ครม. กำหนดฟื้นฟูอุทกภัยเป็นวาระชาติ เห็นชอบแผนฟื้นฟู 7 จังหวัดเร่งด่วน
ครม.เห็นชอบแผนฟื้นฟูผู้ประภัยเป็นวาระชาติ รับแผนเร่งด่วน 7 จังหวัด นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรีก่อน ส่วน ปราจีนบุรี สุพรรณบุรี นครราชสีมา ชัยภูมิ สั่งด่วนโยกงบไทยเข้มแข็ง 19 โครงการ 5 กระทรวง 1 สำนักร่วมแก้ อนุมัติช่วยชาวสวนยางทุกกลุ่มและปรับวงเงินเพิ่ม
วันที่ 9 พ.ย. 53 ที่อาคารรัฐสภา 2 นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามที่คณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) เสนอให้การฟื้นฟูผู้ประสบภัยและการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนเป็นวาระแห่งชาติ รวมทั้งมาตรการเร่งด่วน ระยะกลาง ระยะยาว และยังเห็นชอบแผนฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยตามที่ คชอ.เสนอมา 7 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี ลพบุรี ปราจีนบุรี สุพรรณบุรี นครราชสีมา ชัยภูมิ นครสวรรค์ ซึ่งจะดำเนินการในจังหวัดที่มีความพร้อมก่อนทันที ได้แก่ ลพบุรี นครสวรรค์ และสระบุรี
นายวัชระ ยังกล่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางภาคใต้ว่าเบื้องต้นเห็นชอบให้ใช้เกณฑ์ความช่วยเหลือครอบครัวละ 5,000 บาทกับผู้ประสบภัยน้ำท่วมและพายุในภาคใต้ ส่วนชาวสวนยางที่ประสบภัยครั้งนี้ มูลล่าสุดวันที่ 8 พย. มีพื้นที่เสียหายทั้งสิ้น 540,814 ไร่ แบ่งเป็นเสียหายจากน้ำท่วม 4.6 แสนไร่ และจาะวาตภัย 5.2 หมื่นไร่ ที่เหลือเสียหายจากส่วนอื่น ซึ่ง ครม.มีมติให้ช่วยเหลือทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง โดยให้กระทรวงเกษตรฯกลับไปดูรายละเอียดการปรับเงินช่วยเหลือใหม่จากที่เคยอนุมัติไป 17,000 บาทและเสนอเข้า ครม.สัปดาห์หน้า นอกจากนี้ยังให้ คอช.หารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเพื่อเข้าไปรับซื้อไม้ยางล้ม
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า นายกฯ ย้ำว่าให้นำงบฯเหลือจ่ายหรือเงินเหลื่อมปีของหน่วยราชการ 53,186 ล้านบาทมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกพื้นที่ ซึ่งจำนวนนี้เป็นงบโครงการของหน่วยงานที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนหรือไม่มีสัญญาผูกพัน ทั้งนี้สำนักงบประมาณจะทำรายละเอียดที่ชัดเจนเสนอ ครม.ภายใน 15 วัน นอกจากนี้ ครม.ยังพิจารณาการปรับงบเหลือจ่ายในโครงการไทยเข้มแข็งจำนวน 6,000 ล้านบาทมาใช้ฟื้นฟูหลังน้ำลดด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้หน่วยงานต่างๆที่เสนอขอใช้งบเข้ามาแล้ว 4,200 ล้านบาทกลับไปปรับปรุงโครงการใหม่ ส่วนงบที่เหลืออีก 2,300 ล้านบาทจะนำไปฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งนี้ในการประชุมครั้งได้เห็นชอบการปรับปรุงโครงการเข้ามาของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่วนที่เหลือคือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศึกษาธิการ มหาดไทย และสำนักนายกรัฐมนตรี ครม.ให้เร่งกลับไปทบทวนใหม่ .