คุมเข้มทีมสังหาร"สมยศ"ทำแผน 4 จุด

ตำรวจคุมตัว 2 สมาชิกทีมสังหาร "สมยศ สุธางค์กูร" ทำแผนฯ 4 จุดรวด ก่อนคุมตัวส่งศาล 1 กองปราบฯอีก 1 เผยคนรับงานยังเกี่ยวข้องกับคดีฆ่า 2 แม่ลูกศรีธนะขัณฑ์ด้วย

วันพฤหัสที่ 3 กันยายน 2558 เวลา 16:00 น. เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 ก.ย. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น.พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ชัยพล เอกกุล ผกก.สน.คลองตัน เจ้าหน้าที่คอมมานโดกองปราบฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน ควบคุมตัวนายภานุพงษ์ หรือ แจ้ รัสนา อายุ 32 ปี มือปืนที่ลั่นไกสังหารนายสมยศ สุทธางค์กูล เจ้าของคาเฟ่พระราม 9 เสียชีวิต บริเวณลานจอดรถร้านเฮงหูฉลามย่านพัฒนาการ จุดแรก บริเวณกลางสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาขี่รถจยย.นำอาวุธปืนขนาด.38 ที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา หลังก่อเหตุประมาน 2 วัน โดยเจ้าหน้าที่ได้นำก้อนหินทิ้งลงไปในน้ำเพื่อทดลององศาตกกระทบหาจุดที่อาวุธปืนตกลงไป และให้เจ้าหน้าที่ค้นหาอาวุธปืนที่นายแจ้นำมาทิ้งไว้ จากนั้นจึงไปที่บริเวณลานจอดรถ ร้านเฮงหูฉลาม แขวง-เขตสวนหลวง ซึ่งเป็นจุดที่ 2 ที่คนร้ายลงมือยิงนาสมยศ โดยผู้ต้องหารายนี้ซ้อนท้ายรถจยย.ที่มีนายหนูเป็นคนขับมาดักรอนายสมยศที่ประตูทางเข้าลานจอด ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งรอจังหวะก่อเหตุตรงข้ามรถของนายสมยศ จนสบโอกาสขณะที่นายสมยศ เดินมาที่รถของตนเพื่อขับกลับบ้าน ใช้อาวุธปืนขนาด.38 กระหน่ำยิงที่ด้านหลัง 2 นัด จนล้มลงได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะตามเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงซ้ำอีก 1 นัด แล้ววิ่งหนีไปขึ้นรถจยย.ที่จอดรออยู่บริเวณด้านหน้าลานจอด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายแจ้ไปที่บริเวณพรงหญ้าข้างถนน ภายในซอยรามคำแหง 24 แยก 2 ช่วงก่อนขึ้นอุโมงค์จากพัฒนาการฝั่งขาออก ซึ่งเป็นจุดที่ 3 ที่นายแจ้ และนายหนูนำรถจยย.มาทิ้งไว้ แล้วเรียกแท็กซี่หลบหนีมุ่งหน้าไปยังแยกลำสาลี แต่เนื่องจากรถติดมากคนร้ายจึงเปลี่ยนแผนลงจากรถแท็กซี่ บริเวณปากซอยรามคำแหง 24 แล้วเดินย้อนลงมาที่บริเวณซอยรามคำแหง 24 แยก 8 เพื่อเรียกรถ จยย.รับจ้าง โดยมีนายแจ้ และนายหนู ซ้อนมาด้วยกัน โดยรถจยย.ได้วิ่งวนเข้ามาที่ กกท.และวนออกประตู 3 ไปสุดบริเวณปากซอยเสรีไทย 11 จากนั้น นายแจ้จึงหลบหนีไปกบดานที่บ้านพักย่านหนองแขม ส่วนจุดสุดท้ายบริเวณห้องน้ำข้างสนามเทนนิส ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นจุดที่นายแจ้เดินทางมาพบนายชม ไชยณรงค์ เพื่อรับเงินค่าจ้างล่วงหน้า 30,000 บาท และอาวุธปืนก่อนลงมือก่อเหตุประมาณ 2 วัน จากนั้นนายแจ้ได้มาขึ้น จยย.รับจ้างบริเวณฝั่งตรงข้าม ประตู 4 ของการกีฬาแห่งประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายแจ้ทำแผนที่บริเวณจุดที่ 4 เสร็จได้ควบคุมตัวนายแจ้กลับ สน.คลองตันทันที โดยจะนำตัวนายแจ้ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพระโขนง ส่วนนายชมเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปที่กองปราบต่อไป ทั้งนี้จากแนวทางการสืบสวนยังพบว่านายชมยังเกี่ยวข้องกับคดีฆ่า 2 แม่ลูกตระกูลศรีธนะขันณฑ์ด้วย

ขอบคุณข่าวจาก