ติดใช้‘วิธีพิเศษ’จนเป็นจารีต! หนังสือ 3 ฉบับแฉยิบปมจัดซื้ออาหารดิบเรือนจำ 5 พันล.
เปิดหนังสือ 2 ฉบับร้องนายกฯ-รมว.ยุติธรรม จาระไนเงื่อนงำใบสั่งปมจัดซื้ออาหารดิบเรือนจำ ปี 59 ลอตแรก 2 เดือน ซัดแรง!กรมราชทัณฑ์อ้างเหตุกำลังเจรจาซื้อข้าวสาร ก.พาณิชย์ฟังไม่ขึ้น จงใจประวิงเวลาใช้‘วิธีพิเศษ’จนเป็นจารีต เอื้อพ่อค้ากลุ่มเดิม - ฉ.3 ห้างฯส.อ่างทองคำถึงอธิบดี ให้ปรับราคากลาง 3%
21 ก.ย. 2558 นายรุจน์ ทรงแสงธรรม ผู้ประกอบการค้ารายย่อยกับพวกได้ยื่นหนังสือ 2 ฉบับ
ฉบับแรก ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฉบับที่สองถึงพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ ฉบับที่สาม หจก.ส.อ่างทองคำ (22 ก.ย.58) ถึง นายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ คัดค้านดำเนินการจัดซื้อโดยวิธีตกลงราคา หรือ วิธีพิเศษ จำนวน 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559
หนังสือที่ผู้ร้องยื่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ไพบูลย์ มีใจความคล้ายกัน สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเนื้อหามาเสนอดังนี้
1. อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ทราบข้อเท็จจริงเป็นอย่างดีมาโดยตลอดแล้วว่า ผู้ต้องขังจะต้องมีอาหารกินทุกมื้อตลอดทั้ง 365 วัน แต่กรมราชทัณฑ์ ไม่ยอมสั่งการให้เรือนจำและทัณฑสถาน ทำการจัดหาอาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ไว้เป็นการล่วงหน้า ให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2558 แต่เมื่อระยะเวลาใกล้สิ้นสุดปีงบประมาณ กรมราชทัณฑ์ก็ถือโอกาสออกคำสั่งให้เรือนจำและทัณฑสถาน ทำการจัดซื้ออาหารดิบฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เดือนตุลาคม และเดือนพฤศจิกายน 2558 โดยวิธีตกลงราคาหรือวิธีพิเศษ
2. กรมราชทัณฑ์ได้สั่งการให้เรือนจำและทัณฑสถาน นำวิธีการจัดซื้อวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (E-Bidding) มาใช้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว แต่ได้หลีกเลี่ยงไม่สั่งการให้นำมาใช้ในการจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559
3. กรมราชทัณฑ์อ้างเหตุผลว่า “เนื่องจากขณะนี้กรมราชทัณฑ์อยู่ระหว่างขอรับการสนับสนุนในการจัดซื้อข้าวสารสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังกับกระทรวงพาณิชย์ ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดปัญหาในการจัดเลี้ยงอาหารให้กับผู้ต้องขังในช่วงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 และเริ่มปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ฯ จึงให้เรือนทำและทัณฑสถาน ดำเนินการจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ให้ดำเนินการจัดซื้อโดยวิธีตกลงราคาหรือวิธีพิเศษ อัตราถือจ่าย 44.27 บาทต่อคนต่อวัน”
3.1 กรมราชทัณฑ์ทราบข้อเท็จจริงดีอยู่แล้วว่า การจัดซื้อข้าวสารสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังนั้น กรมราชทัณฑ์จะต้องซื้อจากองค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์เท่านั้น
3.2 การจัดซื้อข้าวสารและการจัดซื้ออาหารดิบ เป็นการจัดซื้อที่แยกส่วนกันอย่างชัดเจน แต่กรมราชทัณฑ์ก็ได้นำมาเชื่อมโยงให้เป็นเรื่องเดียวกัน เพื่อนำมาใช้เป็นเหตุผลในการออกคำสั่งให้เรือนจำและทัณฑสถาน ทำการจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เดือนตุลาคม และพฤศจิกายน 2558 โดยวิธีตกลงราคาหรือวิธีพิเศษเท่านั้น
