พ.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์: มีคนเสียประโยชน์ค้ามนุษย์ ทำทหารตกเป็นผู้ต้องหา
หลังจากที่ศาลจังหวัดนาทวีได้อนุมัติหมายจับเพิ่มเติมผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา เป็นทหาร 4 นาย หลายฝ่ายก็เฝ้ารอการเข้ามอบตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาของทหารกลุ่มดังกล่าว
เพราะที่ผ่านมามีทหารถูกออกหมายจับเพียงคนเดียว คือ พลโทมนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก จนหลายคนตั้งข้อสังเกตว่ามีกำลังพลเข้าไปเกี่ยวข้องแค่นี้จริงๆ หรือ
ทหาร 4 นายที่ถูกออกหมายจับ ประกอบด้วย พันเอกณัฏฐ์สิทธิ์ มากสุวรรณ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดสตูล (ผอ.รมน.จ.สตูล) ร้อยเอกวิสูตร บุนนาค สังกัดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดชุมพร (กอ.รมน.จ.ชุมพร) ร้อยเอกสันทัด เพชรน้อย สังกัด กอ.รมน.จ.ชุมพร และ นาวาโทกัมปนาท สังข์ทองจีน สังกัดทัพเรือภาคที่ 3
ล่าสุด "ทีมข่าวอิศรา" ได้ติดต่อกับ พันเอกณัฏฐ์สิทธิ์ มากสุวรรณ รอง ผอ.รมน.จ.สตูล เพื่อสอบถามถึงกรณีที่ถูกออกหมายจับ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมให้สัมภาษณ์เปิดใจกับ "ทีมข่าวอิศรา"
มึนถูกออกหมายจับค้ามนุษย์
พันเอกณัฏฐ์สิทธิ์ กล่าวว่า ทราบเรื่องที่ถูกออกหมายจับแล้ว ก็ยังงงอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง แต่ก็มั่นใจในความบริสุทธิ์ในการปฏิบัติหน้าที่ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์อย่างแน่นอน และการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ กอ.รมน.จ.สตูล ทุกครั้งที่ออกทำงาน จะมีการรายงานผลการปฏิบัติงานต่อผู้บังคับบัญชา ไม่ว่าจะเป็นงานการจับกุมน้ำมันเถื่อน สินค้าหนีภาษี ซึ่งเป็นงานด้านความมั่นคงและภัยแทรกซ้อนที่ทาง กอ.รมน.รับผิดชอบ
"ในช่วงที่มีเรือโรฮิงญามาลอยลำอยู่ในพื้นที่ จ.สตูล ผมในฐานะ กอ.รมน.จังหวัด ก็ได้ร่วมกับทางทหารเรือในพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ เข้าไปดูแลช่วยเหลือ อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนก็เคยเข้ามาพูดคุยสอบสวนและตรวจสอบแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องทรัพย์สินและบัญชีการเงิน ซึ่งก็ได้ชี้แจงไปหมดแล้ว จนหลังจากนั้นได้มีการออกหมายจับ พลโทมนัส แต่ไม่ได้มีการออกหมายจับผม ก็นึกว่าไม่มีอะไร จนล่าสุดมีการออกหมายจับผมด้วย ก็เลยรู้สึกแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น"
เชื่อโยงเรื่องบัญชีการเงิน-งบลับ
พันเอกณัฏฐ์สิทธิ์ บอกว่า การออกหมายจับเขา น่าจะเกี่ยวกับเรื่องบัญชีการเงิน ซึ่งจริงๆ ก็เคยชี้แจงไปหมดแล้ว
"ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นการอ้างถึงเรื่องบัญชีการเงินที่เขา (ตำรวจ) คิดว่าเกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์ ตรงนี้ผมเคยชี้แจงไปแล้วว่า เงินดังกล่าวเป็นงบลับที่ใช้ในการทำงาน ทุกหน่วยงานด้านความมั่นคงก็มีเรื่องงบแบบนี้ แต่หากเป็นเรื่องพยานหลักฐานอื่นที่คิดว่าจะเอาผิดผมในเรื่องคดี ผมเชื่อว่าเขาไม่มี และผมมีหลักฐานการทำงานทุกครั้ง เรื่องนี้ผมได้ชี้แจงผู้บังคับบัญชาแล้ว"
สงสัยมีคนเสียผลประโยชน์
เขายังวิเคราะห์ว่าการทำงานของเขาที่เข้าไปขวางผลประโยชน์ของใครหลายคนในพื้นที่ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถูกออกหมายจับในครั้งนี้
