ไม่ใช่แค่AIS! DTAC-True โดนด้วย เปิดหนังสือลับกสทช.แจงฟัน 6 บริษัทมือถือ
"..หาก กสทช.พบว่า ผู้ให้บริการทั้ง 6 ราย ยังไม่ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน หรือแก้ไขปรับปรุง เลขาธิการ กสทช. จะดำเนินการพิจารณากำหนดค่าปรับทางปกครองตามมาตรา 66 ของพรบ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ต่อไปซึ่งจะมีอัตราค่าปรับไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาทต่อวัน.."
กรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในช่วงเดือนมีนาคม 2558 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือแจ้งถึง กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ให้รับทราบผลการตรวจสอบข้อมูลการโอนย้ายหมายเลขโทรศัพท์ของ AIS ที่ฝ่าฝืนประกาศและข้อกำหนดของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และขอให้ทีโอที ทำหนังสือแจ้งไปถึงสำนักงาน กสทช. เพื่อให้ตรวจสอบข้อมูลการโอนย้ายหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าว พร้อมระบุว่า หากพบว่ามีการกระทำที่ขัดต่อประกาศและหลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้องกับการคงสิทธิหมายเลข ก็ขอให้สำนักงาน กสทช. ใช้อำนาจหน้าที่เรียกคืนหมายเลขโทรศัพท์ ที่ AIS ดำเนินการโอนย้ายไม่สมบูรณ์ กลับคืนมาให้ ทีโอทีทั้งหมด นั้น
(อ่านประกอบ : เปิดหนังสือลับ สตง. ฉบับที่ 2 ชี้ช่อง "ทีโอที" ทวงคืนเบอร์โทรศัพท์ "AIS")
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 58 สำนักงาน กสทช. ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อชี้แจงการทำงานของสำนักงานกสทช. ในการตรวจสอบการดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่
ระบุสาระสำคัญว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) มีมติเห็นชอบและกำหนดให้ผู้ให้บริการ โทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายปฏิบัติตามเงื่อนไขแนวทางปฏิบัติการโอนย้ายฯ แล้ว
สำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการตรวจสอบการให้บริการคงสิทธิฯ ดังกล่าว โดยมีหนังสือแจ้งให้บริษัท ศูนย์ให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์ จำกัด จัดส่งรายการผลการให้บริการรวมถึงการสุ่มตรวจ
พบว่า มีผู้ให้บริการจำนวน 6 ราย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN เป็นบริษัทลูก AIS) บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)(DTAC) บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด (บริษัทลูก DTAC) บริษัท ทรู มูฟจำกัด ( True) และบริษัทเรียล ฟิวเจอร์ จำกัด (บริษัทลูก ทรู มูฟ) ไม่สอดคล้องตามเงื่อนไขแนวทางปฏิบัติการโอนย้ายฯ
เบื้องต้น สำนักงานกสทช.ได้มีหนังสือแจ้งผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ชี้แจงข้อเท็จจริง โต้แย้งแสดงหลักฐาน แต่ไม่มีผู้ให้บริการรายใดชี้แจงภายในระยะเวลาที่กำหนด จึงได้มีหนังสือเร่งรัดการดำเนินการอีกครั้ง
หลังจากนั้น ได้เชิญผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกราย เข้าร่วมประชุมชี้แจง โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายแจ้งยืนยันข้อมูลพร้อมจัดส่งหลักฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นการแสดงความยินยอมในการโอนย้ายของผู้ใช้บริการ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสำนักงาน กสทช.จะมีหนังสือเร่งรัดผู้ให้บริการทั้ง 6 ราย จัดส่งข้อมูลอย่างไร แต่ผู้ให้บริการทั้งหมด ได้ดำเนินการเพียงบางส่วน อีกทั้งข้อมูลที่ส่งให้ก็ไม่ละเอียดชัดเจน กสทช.จึงได้แจ้งยืนยันผู้ให้บริการ จะต้องดำเนินการให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้น จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.57 ผู้ให้บริการทั้ง 6 ราย ได้มาให้ถ้อยคำ โดยทั้งหมดยอมรับว่า มีการดำเนินการที่ไม่สอดคล้องตามเงื่อนไขแนวทางปฏิบัติการโอนย้ายฯ
เมื่อพิจารณาข้อมูลร่วมถึงหลักฐานต่างๆ กสทช.จึงได้มีคำสั่งให้ผู้ให้บริการ ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน หรือปรับปรุงแก้ให้ถูกต้องเหมาะสม ภายใน 30 วัน และแจ้งสิทธิในการอุทธรณ์ ที่ประชุม กทค. จึงได้มีมติรับเรื่องอุทธรณ์ไว้เพื่อพิจารณา ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ 17 พ.ค.2558 ที่ผ่านมา
ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสำนักงาน กสทช. ซึ่งหาก กสทช.พบว่า ผู้ให้บริการทั้ง 6 ราย ยังไม่ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน หรือแก้ไขปรับปรุง เลขาธิการ กสทช. จะดำเนินการพิจารณากำหนดค่าปรับทางปกครองตามมาตรา 66 ของพรบ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ต่อไปซึ่งจะมีอัตราค่าปรับไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาทต่อวัน
ทั้งนี้ ในหนังสือดังกล่าว ระบุทิ้งท้ายด้วยว่า จากการดำเนินการของ กสทช.ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่า สำนักงานกสทช. มิได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดแต่อย่างใด
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2558 ที่ผ่านมา สำนักงานกสทช. ได้ออกหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 6 ราย ให้ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน หรือแก้ไขปรับปรุงการบริการให้ถูกต้อง พร้อมระบุว่า ภายหลังจากที่ได้รับหนังสือเป็นระยะเวลา 7 วัน แล้ว
หากยังไม่ดำเนินการ เลขาฯ กสทช. จะใช้อำนาจตามมาตรา 66 แห่งพรบ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 มีคำสั่งกำหนดให้บริษัทฯ ชำระค่าปรับทางปกครองในอัตราวันละ 3,294,744 บาท ด้วย
ทั้งหมดนี้ คือ ความเคลื่อนไหวและท่าที ของ สำนักงานกสทช. ต่อกรณีการตรวจสอบการดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่กำลังถูกจับตามองในณะนี้
(อ่านประกอบ : โชว์หนังสือลับ "สตง."ถึง "อัยการฯ" ป้องผลประโยชน์ ทีโอที ทวงคืนคลื่น "AIS")