ผู้นำชาวบ้านสะท้อน “ขึ้นเงินเดือน อบต.” เพราะการเมือง “ไม่เหมาะ”
ชาวบ้านติงขึ้นเงินเดือน อบต. “หลักการดี” ให้กำลังใจคนทำงาน แต่ผลงานเพื่อท้องถิ่นยังไม่เข้าตา หนำซ้ำจังหวะไม่เหมาะ “หาเสียงการเมือง” โจ่งแจ้งเกินไป สะท้อน “ปัญหาคอรัปชั่นในท้องถิ่น” ยังแก้ไม่ตก ประชาธิปไตยรากหญ้ายังต้องพัฒนาอีกไกล
จากกรณีการขึ้นเงินเดือนสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ที่เป็นข่าวมาตลอดสัปดาห์ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ โต๊ะข่าวเพื่อชุมชนสัมภาษณ์ความคิดเห็นผู้นำชาวบ้านบางส่วน โดยนายศิริชัย พุทธสิริ เลขานุการสวัสดิการชุมชน ต.อ้อมน้อย จ.สระบุรี กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นเงินเดือน อบต.ในขณะนี้ เพราะที่ผ่านมาผลการทำงานเพื่อคนในท้องถิ่นของ อบต.ยังไม่ชัดเจนนัก หลายแห่งมีผลประโยชน์และการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะ ซึ่งการเพิ่มตัวเงินเข้ามาจะยิ่งเป็นตัวชี้นำให้เกิดการแข่งขันเพื่อหวังผลในเม็ดเงินให้คนเข้ามาทำงานตรงนี้มากขึ้น แต่ไม่ได้คำนึงถึงประสิทธิภาพงานมากขึ้นตามไปด้วย
“คนที่ทำงานในพื้นที่ไม่ได้มีเพียงนายกฯ อบต.หรือสมาชิก อบต. ชาวบ้านหรือผู้นำชุมชนมีส่วนในงานพัฒนาแทบทั้งสิ้น ลักษณะการทำงานเป็นแบบพึ่งพาช่วยเหลือกัน นายก อบต.คือผู้นำให้เกิดการการปฏิบัติที่ต้องอาศัยแรงจากชุมชนแทบทั้งสิ้น”
นายสิทธิชัย ยังกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการคอรัปชั่นระดับท้องถิ่นเป็นปัญหาลำดับต้นๆที่ยังแก้ไม่ได้ และส่วนตัวก็ยังไม่แน่ใจว่าการนำงบประมาณมาลงตรงนี้ รัฐสามารถบริหารจัดการได้ดีพอไม่ให้เกิดปัญหาหรือไม่ และหากเอางบประมาณมาใช้และต้องไปเป็นหนี้ต่างชาติอย่างที่เคยเกิดขึ้น ก็จะเป็นผลกระทบต่อเนื่องระยะยาว และผลสุดท้ายก็จะตกอยู่ที่ชาวบ้านและประชาชนที่เสียภาษี ดังนั้นการพัฒนาท้องถิ่นน่าจะนำเงินมาลงที่ชุมชนโดยตรง
ด้าน นายสุนทร กริชแก้วสิริ ประธานชุมชนจอมทอง กรุงเทพฯ มีความเห็นว่า โดยหลักการแล้วการขึ้นเงินเดือนให้ อบต.เป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้มีรายได้เพียงพอในสถานภาพการงาน เป็นการให้กำลังใจคนทำงาน ทำให้ไม่ต้องหันไปหารายได้ที่ไม่ถูกต้อง อาจจะช่วยให้การทุจริตน้อยลง แต่การเพิ่มเงินเดือนในครั้งนี้ชัดเจนเกินไปว่าเป็นการหาคะแนนเสียงทางการเมือง
“โดยหลักการคนที่เข้ามาทำงานการเมืองคือผู้เสียสละ และมีภาษีสังคมที่ต้องจ่ายเยอะ เช่น งานวัดงานบุญงานบวช ดังนั้นการเพิ่มรายได้ให้คนที่ตั้งใจทำงานเป็นสิ่งที่ดีครับ จะได้ไม่ตกเป็นทาสนักการเมือง กลุ่มการเมือง พรรคการเมือง หรือหาเศษหาเลยจากรายได้ที่ไม่ถูกต้อง แต่การขึ้นเงินเดือนครั้งนี้ไม่สง่างาม เหมือนนโยบายเพิ่งจะคิด ไม่มีการเตรียมการอย่างละเอียดล่วงหน้า”
นายสุนทร ยังกล่าวว่า สังคมไทยรวมยังต้องปรับพื้นฐานประชาธิปไตยอีกเยอะ โดยเฉพาะการลงคะแนนเสียงเลือกนักการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่น ที่ไม่ต้องอิงกับระบบอุปถัมภ์พวกพ้อง แต่เลือกคนดีมีความสามารถพอที่จะฝากความหวังในการเปลี่ยนสังคมชุมชนไปในทางที่ดีได้ .