"ขอนแก่น" ชุดใหญ่! ป.ป.ช. ชี้มูลฟันคดีอาญา "นักการเมืองท้องถิ่น" 4 คนรวด
เช็คมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ล่าสุด ชี้มูลความผิดสั่งฟันคดีอาญาทุจริตประพฤติมิชอบ นักการเมืองท้องถิ่น "ขอนแก่น" จัดเต็ม 4 คนรวด!
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีทุจริตค้างเก่าในพื้นที่ต่างจังหวัดหลายเรื่อง ซึ่งปรากฎรายชื่อนักการเมืองท้องถิ่นเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจำนวนมาก
ขณะที่พื้นที่ "จังหวัดขอนแก่น" เป็นพื้นที่ที่ถูกระบุว่า เป็นจุดเกิดเหตุของคดีทุจริตมีนักการเมืองท้องถิ่นเข้าไปเกี่ยวข้อง และถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเป็นจำนวนมากถึง 4 คดี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลผลการชี้มูลความผิดคดีทุจริตที่เกิดขึ้นในจังหวัดขอนแก่น และมีนักการเมืองท้องถิ่นเข้าไปเกี่ยวข้องทั้ง 4 คดี มานำเสนอ ณ ที่นี้
-คดีกล่าวหาเรียกรับเงินเพื่อช่วยเหลือห้บรรจุเข้าทำงาน เป็นพนักงานจ้างตามภารกิจ
ผู้ถูกกล่าวหา คือ นางวิภาเพ็ญ พรมโนนศรี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลดินดำ อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นางวิภาเพ็ญ พรมโนนศรี ฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความ สงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการ ไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามระราชบัญญัติ สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92 และมีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123 และให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยัง อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี กับนางวิภาเพ็ญ พรมโนนศรี ตามฐานความผิดดังกล่าว
สำหรับการถอดถอนออกจากตำแหน่ง เนื่องจากนางวิภาเพ็ญ พรมโนนศรี ได้ลาออกจากตำแหน่งรองนายกองค์การ บริหารส่วนตำบลดินดำ อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่นแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะต้อง ส่งเรื่องไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 92 วรรคสาม อีก และให้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้ง ถอดถอนทราบ และแจ้งให้สำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้งทราบด้วย
- คดีกล่าวหาให้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก บ้านหนองกุง หมู่ที่ 8 รวม 4 โครงการ ก่อนที่อำเภอจะอนุมัติใช้เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม
ผู้ถูกกล่าวหา 1. นายจีราวัฒน์ อุดมวรรธน์ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านทุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 2. นายณกรณ์ วิริยสถิตย์กุล ปลัดเทศบาลตำบลบ้านทุ่ม 3. นางศรัณย์พร ณ ศรีโต ผู้อำนวยการกองคลัง 4. นายภคพล ส่งเสริม กรรมการตรวจรับงานจ้าง 5. นางกันติชา เศรษฐวัชระ ผู้รับจ้าง 6. นายสมภูมิ ค่าเจริญกุล ผู้รับจ้าง 7. นายปรีชา สรรประเสริฐ ผู้รับจ้าง
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายจีราวัฒน์ อุดมวรรธน์ ฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อ ความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพ ของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความ เสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83
ส่วน นายณกรณ์ วิริยสถิตย์กุล และ นางศรัณย์พร ณ ศรีโต มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาล จังหวัดขอนแก่น เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และ การร้องทุกข์ ลงวันที่ 1 เมษายน 2545 ข้อ 3 วรรคสาม และข้อ 6 วรรคสอง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83
นายภคพล ส่งเสริม มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาล จังหวัดขอนแก่น เรื่อง หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษ ทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 1 เมษายน 2545 ข้อ 3 วรรคหนึ่ง และข้อ 6 วรรคหนึ่ง
นางกันติชา เศรษฐวัชระ นายสมภูมิ ค่าเจริญกุล และนายปรีชา สรรประเสริฐ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86
