เมื่อ"บิ๊กหอยVS.บังยี" สงครามชิงเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลไทย เปิดฉากแล้ว
"...ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ใช้อำนาจ ให้คณะกรรมการสมาคมกีฬาพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และแต่งตั้งคณะกรรมการสมาคมกีฬาชั่วคราวขึ้น ..จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ไทยพรีเมียร์ ลีก ขึ้นมาใหม่ โดยให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ถือหุ้น 100%..."
วงการฟุตบอลเมืองไทย ทำท่าจะร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง!
เมื่อ "บิ๊กหอย" ธวัชชัย สัจจกุล อดีตผู้จัดการทีมชาติไทย ประธานสโมสรฟุตบอล พรต.เอฟ.ซี ผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่
ได้ทำหนังสือลงวันที่ 13 สิงหาคม 2558 ถึง นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้พิจารณาตรวจสอบข้อมูลการถือครองหุ้น ของ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯคนปัจจุบัน และพวก ใน บริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก
พร้อมกล่าวอ้างว่า นายวรวรี มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯคนปัจจุบัน ได้ถือหุ้นใน บริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก เป็นจำนวน 5,625 หุ้น หรือเท่ากับ 45 เปอร์เซ็นต์ และ นายองอาจ ก่อสินค้า ประธานบริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก ถือ 3,125 หุ้น หรือเท่ากับ 25 เปอร์เซ็นต์ รวม 2 คน 70 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นของกลุ่มบุคคลพรรคพวกของนายวรวีร์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบพบว่า งบดุลของบริษท ไทยพรีเมียร์ลีก ยังไม่ปรากฎว่ามีรายรับจาก บริษัททรูวิชั่นส์ รวมถึงสปอนเซอร์รายอื่นด้วย
เบื้องต้น นายธวัชชัย ยังได้ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ใช้อำนาจให้คณะกรรมการสมาคมกีฬาพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และแต่งตั้งคณะกรรมการสมาคมกีฬาชั่วคราวขึ้น เพื่อดำเนินการในเรื่องต่างๆ 5 ข้อ ประกอบไปด้วย
1.จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ไทยพรีเมียร์ ลีก ขึ้นมาใหม่ โดยให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ถือหุ้น 100%
2. แจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องที่มีนิติกรรมกับบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกเดิม ซึ่งมีนายวรวีร์ และพวกเป็นเจ้าของมาทำนิติกรรมกับบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกใหม่ตามเงื่อนไขเดิมทุกประการ
3. ให้คณะกรรมการชั่วคราวจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่โดยเร็ว
4. ให้คณะกรรมการที่มาจากการเลือกตั้งชุดใหม่ เป็นเจ้าทุกข์ดำเนินคดีทางแพ่ง และอาญา กับนายวรวีร์ และพวก ตามความผิดมาตรา 73 (5) มาตรา 115 แห่งพ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย 2558
5.ดำเนินคดีกับนายวรวีร์ และพวก โดยใช้พระราชบัญัติป้องกันการปราบปรามการฟอกเงิน ความผิดมาตรา 5 มาตรา 48 มาตรา 61 เพื่อทวงทรัพย์สินที่ควรจะเป็นของสมาคม ทั้งในเรื่องกิจการของ ไทย พรีเมียร์ ลีก รวมทั้งทรัพย์สินที่ตั้งของสมาคมฟุตบอลฯ(หนองจอก)
ทั้งนี้ นายธวัชชัย ยังได้แนบเอกสารการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก และงบการเงิน ประกอบด้วย (ดูเอกสารประกอบ)
ภาพเอกสาร จากเฟซบุ๊ก ธวัชชัย สัจจกุล
ที่มา http://www.facebook.com/sportparty/media_set set=a.896891473738781.1073741832.100002538093445&type=3
ล่าสุด นายวรวีร์ ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในเรื่องนี้ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ แต่อย่างใด
แต่ที่ปรากฎชัดเจนแล้วคือ "สงครามชิงเก้าอี้" นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จากนายวรวีร์ ที่ครองตำแหน่งนี้มานานแสนนาน โดยมีนายธวัชชัยเป็นผู้ท้าชิง ได้เริ่มต้นเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว