ล้วงผลสอบสตง.! ชี้มูลนายกฯแพร่ สั่งลดภาษีรร.ครอบครัว พ่วง "รองฯ-ปลัด-ผอ.คลัง"
เอ็กซ์คูลซีฟ: เปิดผลสอบ สตง. ฉบับเต็ม! ชี้มูลอาญา นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ อนุมัติลดภาษีเอื้อธุรกิจรร.ครอบครัว 2 แห่ง "รองนายกฯ- ปลัดเทศบาล-ผอ.กองคลัง" ติดบ่วงโดนโทษวินัยชดใช้เงินคืนด้วย
แม้ "นายโชคชัย พนมขวัญ" นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ จะยืนยันหนักแน่นว่า การอนุมัติลดภาษีให้กับโรงแรม 2 แห่ง คือ "โรงแรมนครแพร่ทาวเวอร์" ของ บริษัท รัตนบรรจง จำกัด และ "โรงแรมนครแพร่" ของบริษัท พนมขวัญ จำกัด ซึ่งปรากฎชื่อ นายสามขวัญ พนมขวัญ พี่ชายนายโชคชัย เป็นกรรมการผู้มีอำจาจและผู้ถือหุ้นใหญ่
มิได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจครอบครัวตนเอง แต่เป็นการตัดสินใจในเชิงการปกครอง เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมหลายแห่งในตัวเมืองแพร่ ที่กำลังประสบปัญหาการทำธุรกิจให้อยู่รอดต่อไปได้ และที่สำคัญมีผู้ประกอบการหลายราย ที่ได้รับประโยชน์ ไม่ใช่แค่โรงแรมของครอบครัวตนเองเท่านั้น
แต่ในมุมมองของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ดูเหมือนจะสวนทางกับคำชี้แจงของนายโชคชัย อย่างสิ้นเชิง
เพราะ สตง. เห็นว่า พฤติการณ์ของนายโชคชัย น่าเชื่อว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เงินหรือทรัพย์สินของราชการ เข้าลักษณะเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ราชการประโยชน์ เป็นเงินจำนวน 107,398 บาท จากการลดภาษีให้กับโรงแรมครอบครัวทั้งสองแห่ง
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้สรุปรายงานผลการตรวจสอบของ สตง. กรณีนี้ มานำเสนอให้สาธารณชนรับทราบแบบชัดๆ ดังนี้
พฤติการณ์
- บริษัท พนมขวัญ จำกัด (โรงแรมนครแพร่) และบริษัทรัตนบรรจง จำกัด (โรงแรมนครแพร่ทาวเวอร์) ได้ยื่นแบบแสดงรายการค่าเช่าหรือประโยชน์อย่างอื่นที่อาจคิดเป็นตัวเงินได้ในปีที่ล่วงแล้ว (2553) เพื่อเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินประจำปี 2554 ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2554 โดยเทศบาลเมืองแพร่ได้ประเมินค่าภาษีในส่วนของบริษัท พนมขวัญ จำกัด อยู่ที่ 150,453 บาท บริษัท รัตนบรรจง จำกัด อยู่ที่ 143,445 บาท ซึ่งทั้งสองบริษัท ได้ชำระค่าภาษีโรงเรีอนและที่ดินดังกล่าว
แต่ต่อมาบริษัททั้งสองแห่ง ได้ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินใหม่ แยกเป็นในส่วนของบริษัท พนมขวัญ จำกัด จากค่าภาษีที่พนักงานประเมิน จำนวน 150,453 บาท เป็นค่าภาษีพอใจ จำนวน 55,000 บาท ส่วนบริษัทรัตนบรรจง จำกัด จากค่าภาษีที่พนักงานประเมิน จำนวน 143,445 บาท เป็นค่าภาษีพอใจ จำนวน 65,000 บาท
โดยทั้งสองบริษัท ให้เหตุผลสอดคล้องกันคือ มีแขกมาเข้าพักน้อย มีอพาร์ตเม้นต์ โรงแรม หอพักเปิดให้บริการเพิ่มขึ้น ลูกค้าจึงหันไปใช้บริการที่ใหม่กันมาก ทำให้รายได้ลดลงมาก
ก่อนที่ นายโชคชัย นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจชี้ขาดในการประเมินค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดิน จะใช้อำนาจในการพิจารณาคำร้องขอให้พิจารณาการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินให้กับบริษัทเอกชนทั้งสองรายใหม่ โดยพิจารณาปรับลดค่ารายปีและภาษีโรงเรือนและที่ดินประจำปี 2554 ต่ำกว่าค่ารายปีที่เจ้าหน้าที่ประเมิน และคณะกรรมการพิจารณาคำร้องที่ยืนยันราคาประเมินภาษีตามที่เจ้าพนักงานประเมินไว้
ทำให้บริษัททั้งสองแห่ง เสียภาษีน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แยกเป็นในส่วนของบริษัทพนมขวัญ จำกัด 28,445 บาท บริษัท รัตนบรรจง จำกัด 78,953 บาท รวมวงเงิน 107,398 บาท
