31 ปี 2.4 แสนล.! รายได้หวยกองสลากฯ ก่อนบิ๊กตู่ ใช้ม.44 เปิดช่องล้วงงบ
"...สิ่งที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้ชี้แจงออกมาให้สาธารณชนรับทราบอย่างเป็นทางการ คือ กระบวนการใช้จ่ายเงินส่วนนี้ในการดำเนินงานตามนโยบายต่าง ๆ มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะระบบการตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหล.."
ณ วันนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะนำเงินรายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล มาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2558 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 25/2558 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2558
ระบุว่า ตามที่ได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2558 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ลงวันที่ 1 พฤษภาคม พุทธศักราช 2558 ซึ่งได้กำหนดให้มีกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม มีวัตถุประสงค์ตามที่ได้บัญญัติไว้ในข้อ 5 ของคำสั่งดังกล่าว นั้น เพื่อให้รัฐสามารถนำเงินกองทุนมาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปประเทศในด้านเศรษฐกิจและสังคม
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็น (5) ในข้อ 5 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2558 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม พุทธศักราช 2558
“(5) เพื่อดำเนินโครงการตามนโยบายของรัฐที่จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม”
คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 10 สิงหาคม พุทธศักราช 2558
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
(ดูคำสั่งฉบับเต็ม http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/E/185/2.PDF )
ทั้งนี้ ในข้อ 5 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2558 ของเดิม ระบุการใช้จ่ายเงินกองทุนสลากกินแบ่งเพื่อพัฒนาสังคม ไว้ 4 ข้อ คือ
(1) เพื่อส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยปัญหาเกี่ยวกับการพนัน สาเหตุและผลกระทบจากการพนัน รวมทั้งมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการพนัน
(2) เพื่อส่งเสริมการเผยแพร่ความรู้และทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการพนัน สร้างการรู้เท่าทัน เพื่อป้องกันการติดการพนัน รวมทั้งสนับสนุนกิจกรรมป้องกันและลดผลกระทบจากการพนัน
(3) เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการพนัน
(4) เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล
ข้อ 6 กองทุนประกอบด้วย
(1) เงินที่ได้รับจัดสรรจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตามกฎหมายว่าด้วยสานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
(2) ดอกผลจากเงินกองทุน
เงินกองทุนตามวรรคหนึ่งไม่ต้องนาส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
ข้อ 7 เมื่อใดที่รัฐมนตรีเห็นว่าเงินกองทุนมีจานวนสูงเกินความจำเป็น รัฐมนตรีโดยลำพังหรือโดยคำแนะนำของคณะกรรมการอาจสั่งให้ลดจำนวนเงินกองทุนลงให้คงเหลือไว้เท่าที่รัฐมนตรีเห็นสมควร ในกรณีนี้ให้สำนักงานนำส่งเงินที่สูงไปกว่าจำนวนที่รัฐมนตรีกำหนดเป็นรายได้แผ่นดิน
ข้อ 8 ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลการบริหารจัดการกองทุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุน และพิจารณาอนุมัติการใช้เงินกองทุน
ข้อ 9 ให้ผู้อำนวยการมีหน้าที่ดำเนินกิจการของกองทุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนและตามที่คณะกรรมการกำหนด
ข้อ 10 ให้ยกเลิกความในมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 22 เงินที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้รับจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้จัดสรรดังนี้
(1) ร้อยละหกสิบเป็นเงินรางวัล
(2) ไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบเป็นรายได้แผ่นดิน
(3) ไม่เกินกว่าร้อยละสิบเจ็ดเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานซึ่งรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย
(4) ร้อยละสามเป็นเงินกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม”
นั้นเท่ากับว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ สามารถที่จะดึงเงินจากกองทุนฯ มาใช้ในการดำเนินการตามนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยตรง
(ดูคำสั่งฉบับเต็มประกอบ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/E/102/1.PDF)
อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า เงินที่ได้รับจัดสรรจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่นำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดินในช่วงที่ผ่านมา มีจำนวนเท่าไร
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ใช้สิทธิตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 เพื่อขอทราบรายละเอียดการนำส่งเงินรายได้แผ่นดินประจำปี ของ สำนักงานสลากกิจแบ่งรัฐบาล ที่ผ่านมาทั้งหมด
พบว่า นับตั้งแต่ปี 2527 จนถึง ปัจจุบัน (มิ.ย.2558) รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 31 ปี สำนักงานสลากกิจแบ่งรัฐบาล ได้นำส่งเงินรายได้แผ่นดิน เป็นจำนวนทั้งสิ้น 243,897.8 ล้านบาท
โดยตัวเลขรายได้ล่าสุดในปี 2558 ตั้งแต่ ต.ค.57 ถึง มิ.ย.58 อยู่ที่ 11,277.53 ล้านบาท
ขณะที่ตัวเลขรายได้ที่นำส่งนับตั้งแต่ปี 2528 ถึง ปัจจุบัน (มิ.ย.2558) มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (ดูรายละเอียดในตารางประกอบ)
ดังนั้น การดึงเงินรายได้จากกองสลากฯ ที่มีอยู่กว่าหมื่นล้านบาท ต่อปี มาช่วยในการดำเนินงานตามนโยบายการบริหารประเทศ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ!
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้ชี้แจงออกมาให้สาธารณชนรับทราบอย่างเป็นทางการ คือ กระบวนการใช้จ่ายเงินส่วนนี้ในการดำเนินงานตามนโยบายต่าง ๆ มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะระบบการตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหล
และที่สำคัญหากมีรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งเป็นผู้บริหารมาจากฝ่ายนักการเมือง การใช้จ่ายเงินรายได้จากกองสลากฯ ในรูปแบบนี้ จะยังคงสามารถทำได้ต่อไปหรือไม่ เพราะถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็เท่ากับว่า รัฐบาลใหม่สามารถที่จะนำเงินไปใช้ตามนโยบายได้เลย และคงคาดเดากันได้ไม่ยาก ว่า เมื่อเงินไปอยู่ในมือของรัฐบาล ที่มาจากฝ่ายการเมืองจะเป็นอย่างไร
ใครจะได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานโครงการต่างๆ ตามนโยบายมากกว่ากัน ระหว่าง "ประชาชน" กับ "นักการเมือง"
นี่คือ โจทย์สำคัญ ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องรีบชี้แจงทำความเข้าใจกับสาธารณชน ให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนมากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายที่จะดำเนินการ รายละเอียดแผนงานโครงการต่างๆ ความคุ้มค่าและผลประโยชน์ตอบแทนที่จะเกิดขึ้นจากเม็ดเงินที่จะใช้จ่ายไป รวมถึงระบบการตรวจสอบการใช้จ่ายเงิน
เพราะประเทศไทย กำลังเข้าสู่ยุคการปฏิรูป การบริหารงานการเมืองยุคใหม่ ของรัฐบาล ควรจะต้องมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบและชี้แจงได้ทุกเรื่อง!