หัวหน้า คสช.ใช้มาตรา 44 ตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน
ราชกิจจาฯ เผยแพร่คำสั่ง คสช.ใช้มาตรา 44 ตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน ขึ้นตรง ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ มี ผบ.ทอ. คุมศูนย์บัญชาการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2558 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 27/2558 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการกำกับดูแลและพัฒนาการบินพลเรือนของประเทศไทย มีรายละเอียด ดังนี้
ตามที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) ได้เข้ามาทําการตรวจสอบการกํากับดูแลความปลอดภัยด้านการบินพลเรือนตามโครงการ Universal Safety Oversight Audit Program (USOAP) โดยกรมการบินพลเรือน ซึ่งเป็นหน่วยงานกํากับดูแลด้านการบินพลเรือน ของประเทศไทยเป็นหน่วยรับการตรวจนั้น
ผลการตรวจสอบพบว่า การกํากับดูแลความปลอดภัย ด้านการบินพลเรือนของประเทศไทยมีข้อบกพร่องจํานวนมาก ซึ่งรวมถึงข้อบกพร่องที่มีนัยสําคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concern : SSC) ด้วย และหากมิได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วนแล้ว จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศโดยรวมได้ ดังนั้น เพื่อให้สามารถเร่งดําเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว และพัฒนาการบินพลเรือนเพื่อยกระดับมาตรฐานการบินพลเรือนของประเทศไทยให้สอดคล้องมาตรฐานสากล และเพื่อปฏิรูปราชการแผ่นดิน
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง โดยสรุปมีดังนี้
ให้จัดตั้ง “ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน” (Command Center for Resolving Civil Aviation Issues:CRCA) หรือ ศบปพ.เป็นศูนย์เฉพาะกิจขึ้นตรงกับ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยมีผู้บัญชาการทหารอากาศเป็นผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการ แก้ไขปัญหาการบินพลเรือน
พร้อมให้มีโครงสร้างการปฏิบัติงาน โดยมีคณะกรรมการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน ประกอบด้วยบุคคลที่ ผบ.ศบปพ. แต่งตั้ง ทําหน้าที่กําหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติในระดับรัฐบาล และให้กองทัพอากาศและกรมการบินพลเรือนเป็นหน่วยงานหลักของ ศบปพ. ในการดําเนินการ แก้ไขปัญหาการบินพลเรือน เป็นต้น
ส่วนอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ศบปพ.นั้น อาทิ กําหนดนโยบาย แนวทางในการจัดทําแผนปฏิบัติการและให้ความเห็นชอบกับ แผนปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหา ปรับปรุงและพัฒนาการบินพลเรือนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล สั่งการ กํากับดูแล ติดตาม และตรวจสอบการปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไข ปัญหาการบินพลเรือน
ตลอดจนพิจารณาเสนอแนะ ปรับปรุง แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งพัฒนากฎหมาย กฎและระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และรายงานผลการปฏิบัติให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบอย่างต่อเนื่องจนกว่า มาตรฐานการบินพลเรือนของประเทศไทยจะได้รับการยอมรับตามมาตรฐานสากล เป็นต้น
ทั้งนี้ การปฏิบัติตามอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ศบปพ. ให้ ผบ.ศบปพ. ประสานการปฏิบัติกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอย่างใกล้ชิด หากเห็นว่าเรื่องใดเห็นชอบร่วมกัน ว่าเป็นเรื่องสําคัญ และมีผลกระทบอย่างกว้างขวาง ให้นําเรื่องดังกล่าว นําเรียนนายกรัฐมนตรี ผ่านรองนายกรัฐมนตรีที่กํากับดูแล พิจารณาสั่งการก่อน
ที่สำคัญ คณะกรรมการ ศบปพ. และเจ้าหน้าที่ ศบปพ. ที่กระทําการไปตามอํานาจหน้าที่ โดยสุจริตไม่เลือกปฏิบัติ และไม่เกินสมควรแก่เหตุหรือไม่เกินกว่ากรณีจําเป็น ไม่ต้องรับผิดชอบทางแพ่ง ทางอาญา ทางวินัย หรือทางปกครองเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน ตามคําสั่งนี้ แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ได้รับความเสียหายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายจากทางราชการตามกฎหมาย ว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/E/215/4.PDF