บริจาคเงินโครงการ “รวมใจไทย ต้านค้ามนุษย์” ได้ยกเว้นภาษี มีผลบังคับใช้แล้ว
เมื่อวันที่ 26 กันยายน ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 593) พ.ศ.2558 หรือมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้แก่โครงการรวมใจไทยต้านค้ามนุษย์ ตั้งแต่ 5 มิถุนายน - 5 กันยายน 2558
สำหรับบุคคลธรรมดาให้ยกเว้นสำหรับเงินได้พึงประเมิน หลังจากหักค่าใช้จ่าย และหักลดหย่อน ตามมาตรา 47 (1) (2) (3) (4) (5) หรือ (6) แห่งประมวลรัษฎากร เท่าจำนวนเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคตามมาตรา 47 (7) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนนั้น
สำหรับบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้ยกเว้นสำหรับเงินได้เท่าจำนวนเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร ต้องไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2558 คณะรัฐมนตรีมีมติ เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้แก่โครงการรวมใจไทยต้านค้ามนุษย์ โดยยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดา และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับการบริจาคเงินให้แก่โครงการรวมใจไทยต้านค้ามนุษย์ สามารถนำมาหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีหรือรายจ่ายในการคำนวณภาษี และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกัน ปราบปรามการค้ามนุษย์และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการค้ามนุษย์ ซึ่งจะส่งผลต่อการจัดอันดับในการรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของประเทศสหรัฐอเมริกาในปีต่อไป
ขณะเดียวกัน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็เปิดช่องทางในการรับบริจาคเพื่อนำเงินมากระจายสู่มูลนิธิต่างๆ ที่ช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ โดย จะมีการจัดทำเสื้อยืดและ postcard ที่มี barcode แจก / จำหน่าย และผู้ที่ได้รับสามารถนำ barcode ดังกล่าวไปสแกนและบริจาคได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขาสะพานขาว ชื่อบัญชี “รวมใจไทย ต้านค้ามนุษย์ โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” เลขที่บัญชี 021-0-17650-4