดทรัพย์สินรวมประมาณ 48 ล้านบาท ( เกี่ยวเนื่องกับคดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมสรรพากร)
|
2.นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ อดีตนักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพฯ 27 และเครือญาติ |
ป.ป.ช.อายัดทรัพย์สิน รวมมูลค่า 19 ล้านบาทเศษ (เกี่ยวเนื่องกับคดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมสรรพากร) |
3.นายธาริต เพ็งดิษฐ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) |
ป.ป.ช. อายัดทรัพย์สินรวมกว่า 40 ล้านบาท |
4 นายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร |
ป.ป.ช.อายัดทองคำมูลค่า 179 ล้านบาท จากทรัพย์สินอื่น ๆ ที่กำลังตรวจสอบ 600 ล้านบาท |
ที่มา: สำนักข่าวอิศรา รวบรวม (ข้อมูล ณ 14 ต.ค.58)
อ่านประกอบ:
ชำแหละสลากออมสิน 107 ล.โผล่บัญชี“สามารถ”เอามาจากไหน-ทำอะไรถึงรวย!
ป.ป.ช.ฟันดาบ 2 “สมศักดิ์ ”รวยผิดปกติหาที่มาบ้าน 16 ล้าน 'ไม่ได้'
ศาลฎีกาฯยึดทรัพย์"ลูกสาว" พลเอกคนสนิท“บิ๊กจิ๋ว” 68 ล.รวยผิดปกติ
ป.ป.ช.อายัดทรัพย์“ศุภกิจ-พวก”คดีโกงแวต 4.3 พันล.-สอบรวยผิดปกติ