"อีกประเด็นที่ผมเชื่อ ก็คือการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมาของผม หากไปย้อนดูการปฏิบัติงานของผมในฐานะ รอง ผอ.รมน.จ.สตูล จะมีการจับกุมน้ำมันเถื่อนและการบุกรุกป่าอย่างต่อเนื่อง เป็นธรรมดาที่ผู้เสียผลประโยชน์จะไม่พอใจผมและต้องการเล่นงานผม หากมองกันตรงๆ งานเรื่องโรฮิงญา บุคคลต่างด้าว การค้ามนุษย์ ใครรับผิดชอบในการดูแลปราบปรามและจับกุม คำตอบก็คือตำรวจ แล้วพอเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา ทหารกลับตกเป็นผู้ต้องหา ถูกออกหมายจับ ขณะที่ตำรวจผู้ที่มีหน้าที่ดูแลโดยตรงไม่ถูกจับ ไม่ถูกออกหมายจับเลย ลงโทษก็แค่ย้ายสับเปลี่ยน ซึ่งบางคนการย้ายกลับกลายเป็นเรื่องดี ได้ไปอยู่ในที่ดีขึ้นอีกต่างหาก"
หลัง 10 ตุลาฯค่อยมอบตัว
พันเอกณัฏฐ์สิทธิ์ ยังกล่าวถึงกำหนดเวลาการไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายจับว่า ต้องเป็นไปตามขั้นตอน โดยทางพนักงานสอบสวนต้องทำเรื่องมายังต้นสังกัด และจะมีนายทหารพระธรรมนูญเข้ามาดูแลประสานงานกับทางพนักงานสอบสวน ซึ่งตอนนี้ได้ชี้แจงไปแล้วว่ายังไม่สามารถเข้าไปพบพนักงานสอบสวนได้ เนื่องจากยังติดภารกิจอยู่ แต่หลังเสร็จภารกิจ คาดว่า หลังวันที่ 10 ตุลาคม จะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน แต่จะเป็นที่หาดใหญ่ หรือที่กรุงเทพฯ ต้องรอดูอีกครั้งว่าในตอนนั้นจะมีการโอนย้ายคดีไปยังศาลอาญาหรือไม่ ถ้าโอนย้ายแล้วก็คงเข้าไปพบพนักงานสอบสวนที่กรุงเทพฯเลย
ตำรวจพร้อมรับมอบตัวทุกเวลา
ด้านความเห็นของฝ่ายตำรวจ พลตำรวจตรีปวีณ พงษ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในฐานะหัวหน้างานสอบสวนในคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา กล่าวว่า หลังจากศาลจังหวัดนาทวีอนุมัติออกหมายจับนายทหารที่มีส่วนพัวพันในคดีนี้เพิ่มอีก 4 นายแล้ว ทางทีมสอบสวนยังคงมีการทำงานกันอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะรอรับมอบตัวผู้ต้องหาตามหมายจับทุกเวลา เมื่อมีผู้ถูกออกหมายจับเป็นทหาร ก็ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับกระทรวงกลาโหม ที่ว่าหากมีทหารถูกออกหมายจับ ทางพนักงานสอบสวนจะต้องทำหนังสือไปถึงต้นสังกัดและผู้บังคับบัญชาของทหารรายนั้นๆ เพื่อขอให้ส่งมอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งได้ดำเนินการในขั้นตอนนี้แล้ว แต่ล่าสุดยังไม่ได้รับการประสานในการเข้ามอบตัวแต่อย่างใด
153 หมายจับค้ามนุษย์-หลบหนี63
พลตำรวจตรีปวีณ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ไปแล้ว 153 หมายจับ จับกุมและมอบตัวแล้ว 90 คน อยู่ระหว่างหลบหนีอีก 63คน ในคดีฟอกเงิน ออกหมายจับ 77 หมายจับ จับกุมแล้ว 37 คน หลบหนี 40 คน
โดยทั้งสองคดีนี้ สำนักงานอัยการสูงสุดได้เข้ามาร่วมดำเนินการ เนื่องจากเป็นคดีที่มีการกระทำผิดทั้งในและนอกราชอาณาจักร ซึ่งคณะทำงานคดีอยู่ระหว่างการเร่งรัดการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อที่จะนำส่งสำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการต่อไป
จ่อโอนไปศาลแผนกคดีค้ามนุษย์
นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนาทวีได้นัดพร้อมพนักงานอัยการและจำเลย เพื่อเตรียมโอนคดีนี้ไปยังศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์ ซึ่งในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ ศาลจังหวัดนาทวีได้แจ้งให้ฟังคำสั่งศาลฎีกาว่าจะให้มีการโอนคดีนี้ไปยังศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์หรือไม่
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พันเอกณัฏฐ์สิทธิ์ มากสุวรรณ