คสช.รับสอบคดีบึ้มต้องใช้เวลา ออกหมายแล้ว 13 ราย
โฆษกคสช. แจง ต้องใช้เวลาดำเนินการสอบสวนคดีบึ้มให้รอบคอบ ขอปชช.แจ้งข้อมูลสายด่วน โฆษกตร. เผย ออกหมายจับแล้ว 13 ราย "จักรทิพย์" ประสานจับกุมที่เหลือ
วันนี้ (18ก.ย.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการดำเนินงานของศูนย์ติดตามสถานการณ์คสช. ถึงความคืบหน้ากรณีเหตุลอบวางระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยโดยพ.อ.วินธัย กล่าวว่า ความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนทางเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยกำลังเร่งดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อนำไปสู่การหาตัวผู้ที่กระทำความผิด ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการเพื่อให้เกิดความรอบคอบทุกด้าน อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือประชาชนที่มีข้อมูลโปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจในพื้นที่ หรือโทรแจ้งสายด่วน 1515 ได้ตลอดเวลา
ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการติดตามสืบสวนสอบสวนคนร้ายตั้งแต่วันเกิดเหตุที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา และบริเวณท่าน้ำสาทรวันที่ 18 ส.ค. ทางเจ้าหน้าที่สามารถสืบสวนขยายผล จนทราบกลุ่มคนร้ายและจับกุมคนร้ายได้ในที่เกิดเหตุขณะตรวจค้นห้องพักที่พูลอนันต์อพาร์ทเม้นท์ ย่านหนองจอกคือนายอาเดม คาราดัก และสามารถออกหมายจับได้วันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา รวมถึงนายไมไลรี ยูซุฟู ทั้งนี้จนถึงปัจจุบันสามารถออกหมายจับไปแล้ว 13 ราย โดยหมายจับล่าสุดคือนายอับดุล ตาวาบ สำหรับผู้ต้องหาตามหมายจับที่เหลือนั้น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มอบหมายให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. เป็นผู้ประสานงานในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนในการติดตามจับกุม ซึ่งใช้ช่องทางกระทรวงการต่างประเทศในการประสานงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับทางตำรวจสากล สำหรับความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ขอบคุณข่าวจาก