‘มท.’จองราชกิจจาฯ ขึ้นเงินเดือน อบต. ปัดแย่งเสียงการเมือง
มหาดไทย เตรียมส่งรายละเอียดขึ้นเงินเดือน อบต. ตามคำสั่งนายกฯ 9 ธค. ยืนยันเหมาะสมบทบาท-ภาวะเศรษฐกิจ แขวะอย่าใจแคบมองเป็นการเมือง สมาคม อบต. ขู่จัดงบหนุน โวยท้องถิ่นใช้งบแบบภาระประชานิยม
ความคืบหน้ากรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำรายละเอียดค่าตอบแทนผู้บริหารและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) เปรียบเทียบกับเงินค่าตอบแทนสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และสมาชิกสภาเขตกรุงเทพมหานคร (ส.ข.) เพื่อให้นายกพิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
นายชวรัตน์ให้สัมภาษณ์ว่า สั่งการให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) พิจารณารายละเอียด ขอยืนยันการขึ้นเงินค่าตอบแทนไม่ได้เป็นการแข่งขันกับพรรคประชาธิปปัตย์ ที่เตรียมขึ้นเงินเดือนข้าราชการในเดือนเมษายน แต่เป็นการขึ้นค่าครองชีพให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจหาก ส.ก.และ ส.ข.จะขึ้นเงินเดือนตาม แบบมีเหตุผลต้องรับมาพิจารณา ส่วนการขึ้นค่าตอบแทนผู้บริหาร อบต.จะมีผลเมื่อใดขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบและประกาศลงราชกิจจานุเบกษา
นายชวรัตน์กล่าวว่า จะส่งตารางเปรียบเทียบค่าตอบแทนของผู้บริหารและสมาชิก อบต.กับ ส.ก. ส.ข. นายกเทศมนตรี ให้นายอภิสิทธิ์ในวันที่ 9 ธันวาคม 53
”ผมเชื่อว่านายกรัฐมนตรีเห็นตารางดังกล่าว จะเพิ่มค่าตอบแทนให้มากกว่านี้อีกเพราะค่าตอบของ อบต.ได้น้อยมาก” นายชวรัตน์กล่าว
ทางด้านนายสุรชัย ขันอาสา รักษาการราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นกล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยส่งประกาศการขึ้นค่าตอบแทนนายก อบต.และ ส.อบต.ไปยังสำนักราชกิจจานุเบกษาแล้ว รอประกาศ ถ้าจองวันที่เอาไว้จะประกาศได้ทันที แต่ทางกรมปล่อยให้เป็นไปตามระบบใช้เวลา 2-3 สัปดาห์จึงจะเสร็จสมบูรณ์
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า อย่ามองเรื่องนี้ด้วยจิตใจคับแคบว่าเป็นการช่วงชิงโอกาสทางการเมือง เพราะแม้เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่เมื่อทำแล้วถือเป็นผลงานของรัฐบาล
“ผมพูดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนแล้วว่า จะขึ้นค่าตอบแทนเป็นของขวัญปีใหม่ ถ้าใครข้องใจก็ขอดูรายละเอียดได้ แต่กลับไม่มีใครพูดถึงส่วนที่นายอภิสิทธิ์เรียกดูข้อมูลเป็นสิทธิที่ทำได้ และเชื่อว่ากระทรวงมหาดไทยมีเหตุผลชี้แจง” นายบุญจงกล่าว
นายนภดล ณ เชียงใหม่ นายกสมาคม อบต.จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สมาคม อบต.แห่งประเทศไทย แจ้งสมาชิกแล้วว่าการขึ้นค่าตอบแทนไม่จำเป็นต้องเข้า ครม.เพื่อทบทวนอีก เพราะเป็นเงินของท้องถิ่น และการลงนามของนายชวรัตน์ถือว่าถูกต้อง มีผลวันที่ 1 มกราคม 2554 รอแค่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น ไม่ต้องรอนายอภิสิทธิ์
“ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเกมการเมืองระหว่างพรรคประชาธิปปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยที่อยากชนะเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า หากนายอภิสิทธิ์ให้ปรับค่าตอบแทนในวันที่ 1 เมษายน เราก็พร้อมชุมนุมกดดันที่กรุงเทพมหานครทันที หากสมาคม อบต.แห่งประเทศไทยเป่านกหวีดเพราะนายอภิสิทธิ์เป็นผู้จุดชนวนความแตกแยก” นายนภดลกล่าว
นายศรายุทธ ทิอ่อน ประธานชมรมนายก อบต.จังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ ทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ในสายตาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ไม่ดีจะมีผลกระทบกับผู้สมัคร ส.ส.แน่นอน
นายสุเทพ ชูชัยยะ กรรมการสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย ภาคกลาง กล่าวว่า ที่นายอภิสิทธิ์อ้างจะขอเงินอุดหนุนเพิ่มเติมนั้นไม่มีน้ำหนัก เพราะตามรัฐธรรมนูญรัฐบาลต้องส่งเงินอุดหนุน 35% แต่วันนี้จัดส่งแค่กว่า 26% เท่านั้น อปท.เข้าใจดีว่าไม่มีเงิน แต่เมื่อภารกิจมากขึ้นต้องจัดเพิ่มให้อยู่แล้วและสัญญาใจคือต้องเพิ่มอย่างน้อยปีละ 1% ไม่ใช่เพิ่มเพราะการขึ้นเงินเดือน
“สุดท้ายรัฐบาลคงอ้างแบบเดิม คือ รักษามาตรฐานการทำงานแบบละเอียดรอบคอบ” นายสุเทพกล่าว และว่า คงไม่ประท้วงให้วุ่นวายแต่จะคัดค้านนายอภิสิทธิ์ด้วยเอกสาร ด้วยเหตุผล และข้อกฎหมาย เนื่องจากปัจจุบันชาติต้องการความรัก ความสามัคคีเพื่อในหลวง
นายสินธพ อินทรัตน์ กรรมการสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย ภาคใต้ กล่าวว่า ขอความเป็นธรรมให้กับคนที่อาสามาทำงานเพื่อสังคมด้วย เพราะค่าตอบแทนอันเป็นสิทธิที่พึงได้ขณะนี้เมื่อเทียบกับนายกเทศมนตรีแล้วถือว่าน้อยมาก แต่มีภาระมากกว่า นายอภิสิทธิ์น่าจะใช้หลักความเมตตาธรรมกับคนที่มาจากการเลือกตั้งและอยู่ในวาระ 4 ปีเช่นเดียวกัน
นายทวีศักดิ์ ศรีทองกิติกูล ประธานสมาพันธ์ปลัด อบต.แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การขึ้นค่าตอบแทนอาจมีปัญหากรณี อบต.ผ่านงบประมาณ 2554 แล้ว รัฐบาลต้องโอนเงินอุดหนุนมาเพิ่ม แต่เป็นเพราะที่ผ่านมาต้องแบกรับโครงการประชานิยมของรัฐบาลและให้ อบต.ใช้จ่ายขาดเงินสะสมช่วยเหลือผู้ประสบภัยจนบาง อบต.แทบไม่มีเงินเหลือแล้ว
ภาพประกอบจาก http://yanyaw.com