ตร.จ่อขยายผลจับอีกนับสิบร่วมบึ้มกรุง แฉปมแค้นแทนญาติพี่น้อง
การจับกุมชายชาวต่างชาติ พร้อมอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนมากในห้องพักย่านหนองจอก รัฐบาลยืนยันว่าน่าจะเป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดสี่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร เมื่อวันที่ 17 และ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา
แต่รัฐบาลก็ยังไม่ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกับ "ชายเสื้อเหลือง" ที่ถูกออกหมายจับหรือไม่ และไม่มีการระบุสัญชาติของบุคคลที่ถูกควบคุมตัว ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเตรียมขยายผลจับเพื่อนร่วมแก๊งอีกนับสิบคน
รัฐแถลงรวบหนึ่งในแก๊งบึ้มราชประสงค์
ศูนย์ติดตามสถานการณ์คืบหน้าเหตุระเบิดคดีราชประสงค์ ได้แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องสงสัยผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เมื่อเวลา 18.00 น.เมื่อวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2558 โดย พลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ระบุว่า ตั้งแต่เช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นตามเป้าหมายที่สงสัยซึ่งได้จากการสืบสวน โดยเฉพาะที่อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 11 ที่ผู้ต้องสงสัยเข้าไปพักอาศัย ซึ่งน่าจะเกี่ยวกับเหตุระเบิดที่ราชประสงค์และสาทร
ผลการตรวจค้นพบชายคนหนึ่งซึ่งขณะนี้ถูกจับกุมแล้ว เป็นชายชาวต่างชาติ อายุ 28 ปี และพบวัตุระเบิด อันได้แก่ ฝักแคระเบิด และชิ้นส่วนระเบิดที่เป็นลูกปืนรถจักรยานยนต์เป็นแพ็ค มีสติ๊กเกอร์ติดอยู่ และท่อเหล็กที่เป็นคอนเทนเนอร์ (ตัวบรรจุ) สำหรับวัตถุระเบิด รวมทั้งพาสปอร์ตของประเทศๆ หนึ่งเป็นจำนวนมาก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารจับกุมตัวและควบคุมไว้แล้ว
มีรายงานว่า ชายคนดังกล่าวซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยชื่อ ถูกควบคุมตัวไว้ที่มณฑลทหารบกที่ 11 ย่านเกียกกาย เนื่องจากเป็นการจับกุมตามอำนาจ คสช. มีอำนาจคุมตัวได้ 7 วัน หลังจากนั้นจะส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เปิดบัญชีของกลาง 11 รายการ
ปฏิบัติการจับกุมชายต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดกลางกรุงเทพฯ ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร นำกำลังเจ้าตรวจค้นอพาร์ทเมนท์สูง 4 ชั้นแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ปากซอยเชื่อมสัมพันธ์ 11 แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพฯ โดยห้องที่ตรวจค้นเลขที่ 411, 412, 413 และ 414 พบตัวผู้ต้องสงสัยที่ห้องเลขที่ 412 พร้อมอุปกรณ์และสารเคมีที่สามารถนำไปประกอบเป็นระเบิดได้จำนวนมาก รวมทั้งลูกปราย ซึ่งก็คือลูกปืนล้อรถจักรยานยนต์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 เซนติเมตร คล้ายกับที่พบเป็นสะเก็ดระเบิดที่ราชประสงค์และสาทร
สรุปของกลางที่ยึดได้จากห้องพัก มี 11 รายการ ประกอบด้วย
1.เสื้อเชิ้ตที่พบว่ามีสารเกี่ยวกับการประกอบระเบิดกลุ่ม 1 คือ TNT และ C4
2.เสื้อละหมาด พบว่ามีสารทีเกี่ยวกับการประกอบระเบิดกลุ่ม 3 คือ ยูเรีย ( ปุ๋ยยูเรีย)
3.ลูกเหล็กกลม (ลูกปืน) บรรจุถุงพลาสติกทำเป็นแพ็คแบนๆ
4.ถ่านไฟฉายหลายขนาด
5.อุปกรณ์สายไฟ หัวเชื่อม เทปพันสายไฟ
6.ไขควง กรรไกร
7.ถังแกลลอนบรรจุสารเคมี (ยังไม่ทราบชนิด)
8.กล่องกระดาษบรรจุเคมีภัณฑ์ โซเดียมคาร์บอร์เนต (โซดา แอช)
9.ท่อเหล็กต๊าบเกลียว 2 ด้าน (มีเกลียวหัวท้าย) ขนาดต่างๆ พร้อมฝาครอบเหล็ก
10.ผ้าเย็บสำหรับพันรอบเอว ติดตีนตุ๊กแก
