กรมชลประทานแจงใครใช้น้ำคลองชลประทานต่อไปต้องจ่ายคิวละ 50 สต.
อธิบดีกรมชลประทาน แจงเรียกเก็บค่าใช้น้ำคลองชลประทาน ตราด สระบุรี เผยมีการเก็บมาหลายจังหวัดแล้ว ระบุ เขตใดใช้น้ำมากกว่าการทำการเกษตร ทั้งอุปโภคบริโภค และอุตสาหกรรม ผู้ใช้น้ำต้องจ่ายคิวละ 50 สตางค์ ย้ำไม่ได้ห้ามชาวนาทำนาปรัง แค่กรมชลประทานไม่มีน้ำพอจะสนับสนุนภาคเกษตรที่ใช้น้ำมากเท่านั้น
จากกรณีราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2558 ได้เผยแพร่ กฎกระทรวง 4 ฉบับ โดยนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำหนดให้กรมชลประทานเรียกเก็บค่าใช้น้ำ 5 คลอง ในพื้นที่ภาคตะวันออก 2 จังหวัดคือ จังหวัดตราดและจังหวัดสระบุรี
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา ว่า การจัดเก็บค่าใช้น้ำจากคลองชลประทานนั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะโดยปกติคลองชลประทานไหนที่มีการใช้น้ำมากกว่าการทำการเกษตร คือมีการใช้ทำทั้งการเกษตร อุปโภคบริโภค และอุตสาหกรรม จะมีการเรียกเก็บค่าใช้น้ำจากผู้ใช้ ซึ่งได้มีการทยอยเก็บมาสักพักแล้ว
สำหรับการประกาศในราชกิจจานุเบกษาออกมาใน 2 จังหวัดนั้น อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะหากมีการใช้ภาคอุตสาหกรรมก็จำเป็นต้องเก็บ และจะมีการขยายเก็บในคลองชลประทานอื่นๆตามมา โดยราคาที่เรียกเก็บสำหรับผู้ใช้น้ำคลองชลประทานก็ไม่ได้แพงจ่ายเพียงคิวละ 50 สตางค์เท่านั้น
นายเลิศวิโรจน์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนขณะนี้มีอยู่ประมาณ 3.6 พันล้านลูกบาศก์เมตร และปริมาณของฝนที่ตกน้อยอาจจะส่งผลให้เกิดภัยแล้ง ทางกรมชลประทานจะพยายามบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ให้ดีที่สุด ส่วนมาตรการรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจำเป็นต้องประชุมกับอีกหลายฝ่ายเพื่อออกมาตรการที่ชัดเจนออกมาอีกครั้ง โดยในขณะนี้อยู่ในระหว่างการเตรียมงานและพูดคุย
เมื่อถามว่ามีการขอความร่วมมือจากชาวนาให้งดการทำนาปรังหรือไม่นั้น อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ไม่ได้สั่งให้ชาวนาหยุดหรือไม่ทำนาปรัง เพียงแต่ว่าเรามีน้ำไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนภาคเกษตรที่ต้องใช้น้ำเป็นจำนวนมาก เพราะน้ำไม่พอ
“เราไม่ได้ห้ามชาวนา แต่แค่อยากบอกว่าน้ำไม่พอเท่านั้นเอง”