5 แคนดิเดต ผบ.ตร.ใหม่ "เอก-จักรทิพย์" ลุ้นชิงเก้าอี้
วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. ได้สั่งเลื่อนการประชุม ก.ต.ช.ออกไป ทำให้ยังไม่มีการพิจารณาผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร.คนใหม่ตามที่มีการคาดหมาย
ผบ.ตร.คนใหม่ที่จะมีการแต่งตั้งกันในเร็ววันนี้ แทน พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน นับเป็น ผบ.ตร.คนที่ 11 ตั้งแต่โอนกรมตำรวจ สังกัดกระทรวงมหาดไทย มาเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2541
การพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.ในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.นั้น เปลี่ยนแปลงหลักการไปจากเดิมใน 2 ประเด็นสำคัญ ตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 88/2557 ที่ให้แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ กล่าวคือ
1.เปลี่ยนผู้มีอำนาจเสนอชื่อ ผบ.ตร.คนใหม่ จากที่ให้นายกรัฐมนตรีคัดเลือกแล้วเสนอให้ ก.ต.ช.พิจารณาให้ความเห็นชอบ เป็นให้ ผบ.ตร.คนปัจจุบันเสนอชื่อให้ ก.ต.ช.พิจารณา
2.ข้าราชการตำรวจที่อยู่ในข่ายได้รับการเสนอชื่อ เปลี่ยนจากข้าราชการตำรวจยศ พลตำรวจเอก เป็นข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่ง จเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเท่านั้น ด้วยเหตุนี้นายตำรวจยศ พลตำรวจเอก ที่ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ10) และหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ จึงไม่อยู่ในข่ายได้รับการเสนอชื่อ
สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งในไลน์รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และจเรตำรวจแห่งชาติอยู่ในปัจจุบัน แต่ต้องเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้พร้อมกับ พลตำรวจเอกสมยศ จึงหมดสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อ ได้แก่
-พลตำรวจเอกชนินทร์ ปรีชาหาญ จเรตำรวจแห่งชาติ
-พลตำรวจเอกเรืองศักดิ์ จริตเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
-พลตำรวจเอกวรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ทำให้เหลือ พลตำรวจเอก ที่มีลุ้นเก้าอี้ผู้นำสีกากีอยู่เพียง 5 นาย เรียงตามลำดับอาวุโส ได้แก่
1.พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์
2.พลตำรวจเอก พงศพัศ พงษ์เจริญ
3.พลตำรวจเอก วุฒิ ลิปตพัลลภ
4.พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน
5.พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา
โดยทั้งหมดเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พลตำรวจเอกสมยศ ได้ให้ทุกคนจัดทำเอกสารแสดงวิสัยทัศน์คนละ 4 หน้ากระดาษเรียบร้อยแล้ว
เมื่อพิจารณาคุณสมบัติ จุดเด่น-จุดด้อย ของทั้ง 5 แคนดิเดต พบว่า
พลตำรวจเอก เอก เป็นนักเรียนนายร้อยอบรม เหลืออายุราชการอีก 1 ปี มีผลงานเด่นเรื่องปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ เชี่ยวชาญงานด้านกฎหมายเป็นพิเศษ เพราะจบนิติศาสตร์บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทั้งยังเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนวัดนวลนรดิศ โรงเรียนเดียวกับนายกฯประยุทธ์ด้วย
พลตำรวจเอก พงศพัศ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 31 รุ่นเดียวกับ พลตำรวจเอกสมยศ เหลืออายุราชการอีก 1 ปีเช่นกัน จัดเป็นนายตำรวจที่ภาพลักษณ์ดี ดีกรีดอกเตอร์จากต่างประเทศ พูดเก่ง เชี่ยวชาญงานประชาสัมพันธ์ มีผลงานโดดเด่นด้านปราบปรามยาเสพติดสมัยนั่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. แต่มีภาพใกล้ชิดกับฝ่ายการเมือง เพราะเคยลาออกไปลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคเพื่อไทย
พลตำรวจเอก วุฒิ เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีกนายหนึ่งที่ไม่ได้จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ มีอายุราชการยาวถึงปี 2560 เป็นน้องชายแท้ๆ ของ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นักการเมืองผู้มากคอนเนคชั่น เป็นศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียล และอัสสัมชัญธนบุรี มีความสามารถโดดเด่นด้านงานต่างประเทศ เคยเป็นผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว คุมงานจราจร และมีผลงานวางโครงสร้างตำรวจรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี
พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 35 อายุราชการยาวถึงปี 2562 เป็นบุตรเขยของ พลตำรวจเอกประชา พรหมนอก อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนแรก และอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เป็นหนึ่งในสวนกุหลาบคอนเนคชั่น เพราะจบจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย มีผลงานเด่นด้านปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการจับกุมแก๊งลักลอบตัดและค้าไม้พะยูง
พลตำรวจเอก จักรทิพย์ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36 อายุราชการเหลือเฟือถึงปี 2563 เป็นนายตำรวจมือประสานสิบทิศ มีคอนเนคชั่นกับฝ่ายการเมืองทุกขั้ว รวมทั้งสายทหาร เคยผ่านงานสำคัญอย่างผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ปัจจุบันคุมงานด้านความมั่นคงซึ่งเป็นหน้างานที่รัฐบาลยุค คสช.ให้ความสำคัญมากที่สุด รวมทั้งงานสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่านายตำรวจที่มีลุ้นมากที่สุดในช่วงโค้งสุดท้ายมี 2 นาย คือ พลตำรวจเอกเอก กับ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ โดยมี พลตำรวจเอกพงศพัศเป็นตัวสอดแทรก
แต่สิ่งที่ต้องไม่ลืมก็คือ ตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 88 ผู้ที่มีสิทธิเสนอชื่อ ผบ.ตร.คนใหม่ คือ ผบ.ตร.คนปัจจุบัน ซึ่ง พลตำรวจเอกเอก เคยขับเคี่ยวชิงตำแหน่ง ผบ.ตร.กับ พลตำรวจเอกสมยศ เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ พลตำรวจเอกพงศพัศ เป็นเรื่องร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 31 ส่วน พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ พลตำรวจเอกสมยศ และรับผิดชอบหน้างานเดียวกันขณะดำรงตำแหน่งรองผบ.ตร.
สุดท้ายใครจะก้าวขึ้น ผบ.ตร.คนที่ 11 อีกไม่กี่วันคงได้รู้กัน!
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : (จากซ้ายไปขวา) พลตำรวจเอกเอก, พลตำรวจเอกพงศพัศ, พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ, พลตำรวจเอกจักรทิพย์, พลตำรวจเอกวุฒิ
ขอบคุณ : ภาพต้นฉบับจากเว็บไซต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