11.สายชนวนฝักแค สีชมพู ยาว 8 ซม.จำนวน 10 เส้น
เป็นที่น่าสังเกตว่า การให้สัมภาษณ์เปิดเผยข้อมูลของนายตำรวจระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับคดี จะไม่มีการระบุสัญชาติของชายที่ถูกจับกุม แม้จะพบพาสปอร์ตของเขาอยู่ในห้องพักก็ตาม โดยเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าอาจเป็นพาสปอร์ตปลอม และการเปิดเผยชื่อประเทศอาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
เปิดโฉมหนุ่มวัย 28 ที่ถูกรวบถือพาสปอร์ตตุรกี
มีรายงานว่า ชายหนุ่มที่ถูกจับกุมมีใบหน้าตอบ ไว้หนวดเครา ถือพาสปอร์ตประเทศตุรกี ชื่อ ADEM KARADAG อายุ 28 ปี ส่วนผู้เช่าห้องพักทั้ง 4 ห้อง ใช้ชื่อ AMMET MEHMET EMIN AYSE อ้างว่าเป็นชาวตุรกีเช่นกัน โดยเช่าห้องไว้ระยะหนึ่งแล้ว
เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยงานความมั่นคง ให้ข้อมูลว่า ชายที่ถูกจับน่าจะเป็นบุคคลที่ฝ่ายความมั่นคงติดตามตัว เพราะเชื่อว่าเป็นคนเดียวกับ "ชายเสื้อเหลือง" ที่สะพายเป้บรรจุระเบิดไปวางที่ศาลพระพรหม และถูกออกหมายจับ รวมทั้งเผยแพร่ภาพสเกตช์สู่สาธารณชนก่อนหน้านี้ โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเขาอาจปลอมตัวด้วยการสวมวิกและแว่นตาเพื่ออำพรางตัวขณะปฏิบัติการ
"สมยศ" ฉุนสื่อถาม "จับแพะหรือเปล่า?"
พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้หลังเดินทางไปตรวจห้องพักผู้ที่ถูกจับกุมตัวว่า การตรวจค้นวันนี้เป็นการเข้าตรวจและจับกุมชายชาวต่างชาติ ไม่ระบุสัญชาติ ซึ่งเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และที่สะพานสาทร แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเชื่อมโยงในส่วนใด เนื่ิองจากต้องดำเนินการสอบปากคำตามขั้นตอน คือผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ การสอบปากคำจึงต้องมีล่ามและเจ้าหน้าที่สถานทูตเข้ามาร่วมสอบปากคำ ขณะนี้จึงยังไม่สามารถให้รายละเอียดหรือตอบคำถามที่สงสัยได้ทั้งหมด เบื้องต้นแจ้งข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ช่วงที่ พลตำรวจเอกสมยศ กำลังให้สัมภาษณ์ ปรากฏว่ามีผู้สื่อข่าวคนหนึ่งถามว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการจับแพะหรือไม่ ทำให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โมโหถึงขั้นชี้หน้าต่อว่าผู้สื่อข่าวรายดังกล่าว
แฉปมบึ้มเจ็บแค้นแทนญาติพี่น้อง-จ่อจับนับสิบ
ช่วงค่ำวันเดียวกัน พลตำรวจเอกสมยศ เปิดแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า บุคคลที่ควบคุมตัวได้ ตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็น 1 ใน 2 คนร้ายที่ได้ออกหมายจับไปแล้ว แต่มั่นใจว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิดแน่นอน เนื่องจากหลักฐานที่ตรวจพบในที่พักย่านหนองจอกมีความคล้ายคลึงหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ และทราบว่าคนร้ายเป็นกลุ่มไหน โดยปมก่อเหตุมาจากความเจ็บแค้นแทนญาติพี่น้องที่เป็นคนชาติเดียวกัน แต่ยืนยันว่าไม่ใช่การก่อการร้ายแน่นอน และไม่ใช่ชาวอุยกูร์
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 และมีการกระทำผิดกฏหมายมาตลอด แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเรื่องอะไร เพราะอาจจะกระทบต่อการสืบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าขบวนการนี้มีเกือบ 10 คน และยังมีคนร้ายคนอื่นที่ยังหลบหนีอยู่ การติดตามจับกุมส่วนหนึ่งมาจากการใช้พาสปอร์ตปลอม
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ขณะเปิดแถลงข่าว
2 บัญชีของกลางที่พบในห้องพักผู้ถูกจับกุม
3 พาสปอร์ตที่มีภาพใบหน้าคล้ายผู้ถูกจับกุม
4 ผู้ถูกจับกุมเทียบกับภาพสเก็ตช์มือระเบิด