คาราวานน้ำใจจากชายแดนใต้ช่วยผู้ประสบอุทกภัย กับคาราวานรถคลาสสิคขบวนใหญ่ต้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวรวมพลัง ร่วมแรง ร่วมใจของคนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2 เรื่อง หนึ่งคือการร่วมบริจาคเงินและสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบอุทกภัย ส่วนอีกหนึ่งแม้จะมีคนร่วมน้อยกว่าเรื่องแรก แต่ก็สมควรบันทึกเอาไว้ คือการรวมตัวกันของเยาวชน นักศึกษา และกลุ่มปัญญาชน จัดแรลลี่รถคลาสสิคเพื่อประท้วงเชิงสัญลักษณ์ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
ในห้วงที่ประชาชนคนไทยร่วมประเทศในภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างกำลังเดือดร้อนอย่างหนักกับสถานการณ์อุทกภัยที่หลายคนเรียกว่า “สึนามิน้ำจืด” กลุ่มองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน สื่อสารมวลชน และประชาชนทั่วไปในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ร่วมกันบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย จนนับเป็นความสวยงามท่ามกลางวิกฤติ เพราะแท้ที่จริงแล้ว ณ ดินแดนปลายสุดด้ามขวานก็ยังมีสถานการณ์ความรุนแรงรายวันสร้างความเดือดร้อนไม่แพ้กัน
เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ต.ค.2554 ที่บริเวณลานหน้าอาคารอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ถนนสุขยางค์ อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการ ศชต.ได้เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถ 6 คัน บรรทุกสิ่งของบรรเทาทุกข์เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาและใกล้เคียง โดยมีข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่มจำนวน 1,200 ชุด ซึ่งเป็นสิ่งของที่ได้รับบริจาคจากข้าราชการตำรวจ ส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพุธที่ 19 ต.ค.ว่าที่ ร.ต.เลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี รับมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคกลาง เหนือ อีสาน จาก นายอนุชิต งามขจรวิวัฒน์ เจ้าของบริษัทปัตตานีคอนกรีต และกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์จังหวัดปัตตานี จำนวน 66,660 บาท
ว่าที่ ร.ต.เลิศเกียรติ กล่าวว่า แม้ จ.ปัตตานี จะเป็นหนึ่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีปัญหาความไม่สงบ แต่ก็ยังมีพี่น้องประชาชนที่ไม่นิ่งดูดายต่อปัญหาของเพื่อนร่วมชาติ จึงขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมบริจาค สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถโอนเงินเข้าบัญชีชื่อ “กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย จังหวัดปัตตานี” ธนาคารกรุงไทย สาขาปัตตานี บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 907-0-57882-4
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจยะลา 11 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา พ.ท.ธนุตม์ พิศาลสิทธิวัฒน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา 11 เป็นประธานในพิธีรับมอบเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยร่วมกับกองทัพบก (ทบ.) เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง โดยมีผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ผู้นำศาสนา และประชาชนเข้าร่วมบริจาคเป็นจำนวนมาก
ด้านความคืบหน้ากรณีสื่อมวลชน จ.ยะลาทุกแขนง ร่วมกับองค์กรภาคเอกชน ส่วนราชการ และ 8 อำเภอในพื้นที่ จ.ยะลา นำโดย นายสัมพันธ์ มูซอดี ประชาสัมพันธ์จังหวัด นายอับดุลการิม รามันห์สิริวงศ์ เลขาธิการสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย อาจารย์นรชัย เจริญวุฒิมงคล ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคยะลา ได้จัดกิจกรรม “สื่อยะลาช่วยผู้ประสบอุทกภัย” กระทั่งได้รับเงินบริจาคมากถึง 296,890 บาทนั้น
ล่าสุด นายอับดุลการิม ได้เป็นผู้แทนมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เพื่อโอนเข้าบัญชีช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบอุทุกภัยน้ำท่วมทางภาคกลางของสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว
ส่วนโครงการ “ธารน้ำใจชาวใต้ ซับน้ำตาช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคกลาง เหนือ อีสาน” ซึ่งดำเนินการโดยเครือข่ายสื่อมวลชน นักศึกษา และกลุ่มรักสันติ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดย นายตูแวดานียา มือรีงิง บรรณาธิการสำนักข่าวอามาน เปิดรับบริจาคจากสิ่งของและเงินสดจากผู้มีจิตศรัทธาทั้งที่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมยอดเงินบริจาคจนถึงวันอาทิตย์ที่ 23 ต.ค.2554 จำนวน 296,477 บาท พร้อมทั้งอาหารแห้ง เสื้อผ้า และน้ำดื่ม 1 คันรถสิบล้อ
สภาพอากาศชายแดนใต้อึมครึม-ทุกจังหวัดสั่งรับมืออุทกภัย
ด้านสภาพอากาศในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่องเกือบทุกวันกระจายทั่วทุกพื้นที่ โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ได้ออกประกาศเตือนให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงช่วงปลายเดือน ต.ค. โดยจะมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักโดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และบางส่วนของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ต.ค.ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปัตตานี สำนักงานชลประทานที่ 17 กรมชลประทาน หมู่ 4 ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา นายอนุรักษ์ ธีระโชติ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปัตตานี นายเสรี พาณิชกุลย์ นายอำเภอเมืองยะลา พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา สถานีอุตุนิยมวิทยายะลา องค์การบริหารส่วนตำบลตาเซะ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านวังกระ และชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 4 ต.ตาเซะ จำนวน 200 คน ได้ร่วมกันฝึกซ้อมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อุทกภัย และการให้ข้อมูลแก่ประชาชนจากภัยพิบัติธรรมชาติเพื่อเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินงานมีเอกภาพและประสิทธิภาพทันท่วงทีอย่างมีระบบ
ภายในงานมีกิจกรรมสาธิตการฝึกซ้อมระบบเตือนภัยของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ หอเตือนภัย การเตรียมอพยพชาวบ้านจากหมู่บ้านใน ต.ตาเซะ ไปยังศูนย์อพยพ การฝึกซ้อมการให้ความช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นในกรณีฉุกเฉินจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านวังกระ และการเตรียมพร้อมรับการเผชิญเหตุในภาวะไม่ปกติด้วย
วันอังคารที่ 18 ต.ค.ที่ห้องประชุมหลักเมือง ชั้น 2 อาคารศาลากลางจังหวัดยะลา (หลังเก่า) นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เรียกนายอำเภอทั้ง 8 อำเภอ หัวหน้าสำนักงานโครงการชลประทานยะลา (สำนักชลประทานที่ 17) หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยายะลา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ จ.ยะลา รวมประมาณ 200 คน เข้าร่วมประชุมเพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาปัญหาน้ำท่วม มาตรการเตือนภัย และมาตรการในการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนและระยะยาวในพื้นที่ เพื่อร่วมกันป้องกันและเตรียมความพร้อมของทุกฝ่ายทั้งก่อน ระหว่าง และหลังน้ำท่วม
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา กล่าวว่า เรื่องการป้องกันอุทกภัยในเขตเทศบาลนครยะลานั้น ผู้ว่าฯยะลา ได้เชิญหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมวางแผนแล้ว โดยในส่วนของเทศบาลนครยะลามีการแบ่งการทำงานเป็น 2 ส่วน คือ การป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมในเขตเทศบาล และการเปิดทางให้น้ำไหลได้สะดวกมากขึ้น
คาราวานรถโบราณร่วมต้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
อีกด้านหนึ่ง เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ต.ค.2554 กลุ่มอินเซาท์ (INSouth) หรือเครือข่ายบัณฑิตอาสาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้จัดกิจกรรม “Classic Rally Say No Emergency Decree; คาราวานรถโบราณรณรงค์คัดค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” ภายใต้สโลแกน “ร่วมขับไล่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อขับเคลื่อนสันติภาพที่ PATANI” โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 100 คน และรถโบราณจำนวน 80 คัน
ช่วงสายของวันที่ 22 ต.ค.ขบวนรถโบราณได้ออกแรลลี่จากต้นทางรอบตัวเมืองปัตตานี มุ่งสู่หลายอำเภอโดยรอบ และหลายทางที่บ้านอินเซาท์ โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้แก่
1.เครือข่ายประชาสังคม 17 องค์กรคัดค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 2.อินเซาท์ โลคัล (INSouth Local) หรือเครือข่ายบัณฑิตระดับปัญญาชนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีจิตอาสาอยากทำกิจกรรมเพื่อตอบแทนแผ่นดินเกิดของตนเอง
3.อินเซาท์ จูเนียร์ (INSouth Junior) หรือเครือข่ายเยาวชนระดับมัธยมศึกษาที่เป็นคณะกรรมการโรงเรียนสังกัดโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา และ 4.นิสิตนักศึกษาที่เป็นผู้ขับเคลื่อนกิจกรรมทางสังคมในนามสหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สนน.จชต.)
นายลีโอ เจ๊ะกือลี นายกอินเซาท์ กล่าวว่า เหตุผลสำคัญที่จัดการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เพราะไม่อาจทนฟังเหตุผลที่รัฐอ้างมาโดยตลอดว่าต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการยิง ระเบิด ฆ่ากันตาย และการก่อเหตุร้ายรายวัน เพื่อรักษาไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตยของรัฐ สร้างความมั่นคงของชาติ ปกป้องชีวิตทรัพย์สินและความปลอดภัยของประชาชน และเพื่อให้สังคมมีความสงบเรียบร้อย เพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมารัฐกลับล้มเหลว ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯสามารถสร้างความมั่นคง ปลอดภัย ปกป้องชีวิตและเลือดเนื้อของประชาชนได้จริง
สนน.จชต.จัดละหมาดฮายัต 7 ปีตากใบ
ขณะเดียวกัน สหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ สนน.จชต. ได้จัดโครงการ “หยุดละเมิดสิทธิมนุษยชน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” ภายใต้คอนเซปท์ “7 ปี รำลึกตากใบ...ละหมาดฮายัตอหิงสา” โดยจะรวมตัวกันไปประกอบพิธีทางศาสนาที่หน้า สภ.ตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อละหมาดฮายัตอหิงสา และอ่านจดหมายเปิดผนึกรำลึก 7 ปีเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ จนมีผู้เสียชีวิตระหว่างสลายการชุมนุมและเคลื่อนย้ายถึง 85 ศพ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ผู้นำศาสนาทั้งอิสลามและพุทธ ร่วมเป็นสักขีพยานการบริจาคเงินและสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่หน่วยเฉพาะกิจยะลา 11 อ.เมือง จ.ยะลา
2 คาราวานสิ่งของบรรเทาทุกข์จากศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้
3 ฝนตกแทบทุกวันครอบคลุมทุกพื้นที่ของสามจังหวัด ทำให้หน่วยราชการเตรียมรับมืออุทกภัย
4 สำนักข่าวอามานและกลุ่มองค์กรเครือข่ายตั้งโต๊ะรับบริจาคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่หน้าห้างโคลีเซียม อ.เมือง จ.ยะลา
5-7 คาราวานรถคลาสสิคคัดค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