แกะรอย"สาวพิษณุโลก" ชวนอดีตพระธรรมกาย ลงทุนที่ลาว100 ล. รู้จัก"บิ๊กจิ๋ว" ไหม?
แกะรอยข้อมูลลับ ปปง. "สาวพิษณุโลก" ชักชวนอดีตพระธรรมกาย ลงทุนธุรกิจไม้ที่ลาว ก่อนสูญเงิน 100 ล้าน ใช่คนเดียวกับ เลขาฯ พรรคไทยเป็นสุข จริงไหม? และ รู้จัก "บิ๊กจิ๋ว" ไหม?
คุณ"เบ" หรือ "นางโบนาลอน ตระกูลทอง" นักธุรกิจสาวชาวลาว ถูกระบุชื่อชัดเจนในข้อมูลลับของ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ว่า เป็นหนึ่งในสองนักธุรกิจสาว ที่ชักชวนให้ นายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล อดีตพระวัดธรรมกาย ซึ่งได้รับเงินจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เป็นจำนวนเงินกว่า 244 ล้านบาท (ในขั้นตอนการสอบปากคำอ้างว่าเป็นการทำธุรกิจค้าขายอัญมณี) เข้าไปลงทุนทำธุรกิจในประเทศลาว ส่วนวงเงินที่ขนเข้าไปลงทุนมีจำนวนกว่า 100 ล้าน
ก่อนที่เงินจำนวน 100 ล้านบาท ที่นายสถาพร ขนไปลงทุน หมดไปอย่างรวดเร็ว ประหนึ่งเหมือนกับว่านายสถาพร จะถูกหลอก
โดยข้อมูลทางลับของ ปปง.ระบุว่า ภายหลังจากที่นายสถาพร ได้รับเงินจากนายศุภชัย มาประมาณ 244 ล้าน มีเงินจำนวน 100 ล้านบาท ถูกนำไปลงทุนธุรกิจที่ลาว โดยมีนักธุรกิจหญิงสองรายปรากฎชื่อเข้ามาเกี่ยวข้อง รายแรกเป็นคนลาว คือ นางโบนาลอน ตระกูลทอง ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นคนไทย อยู่แถวพิษณุโลก ธุรกิจที่เข้าไปลงทุนมีหลายอย่างทั้งการค้าไม้ เหมืองแร่
(อ่านประกอบ : ข้อมูลลับปปง.! เส้นทางเงิน 100ล. อดีตพระธรรมกาย โผล่ลาว ตามคืนไม่ได้แล้ว?)
ดูเหมือนข้อมูลที่ยังไม่ปรากฎชัดเจนในขณะนี้ คือ นักธุรกิจสาวชาวไทย คนจังหวัดพิษณุโลก ที่ชักชวนให้นายสถาพร ขนเงินไปลงทุนที่ลาว คือ ใคร?
ก่อนจะตอบคำถามนี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ขอนำข้อมูลเชิงประจักษ์ที่เคยตรวจสอบพบมาไล่เลียงให้สาธารณชนได้เห็นภาพแบบชัดๆ ดังนี้
หนึ่ง สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ในประเทศลาวว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา นายสถาพร ได้เข้าไปลงทุนเปิดบริษัท เพื่อทำธุรกิจในลาวอีกแห่งหนึ่ง โดยใช้ชื่อว่า บริษัท เอส.ดับบลิว. ลาว โฮลดิ้ง กรุ๊ป จำกัด (บริษัทหลายแห่งในประเทศไทยของนายสถาพร ขึ้นต้นด้วย เอส.ดับบลิว. เช่นกัน ได้แก่ บริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้งกรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท เอส.ดับบลิว.ภูเก็ต กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอส.ดับบลิว. ลันตา กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท เอส.ดับบลิว.กมลา บีช กรุ๊ป (ประเทศไทย))
นางโบนาลอน ตระกูลทอง นักธุรกิจชาวลาว ถูกระบุชื่อว่าเป็นเจ้าของบริษัทแห่งนี้
บริษัทแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่บ้านโพนทัน เวียงจันทน์ สภาพเป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น และมีกรรมการผู้จัดการเป็นคนไทย ชื่อว่า "ทอม มีสิริ"
(อ่านประกอบ : ข้อมูลใหม่ อดีตพระธรรมกาย ซุกตัวแฟลตทหาร โผล่ตั้งบ.ในลาว คนแห่เรียก"บอส" , หลักฐานชัด "นักธุรกิจสาวลาว" โผล่ร่วมหุ้นอดีตพระธรรมกาย 500 ล้าน)
สอง จากการตรวจสอบข้อมูลสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัท เอ.ดับ บลิว.โฮลดิ้งกรุ๊ป (ประเทศไทย) ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน จำนวน 5,550 ล้านบาท ซึ่งปรากฎชื่อนายสถาพร เป็นผู้ก่อตั้ง และมีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้นใหญ่
พบว่า เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2557 นางโบนาลอน ตระกูลทอง เคยปรากฎชื่อเข้ามาถือหุ้นบริษัทฯ อยู่จำนวน 5 ล้านหุ้น มูลค่า 500 ล้านบาท