ผู้เกี่ยวข้อง
ในรายงานการสอบสวนของ สตง. ยังระบุด้วยว่า นายพิชิต โมกศรี ปลัดเทศบาล ได้จัดทำบันทึกข้อความแจ้งหน่วยงานส่งเรื่องหรือญัตติที่จะต้องขอรับความเห็นชอบจากสภาเทศบาลให้รวบรวมเรื่องส่งที่สำนักปลัดเทศบาล โดยนางสุภาพร เจริญนุกล หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป ได้จัดทำบันทึกข้อความ เพื่อขอรับความเห็นชอบจากสภาเทศบาลเพื่อขออนุมัติเบิกจ่ายเงินสะสมเป็นค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินถอนคืนให้แก่ผู้รับประเมิน โดยผ่านนางผ่องพรรณ จันทะราชา ผู้อำนวยการกองคลัง และนายพิชิต โมกศรี ปลัดเทศบาลเมืองแพร่
โดยนายพิชิต ได้มีความเห็นว่า ควรแจ้งผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมายและให้ศึกษาแนวทางปฏิบัติตามความเห็นนิติกร ซึ่ง นายเผ่าพันธุ์ รัตนะภาค นิติกร ได้ทำบันทึกข้อความ เห็นว่า การใช้ดุลพินิจหรืออำนาจชี้ขาดของผู้บริหารท้องถิ่นในการพิจารณาการประเมินใหม่ ถ้าจะลดหย่อน ยกเว้น ปลด หรือลดค่าภาษี จะต้องอาศัยอำนาจตามกฎหมายที่บัญญัติไว้เท่านั้น ไม่สามารถอาศัยเหตุอย่างอื่นเพื่อกระทำการลดหย่อน ยกเว้น ปลดหรือลดค่าภาษีได้ เสนอผ่าน นางสุภา นาจักร์ ผู้อำนวยการ กองวิชาการและแผน และนายพิชิต โมกศรี ปลัดเทศบาล โดยนายพิชิต เสนอความเห็นควรแจ้งผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามกฎหมาย และนายพัฒนพงษ์ พงษ์นวล รองนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ รักษาราชการแทนนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ พิจารณาเห็นชอบ
ต่อมา นายโชคชัย ได้เสนอญัตติของผู้บริหารท้องถิ่นเทศบาล เพื่อจ่ายเป็นค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินถอนคืน โดยชี้แจงต่อสภาเทศบาล ว่า "ปกติก็ไม่มีเกณฑ์ว่าลดกี่เปอร์เซ็นต์ โดยข้อเท็จจริงเขาอุทธรณ์มีเหตุมีผลอย่างไร ในการขอลดถ้ามีเหตุสมควรตามกฎเกณฑ์ต่างๆ ก็สามารถลดได้ตามจำนวนที่คณะกรรมการจะเห็นสมควร"
เป็นผลให้สภาเทศบาลเมืองแพร่ได้มีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ในการจ่ายขาดเงินสะสมเพื่อจ่ายคืนค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน ก่อนที่จะมีการเสนอเรื่องเบิกจ่ายเงินกับบริษัทเอกชนทั้งสองรายในเวลาต่อมา
เบื้องต้น สตง. พิจารณาแล้วเห็นว่า นายพิชิต โมกศรี ปลัดเทศบาลเมืองแพร่ ซึ่งเป็นพนักงานประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดิน และเป็นคณะกรรมการพิจารณาคำร้องขอให้ประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินใหม่ มีหน้าที่ในการตรวจสอบความถูกต้อง จะต้องทราบหลักเกณฑ์การประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินอยู่แล้ว รวมถึงการใช้ดุลพินิจของนายโชคชัย ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
แต่ในการประชุมสภาเทศบาล นายพิชิต ไม่ได้แสดงความเห็นคัดค้าน เป็นเหตุให้สภาเทศบาลมีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ให้จ่ายเงินภาษีคืนให้กับบริษัทเอกชนทั้งสองราย
ขณะที่ นางผ่องพรรณ จันทะราชา ผู้อำนวยการกองคลัง มีหน้าที่ดำเนินการให้มีการชำระภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ อย่างทั่วถึง ตรวจสอบการหลีกเลี่ยงภาษี
เมื่อนายโชคชัย ได้พิจารณาประเมินภาษีใหม่ ซึ่งแตกต่างจากที่เจ้าหน้าที่ประเมินภาษีและมติคณะกรรมการพิจารณาคำร้องประเมินไว้ นางผ่องพรรณ ก็ไม่ได้มีการท้กท้วง หรือโต้แย้งการใช้ดุลพินิจของนายโชคชัย