เบื้องต้น ให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยัง ผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาโทษทางวินัย กับนายณกรณ์ วิริยสถิตย์กุล นางศรัณย์พร ณ ศรีโต และนายภคพล ส่งเสริม และส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญา ในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี กับนายจีราวัฒน์ อุดมวรรธน์ นายณกรณ์ วิริยสถิตย์กุล นางศรัณย์พร ณ ศรีโต นางกันติชา เศรษฐวัชระ นายสมภูมิ ค่าเจริญกุล และนายปรีชา สรรประเสริฐ ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 92 และมาตรา 97 แล้วแต่กรณีต่อไป
สำหรับการถอดถอนออกจากตำแหน่ง เนื่องจาก นายจีราวัฒน์ อุดมวรรธน์ ได้พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบล บ้านทุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ไปแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะต้องส่งเรื่อง ไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 92 วรรคสาม อีก ให้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ผู้มีอำนาจ แต่งตั้งถอดถอนทราบ และแจ้งให้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทราบด้วย
-คดีกล่าวหาอนุญาตให้ผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำและขยายผิวจราจร ปรับปรุง ภูมิทัศน์ถนนรอบบึงหนองโคตร ใช้พื้นที่สาธารณะก่อสร้างที่พักคนงาน และขุดดิน ในพื้นที่สาธารณะไปใช้ในการก่อสร้าง
ผู้ถูกกล่าวหา นายไพศาล จิตตะมัย นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายไพศาล จิตตะมัย ฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความ สงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการ ไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่หรือมีความประพฤติ ในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ ตำแหน่ง แก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตาม พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 และ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157
ให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็น ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี กับ นายไพศาล จิตตะมัย ตามฐานความผิด ดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 97 ต่อไป
สำหรับการถอดถอนออกจากตำแหน่ง เนื่องจากนาย ไพศาล จิตตะมัย ได้พ้นจาก ตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบล บ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ไปแล้ว จึงไม่มีเหตุ ที่จะต้องส่งเรื่องไปยังผู้มีอำนาจ แต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการ ตามอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 92 วรรคสาม อีก ให้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ผู้มีอำนาจ แต่งตั้งถอดถอนทราบ และแจ้งให้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทราบด้วย
-คดีกล่าวหาไม่ต่อสัญญาจ้างและยุบเลิก ตำแหน่งพนักงานจ้างตามภารกิจ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
ผู้ถูกกล่าวหา นายสมจิตร จันโทศรี นายกเทศมนตรีตำบลนาข่า อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายสมจิตร จันโทศรี ฐานกระทำการฝ่าฝืน ต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพ ของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจ หน้าที่ หรือมีความประพฤติในทาง จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ ตำแหน่ง หรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยัง อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นายสมจิตร จันโทศรี ตามฐานความผิด ดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 97 ต่อไป
สำหรับการถอดถอนออกจากตำแหน่ง เนื่องจากนายสมจิตร จันโทศรี ได้พ้นจาก ตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลนาข่า อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ไปแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะต้องส่งเรื่องไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 92 วรรคสาม อีก ให้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ผู้มีอำนาจ แต่งตั้งถอดถอนทราบ และแจ้งให้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทราบด้วย
ทั้งหมดนี้ คือ คดีกล่าวหาทุจริตล่าสุดของนักการเมืองท้องถิ่น ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น 4 คดี ที่ ป.ป.ช. ประกาศออกมาในช่วงเดือนสิ่งหาคม 2558 ที่ผ่านมา
ส่งผลทำให้นักการเมืองท้องถิ่นทั้ง 4 ราย จะต้องไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองในชั้นศาลต่อไป
แม้ว่าจะพ้นจากตำแหน่งไปแล้วก็ตาม!
หมายเหตุ: ภาพประกอบสถานีรถไฟขอนแก่น จาก www.serverooms.com