นางโบนาลอน ระบุข้อมูลส่วนตัว ว่าเป็นนักธุรกิจจากลาว แจ้งที่อยู่ บ้านหาดทรายแก้ว หาดทรายฟอง เวียงจันทร์ สปป.ลาว
ขณะที่ในสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ดังกล่าว นอกจากชื่อของ นายสถาพร และ นางโบนาลอน ที่ถือหุ้นอยู่ ยังมีผู้หญิงอีกสองคนเข้ามาถือหุ้นด้วย คือ นางรินนา วัฒนาศิรินุกุล (แม่นายสถาพร) และ นางนภารัศม์ นพคุณ (ดูเอกสารประกอบ)
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 บริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างรายชือผู้ถือหุ้นใหม่ เหลือเพียงแค่ 3 ราย คือ นายสถาพร นางรินนา วัฒนาศิรินุกุล (แม่นายสถาพร) และ น.ส.พรพิมล คัทธมารถ (นักธุรกิจสาวที่แจ้งที่อยู่คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นที่อยู่ของตนเอง)
โดยหุ้นในส่วนของนายสถาพร ปรับเพิ่มขึ้น เป็น 49,850,000 บาท มูลค่า 4,985,000,000 บาท จากเดิมที่ถือไว้แค่ 39,950,000 หุ้น มูลค่า 3,995,000,000 บาท
ขณะที่หุ้นในส่วนของนางรินนา ถืออยู่เท่าเดิมจำนวน 5,550,000 บาท มูลค่า 555,000,000 บาท
แต่ชื่อน.ส.พรพิมล เข้ามาร่วมถือหุ้นใหม่ด้วย จำนวน 100,000 หุ้น มูลค่า 10,000,000 บาท
ส่วนหุ้นที่ นางโบนาลอน ตระกูลทอง และนางนภารัศม์ นพคุณ ถือไว้คนละ 5,000,000 บาท มูลค่า 500 ล้านบาท หายไป
จากข้อมูลดังกล่าว จะเห็นว่า นางนภารัศม์ นพคุณ แจ้งที่อยู่ เลขที่ 357/8 ถนนราษฎร์อุทิศ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นจังหวัดเดียว กับ นักธุรกิจสาว หนึ่งในสองคน ที่ ปปง.ระบุว่า เป็นผู้ชักชวน นายสถาพร เข้าไปลงทุนทำธุรกิจที่ลาว
จึงมีความเป็นไปได้สูง ที่ นางนภารัศม์ นพคุณ จะเป็นนักธุรกิจสาวอีกคนหนึ่ง ที่ ปปง. ระบุถึง
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลในวารสารพรรคการเมืองสัมพันธ์ ฉบับที่ 1 ประจำเดือนม.ค.-มี.ค.54 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พบว่า นางนภรัศม์ นพคุณ มีชื่อเหมือนกับ นางนภรัศม์ นพคุณ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น เลขาธิการพรรค ไทยเป็นสุข (ทปส.) ที่มีนายประดิษฐ์ ศรีประชา เป็นหัวหน้าพรรค (http://www.ect.go.th/PP16_1.pdf)
(อ่านประกอบ : พบ"เลขาฯพรรคไทยเป็นสุข"โผล่ถือหุ้น บ.อดีตพระธรรมกาย 500 ล้าน)
ขณะที่ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เคยนำเสนอข่าวเกี่ยวกับ พรรค ไทยเป็นสุข (ทปส.) เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2553 ที่ผ่านมาว่า เมื่อวันศุกร์มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่น่าสงสัย เมื่อมีการแฟกซ์เอกสารมายังสื่อมวลชน โดยหัวเอกสารดังกล่าวระบุว่าพรรคไทยเป็นสุข ตั้งอยู่ที่ 68 หมู่ 4 ถนนสายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหาคร 10220 โทร 0-2998-3709-10 แฟกซ์ 0-2998-3935 ซึ่งเนื้อหาได้ระบุเรียนเชิญสื่อมวลชนฝ่ายการเมืองร่วมทำข่าวพิธีเปิดที่ทำการพรรคไทยเป็นสุข ใน วันเสารที่ 23 ตุลาคม เวลา 15.49 น. ณ ที่ทำการพรรค ลงชื่อโดยนายเศรษฐกิจชัย อุดม ผู้อำนวยการพรรค
ในแฟกซ์ดังกล่าวยังระบุว่า เวลา 15.49 น. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย อดีตนายกรัฐมนตรีจะมาเป็นประธานพิธีเปิดพรรค โดยมี ส.ส.มาร่วมงานมากมาย อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายการุณ โหสกุล น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม พรรคเพื่อไทย พร้อม ส.ส.อีกหลายคน
พล.ท.เชวงศักดิ์ ทองสลวย นายทหารคนสนิท พล.อ.ชวลิตได้ปฏิเสธกำหนดการว่า ไม่มี ขณะนี้ พล.อ.ชวลิตเดินทางไปจังหวัดนครพนม และตลอดทั้งวันที่ 23 ต.ค. พล.อ.ชวลิตจะปฏิบัติภารกิจอยู่ใน จ.นครพนม โดยเวลา 7.00 น. จะไปร่วมงานพระธาตุพนม เวลา 21.00 น. จะไปร่วมงานไหลเรือไฟ และเดินทางกลับ กทม. วันที่ 24 ต.ค. จึงไม่ทราบถึงกำหนดการดังกล่าวว่าออกมาได้อย่างไร
ขณะที่ น.อ.อนุดิษฐ์ ที่มีรายชื่อจะไปร่วมงานด้วยนั้น ก็ได้ปฏิเสธเช่นเดียวกันว่า น่าจะเป็นการปล่อยข่าวมากกว่า เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ตนเอง แต่ไม่เคยได้ยินหรือรู้จักพรรคนี้มาก่อน ในรายละเอียดกำหนดการที่มีการระบุว่าจะไปร่วมงานด้วยนั้น ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องเลย เพราะในวันที่ 22 ต.ค. ตนเองและนายการุณยังอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ปฏิบัติภารกิจร่วมกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในฐานะประธานมูลนิธิไทยพึ่งไทย ช่วยชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม และกำหนดการวันที่ 23 ต.ค. มีเพียงการแถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทย เวลา 10.00 น.เท่านั้น
ส่วนนายจาตุรนต์ได้ย้อนถามว่า พรรคนี้เป็นพรรคใหม่เหรอ เพราะไม่เคยทราบมาก่อน อาจเป็นเพราะไปต่างประเทศ แต่ช่วงนี้กลับมาเมืองไทยก็ไม่ทราบว่าพรรคนี้จะเปิดตัวอะไร และคาดว่าคงไม่ไปร่วมงาน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการติดต่อประสานงานอะไรมา
ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยังที่ทำการพรรคไทยเป็นสุขตามเบอร์โทรศัพท์ แต่เมื่อติดต่อเข้าไประบบโทรศัพท์ระบุว่าเป็นเบอร์ไม่รู้จัก คล้ายกับไม่มีเบอร์ในระบบ และเมื่อลองสอบถามยังเบอร์ 1133 ก็ยืนยันว่าไม่มีการจดทะเบียนเบอร์ของพรรคดังกล่าว ต่อมาได้ติดต่อไปยังเบอร์มือถือของนายสุธิศ ซึ่งก็เป็นผู้หญิงชื่อเยาวลักษณ์ ไม่ทราบนามสกุล โดยพูดเป็นสำเนียงคนภาคเหนือว่า นายสุธิศไม่อยู่ และไม่รู้ว่าพรรคได้เชิญผู้ใหญ่พรรคอื่นมาร่วมงานหรือยัง แต่หากอยากรู้ก็ให้สื่อไปรอตั้งแต่เช้าจะได้เห็นเอง โดยงานจะจัดทั้งวัน ณ ที่ทำการพรรค
ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามเบอร์นาย สุธิศอีกหลายครั้ง ก็ไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด แต่ในช่วงค่ำ นายสุธิศได้กล่าวถึงงานว่า ช่วงเช้าจะทำพิธีทางศาสนา เลี้ยงพระ และช่วงบ่ายจะมีการเปิดศาลพระภูมิ เปิดป้ายพรรค โดยยืนยันว่า พล.อ.ชวลิตและนายจาตุรนต์ได้ตอบรับมาแล้ว ส่วนนักการเมืองผู้ใหญ่อื่นๆ ยังไม่ยืนยัน
"งานครั้งนี้ไม่ผิด พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินแน่ เพราะไม่มีการเสวนาทางการเมือง เป็นเพียงการเปิดที่ทำการพรรค แต่อาจให้ พล.อ.ชวลิตพูดเล็กน้อย ซึ่งช่วงเย็นมีงานเลี้ยงส่วนตัวกรรมการบริหารและนักการเมือง" นายสุธิศกล่าว
ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวอย่างมากที่ พล.อ.ชวลิตจะออกจากพรรคเพื่อไทย เนื่องจากน้อยใจที่พรรคยังอยู่ภายใต้การชี้นำของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่บรรดาคนใกล้ชิด และเจ้าตัวเองก็ได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้อย่างทันท่วงที (อ้างอิงข้อมูลข่าวไทยโพสต์จาก http://www.ryt9.com/s/tpd/1011653)
คำถามที่น่าสนใจต่อมา คือ ปปง.รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างหรือไม่ และมีการเชิญตัว นางนภารัศม์ นพคุณ มาให้ข้อมูลบ้างแล้วหรือยัง?
เพราะ นางนภารัศม์ น่าจะเป็นกุญแจดอกสำคัญ ที่อาจจะช่วยให้ติดตามเส้นทางเงิน จำนวน 100 ล้านบาท ที่นายสถาพร ขนไปลงทุนทำธุรกิจที่ลาว คืนกลับมาก็ได้?
โปรดอย่าลืมว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น!