อีกทั้ง เมื่อมีการจัดทำบันทึกข้อความเพื่อขอความเห็นชอบจากสภาเทศบาลเมืองแพร่ในการจ่ายขาดเงินสะสม นางผ่องพรรณ ได้แจ้งเรียนปลัดเทศบาลเพื่อโปรดพิจารณาตามเสนอ เมื่อสภาเทศบาลได้มีมติเห็นชอบให้จ่ายขาดเงินสะสม ซึ่งเป็นเหตุให้ทั้งสองบริษัทได้รับเงินคืนค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน นางผ่องพรรณ ก็เป็นผู้เบิกเงินสะสม และเป็นผู้เสนอเห็นควรให้เบิกจ่ายได้ ในฐานะผู้อำนวยการ กองคลัง
ส่วน นายพัฒนพงษ์ พงษ์นวล รองนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ เป็นผู้เห็นชอบในการแจ้งผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมาย ตามบันทึกข้อความเรื่องตรวจสอบข้อกฎหมายการพิจารณาการประเมินใหม่ของเทศบาลเมืองแพร่ ที่นายพิชิตได้เสนอความเห็นและเห็นชอบในการขอรับความเห็นชอบจากสภาเทศบาลเพื่ออนุมัติให้เบิกจ่ายเงินสะสม และแจ้งผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมายและให้ศึกษาแนวทางปฏิบัติตามความเห็นนิติกร
แม้ว่า นายพัฒนพงษ์ จะไม่ทราบหลักเกณฑ์และวิธีการในการประเมินภาษี ไม่ได้เป็นคณะกรรมการพิจารณาคำร้อง และไม่ทราบหลักเกณฑ์ที่นายโชคชัย ใช้ในการพิจารณาชี้ขาด แต่นายพัฒนพงษ์ ย่อมเป็นผู้รับทราบข้อกฎหมายในการพิจารณาการประเมินใหม่
แต่ในการประชุมสภาเทศบาลเมืองแพร่ นายพัฒนพงษ์ มิได้ทักท้วงหรือชี้แจงแต่อย่างใด และเมื่อสภาเทศบาลเมืองแพร่เห็นชอบให้จ่ายขาดเงินสะสมในกรณีการคืนภาษีดังกล่าว นายพัฒนพงษ์ ได้ลงนามเห็นชอบให้เบิกจ่ายเงิน
ดังนั้น ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 และ 46 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 พิจารณาแล้วเห็นชอบกับผลการดำเนินการของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้ดำเนินการดังนี้
1. ดำเนินการทางอาญากับนายโชคชัย นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ นายพัฒนพงษ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ และนางผ่องพรรณ ผู้อำนวยการกองคลัง
2. ดำเนินการหาผู้รับผิดทางละเมิดชดใช้เงินจำนวน 107,398 บาท คืนคลังเทศบาล
3.ดำเนินการทางวินัยกับนายพิชิต ปลัดเทศบาลเมืองแพร่ และนางผ่องพรรณ ผู้อำนวยการกองคลัง
4 ดำเนินการตามควรแก่กรณีกับ นายโชคชัย นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ และ นายพัฒนพงษ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองแพร่
ทั้งนี้ รายงานผลการสอบสวนในเรื่องนี้ สตง. ได้นำส่งให้ นายโชคชัย นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ รับทราบไปแล้ว ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2557
ส่วนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีการรับเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนอย่างเป็นทางการแล้วเช่นกัน
ขณะที่ นายโชคชัย ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยยืนยันว่าการดำเนินการของตนไม่มีเจตนาที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจในครอบครัวแต่อย่างใด
อ่านประกอบ :
ไม่ใช่ที่เดียว! เบ็ดเสร็จ รร.ครอบครัวนายกเทศมนตรีแพร่ ได้ลดภาษี 2 แห่งรวด
โชว์บัญชีหุ้น 3 ล. นายกเทศมนตรีแพร่ ก่อนถูก สตง.ชี้มูลลดภาษีเอื้อรร.ครอบครัว
เจาะ รร."นครแพร่ทาวเวอร์" ไขปม "นายกเทศมนตรี" ลดภาษีเอื้อธุรกิจครอบครัว?
"โชคชัย พนมขวัญ"รับเป็นนายกเทศมนตรี "ช" ถูกสอบปมลดภาษีให้รร.ครอบครัว
สตง.สั่งสอบนายกเทศมนตรี ชื่อย่อ"ช" ในภาคเหนือ ลดภาษีโรงเรือนให้รร.ครอบครัว
'บิ๊กตู่'ฟัน ขรก.ลอตสอง 71 ราย- อธิบดีพช. เลขาฯสปช. ปลัดท่องเที่ยว-7นายก อบจ.
หมายเหตุ : ภาพถ่ายนายโชคชัย และคณะทำงานจาก www.phraecity.go.th