3.3 การจัดซื้อโดยวิธีตกลงราคา ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 39 การซื้อหรือจ้างโดยวิธีตกลงราคา ให้เจ้าหน้าที่พัสดุติดต่อตกลงราคากับผู้ขายหรือผู้รับจ้างโดยตรง แล้วให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุจัดซื้อหรือจ้างได้ ภายในวงเงินที่ได้รับความเห็นชอบจากหัวหน้าส่วนราชการตามข้อ 29 การซื้อหรือการจ้างโดยวิธีตกลงราคาในกรณีจำเป็นและเร่งด่วนที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดหมายไว้ก่อนและไม่อาจดำเนินการตามปกติได้ทัน ให้เจ้าหน้าที่พัสดุหรือเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการนั้นดำเนินการไปก่อน แล้วรีบรายงานขอความเห็นชอบต่อหัวหน้าส่วนราชการและเมื่อหัวหน้าส่วนราชการให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ถือว่ารายงานดังกล่าวเป็นหลักฐานการตรวจรับโดยอนุโลม
3.4 การจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 57 (4) ในกรณีที่เป็นพัสดุที่ได้ซื้อไว้แล้ว แต่มีความจำเป็นต้องใช้เพิ่มในสถานการณ์ที่จำเป็นหรือเร่งด่วน หรือเพื่อประโยชน์ของส่วนราชการให้เจรจากับผู้ขายรายเดิมตามสัญญา หรือข้อตกลงซึ่งยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาการส่งมอบ เพื่อขอให้มีการขายพัสดุตามรายละเอียดและราคาที่ต่ำกว่าหรือราคาเดิม ภายใต้เงื่อนไขที่ดีกว่าหรือเงื่อนไขเดิม โดยคำนึงถึงราคาต่อหน่วยตามสัญญาเดิม (ถ้ามี) เพื่อให้บังเกิดผลประโยชน์สูงสุดที่ส่วนราชการจะได้รับ
4. การที่กรมราชทัณฑ์ ได้ออกคำสั่งให้เรือนจำและทัณฑสถาน ทำการจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 โดยวิธีตกลงราคาหรือวิธีพิเศษ ในระยะเวลากระชั้นชิด จนใกล้สิ้นสุดปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 นั้น น่าจะเป็นการจงใจที่จะประวิงเวลา เพื่อเอื้อประโยชน?ให้กับผู้ขายรายเดิมที่ผูกขาดการจำหน่ายอาหารดิบให้กับเรือนจำและทัณฑสถานต่างๆ ตามรายละเอียดที่ข้าพเจ้าและพวกได้เคยร้องเรียนต่อ ฯพณฯนายกรัฐมนตรีไว้แล้วเท่านั้น
5. ข้าพเจ้าและพวก ได้เคยร้องเรียนกรณีการทุจริตในการจัดซื้ออาหารดิบ สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ มาโดยตลอดตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วจนถึงรัฐบาลในปัจจุบัน แต่การร้องเรียนของข้าพเจ้าและพวกยังไม่สามารถทำให้กรมราชทัณฑ์ เกิดความสำนึกที่จะทำการปรับปรุงและแก้ไข เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการทุจริตดังกล่าวได้ ซึ่งทั้งหลักการและเหตุผลในการออกคำสั่งของกรมราชทัณฑ์ เป็นข้อเท็จจริงที่แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์โดยชัดเจนแล้วว่า กรมราชทัณฑ์ได้ยึดถือวิธีการจัดซื้ออาหารดิบ โดยวิธีพิเศษและวิธีกรณีพิเศษ จนเป็นจารีตและธรรมเนียมการปฏิบัติ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ฉะนั้น ด้วยเหตุผลและข้อเท็จจริง ตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ข้าพเจ้าจึงขอให้ฯพณฯนายกรัฐมนตรี ได้โปรดมีบัญชาสั่งการให้กระทรวงยุติธรรม เร่งรัดให้กรมราชทัณฑ์ ทำการจัดซื้ออาหารดิบ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 โดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (E-Bidding) ให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 พร้อมทั้งให้พิจารณาทำการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ต่อไปด้วย
จึงกราบเรียนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
ขณะที่หนังสือฉบับที่ 3 ห้างฯส.อ่างทองคำ ส่งถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ขอให้ปรับลดวงเงินงบประมาณในส่วนที่ตัวแทนฯ ต้องจ่ายให้หน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษ ในอัตราร้อยละ 3 ของวงเงินงบประมาณในการจัดซื้อ และให้ทำการจัดซื้อตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 57 (2) โดยให้เรือนจำและทัณฑสถานแจ้งให้ตัวแทนของหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษ ที่เป็นผู้จัดส่งอาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังให้กับเรือนจำและทัณฑสถานอยู่ในปัจจุบันและผู้มีอาชีพขายเครื่องบริโภคโดยตรงมาเสนอราคา
มีใจความดังนี้
ตามหนังสือที่อ้างถึง กรมราชทัณฑ์ได้มีหนังสือสั่งการให้เรือนจำและทัณฑสถาน ทำการจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 โดยวิธีตกลงราคาหรือวิธีพิเศษ ในอัตรา 44.27 บาทต่อคนต่อวัน
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.อ่างทองคำ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณของทางราชการ และเพื่อเป็นการตัดวงจรการทุจริตในการจัดซื้ออาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ ตลอดทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกให้เรือนจำและทัณฑสถาน สามารถดำเนินการจัดซื้อให้แล้วเสร็จได้ทันตามระยะเวลาที่กำหนด เห็นควรให้กรมราชทัณฑ์ได้พิจารณาปรับลดวงเงินงบประมาณในส่วนที่ตัวแทนฯ ต้องจ่ายให้หน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษ ในอัตราร้อยละ 3 ของวงเงินงบประมาณในการจัดซื้อ และให้ทำการจัดซื้อตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 57 (2) โดยให้เรือนจำและทัณฑสถานแจ้งให้ตัวแทนของหน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษ ที่เป็นผู้จัดส่งอาหารดิบ (อาหารดิบเป็นรายสิ่งพร้อมเครื่องปรุง) สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังให้กับเรือนจำและทัณฑสถานอยู่ในปัจจุบันและผู้มีอาชีพขายเครื่องบริโภคโดยตรงมาเสนอราคา
อนึ่ง ถ้ากรมราชทัณฑ์ได้มีการปรับลดงบประมาณในการจัดซื้อลงในอัตราร้อยละ 3 หรือ 1.32 บาท ต่อคนต่อวัน ตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น จะทำให้กรมราชทัณฑ์สามารถประหยัดงบประมาณได้ไม่น้อยกว่า 24,156,000 บาท (จำนวนผู้ต้องขังประมาณ 300,000 คน x 1.32 บาท x 61 วัน) และสามารถนำงบประมาณในส่วนที่เหลือดังกล่าว ไปทำการจัดซื้อเครื่องเอกซเรย์ (X-RAY) หรือเครื่องมืออื่นๆสำหรับนำไปใช้ตรวจค้นยาเสพติด แจกจ่ายให้กับเรือนจำและทัณฑสถานต่างๆ นำไว้ใช้ในราชการต่อไปได้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดกราบเรียนและพิจารณาดำเนินการต่อไป
ต้องรอดูกันต่อไปว่าผู้มีอำนาจในรัฐบาลจะบริหารงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างปีละเกือบ 5,000 ล้านให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรมอย่างไร ต่อไป
อ่านประกอบ:
ส่งหนังสือ‘บิ๊กตู่’ฉ.7 ค้านใช้‘วิธีพิเศษ’จัดซื้ออาหารดิบเรือนจำ-ตั้ง กก.สอบ‘อธิบดี’