“มาร์ค” แกะของขวัญปีใหม่ “4 เท่าเทียม 5 เข้มแข็ง
“อภิสิทธิ์” แถลง 9 มาตรการประชาวิวัฒน์ แรงงานนอกระบบ 9 ล้านคนอยู่ได้ทั้งประกันสังคม-กองทุนเงินออมแห่งชาติ ปรับโครงสร้างค่าไฟจ่ายมากเสียมากมาช่วยคนจนเมือง-ชนบทใช้ฟรี 9.1 ล้านครัว คุมต้นทุนอาหารสัตว์ช่วยเกษตรกร เร่ง กม.คุ้มครองวิชาชีพสื่อ-กองทุนสื่อสร้างสรรค์
วันที่ 9 ม.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงมาตรการร่วมเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยในกระบวนการประชาวิวัฒน์ ในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ว่าวาระเร่งด่วน 3 เรื่องคือช่วยเหลือแรงงานนอกระบบ ค่าครองครองชีพ ความปลอดภัยประชาชน ไม่ใช่การทุ่มงบลดแลกแจกแถม แต่เป็นการแก้ปัญหาโครงสร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยงบกว่า 2,000 ล้านบาทจะเกิดประโยชน์กับประชาชนกว่า 20,000 ล้านคน มาตรการทั้งหมดจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันที่ 11 ม.ค.นี้
ทั้งนี้ของขวัญ 9 ชิ้นที่จะมอบแก่ประชาชน ชิ้นแรก-ขยายระบบประกันสังคมครอบคลุมแรงงานนอกระบบ 9 ล้านคน ด้วยวิธีสร้างแรงจูงใจให้จ่ายสมทบเพียงคนละ 100-150 บาทต่อเดือน เริ่มภายใน ก.ค.นี้
“ถ้าจ่าย 70 รัฐบาลสมทบ 30 จะได้สิทธิประโยชน์ชดเชยรายได้เมื่อเจ็บป่วย พิการ เสียชีวิต กรณีจ่าย 100 รัฐบาลสมทบ 50 ได้สิทธิบำเหน็จชราภาพด้วย ขณะเดียวกันก็ไม่ตัดสิทธิคนที่สนใจเข้าอยู่ในกองทุนเงินออมแห่งชาติ คือเปิดโอกาสให้มีระบบการออมและสวัสดิการทางเลือกสำหรับแรงงานนอกระบบทั้งหมด”
สอง-ทำให้คนจนนอกระบบเข้าถึงแหล่งทุนสถาบันการเงินของรัฐ ได้แก่ ปล่อยสินเชื่อ 1,600 ล้านบาทให้ผู้ขับรถแท็กซี่ผ่อนและดาวน์รถราคาถูก สาม-ขึ้นทะเบียนและทำบัตรประชาชนมอเตอร์ไซด์รับจ้างเริ่ม มี.ค.ใน กทม.ซึ่งจะพัฒนาสู่การจัดสวัสดิการในกลุ่มนี้ รวมทั้งให้เป็นอาสาสมัครพิทักษ์ดูแลชุมชน สี่-เปิดจุดผ่อนผันหาบเร่แผงลอย 20,000 ราย โดยเฉพาะใน กทม.จะพัฒนาจุดท่องเที่ยว ซึ่งจะเริ่มเดือน เม.ย.
“ที่หวั่นเกรงว่าจะเป็นภาระรัฐกรณีหนี้เสีย เราคัดกลุ่มเป้าหมาย มั่นใจครับว่าบุคคลเหล่านี้มีรายได้ที่ชัดเจนอยู่แล้ว แทนที่เขาจะกลายเป็นหนี้เสีย ตรงข้ามสถาบันการเงินของรัฐที่เข้าร่วมโครงการจะมีลูกค้าดีเพิ่มขึ้น เรามีประสบการณ์แล้วกับการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ สามารถโอนหนี้เข้ามาในระบบ ทำให้คนที่เคยเป็นหนี้นอกระบบลดภาระต่างๆ แล้วกลายมาเป็นลูกค้าที่ดีของสถาบันการเงิน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ห้า-เรื่องกาซหุงต้ม( LPG) ตั้งแต่ ก.ค.จะเลิกอุดหนุน LPG ในภาคอุตสาหกรรม ปล่อยให้เป็นไปตามราคาตลาด แต่จะตรึงราคาในกลุ่มครัวเรือนและภาคขนส่ง วิธีนี้ประหยัดเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน 7,300 ล้านเก็บไว้ช่วยประชาชนในช่วงน้ำมันราคาแพง หก-มาตรการใช้ไฟฟ้าฟรีถาวร(กรณีต่ำกว่า 90 หน่วย) 9.1 ล้านครัวเรือน คือ 6 แสนครัวเรือนใน กทม. 8.5 ล้านครัวเรือนชนบท โดยไม่เป็นภาระภาษีหรืองบประมาณ แต่ปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมให้เก็บจากคนใช้ไฟฟ้าในอัตราสูงเพิ่มขึ้นเพื่อเอาเงาเงินมาช่วยคนที่ใช้น้อย
เจ็ด- ตั้งแต่ ก.ค.จะดูแลต้นทุนอาหารสัตว์ พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และแก้ปัญหาไก่ หมู ไข่ ราคาแพง แปด-การเปิดเผยข้อมูลต้นทุนสินค้าให้ผู้บริโภคไม่ถูกเอาเปรียบและมีทางเลือกมากขึ้น และเก้า-ประกาศเป้าหมายภายใน 6 เดือนใน กทม. คดีอาชญากรรมต่างๆต้องลดลง 20% โดยการกำหนด 200 จุดเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ รวมไปถึงการปฏิรูปตำรวจ กระบวนการยุติธรรม การใช้อาสาสมัครเข้ามาช่วยทำงาน ซึ่งทั้งหมดใช้งบประมาณ 200-300 ล้านบาทในการปรับปรุงอุปกรณ์
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ครม.ได้พิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสื่อ 4 เรื่อง หนึ่ง-เห็นชอบหลักการให้มีกฎหมายคุ้มครองวิชาชีพสื่อ โดยตั้งองค์กรอิสระคุ้มครองสื่อมวลชนและผู้ถูกละเมิดสิทธิจากสื่อ และกำลังดูช่องทางอุดหนุนงบให้องค์กรวิชาชีพ สอง-เร่งรัดการจัดตั้งกองทุนสื่อสร้างสรรค์และสื่อปลอดภัย ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกากำลังพิจารณาเสร็จก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎร สาม-ทบทวนกฎหมายข้อมูลข่าวสารราชการ ให้สื่อเข้าถึงได้มากขึ้นเพื่อตรวจสอบการทำงานรัฐบาล สี่-กสทช.ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ต้องพิจารณาให้การจัดสรรคลื่นความถี่เป็นไปเพื่อประโยชน์สังคมแท้จริง .