จับตามูลนิธิ กปปส.“ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก”ป้อง คสช.ขาลง?
“…เรารู้ดีประเทศไทยในวันนี้ ต้องมีรัฐบาลอย่าง คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) ดูแลบ้านเมือง มันเลือกไม่ได้ ใครเถียงเราว่าไม่ใช่ประชาธิปไตย มันไม่ใช่ แต่เราอยู่ในประเทศนี้ เราต้องเคารพกฎเกณฑ์ในขณะนี้…”
“เรารู้ดีประเทศไทยในวันนี้ ต้องมีรัฐบาลอย่าง คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) ดูแลบ้านเมือง มันเลือกไม่ได้ ใครเถียงเราว่าไม่ใช่ประชาธิปไตย มันไม่ใช่ แต่เราอยู่ในประเทศนี้ เราต้องเคารพกฎเกณฑ์ในขณะนี้”
เป็นคำยืนยันของ “ทิดสุเทพ” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)
ที่วันนี้ผันตัวมาเป็นประธานกรรมการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย หรือเรียกสั้น ๆ ว่า มูลนิธิ กปปส.
ภายหลังหันหน้าเข้าสู่ร่มกาสาวพักตร์อยู่สวนโมกข์ จ.สุราษฎร์ธานี นานกว่า 378 วัน !
ทั้งนี้ในการจัดแถลงข่าวเปิดตัวมูลนิธิ กปปส. เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2558 “สุเทพ” ย้ำชัดว่า จะไม่พูดประเด็นเกี่ยวกับการเมือง หรือพูดในสิ่งที่คนจะนำไปวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงการเมืองอย่างเด็ดขาด
แต่ภายหลังร่ายยาวกว่า 30 นาที พบว่ามีประเด็นที่น่าสนใจ ในห้วงสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ อยู่หลายประเด็น
เพื่อขยายความให้ชัดขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เรียบเรียงมาให้เห็นภาพ ดังนี้
หนึ่ง บางห้วงบางตอนในการแถลงข่าว “สุเทพ” มีท่าทีแสดงความเห็นใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. อย่างมีนัยยะสำคัญ รวมถึงมีการพูดจาหว่านล้อมให้ “มวลมหาประชาชน” อย่าเพิ่ง “หมดศรัทธา” อีกด้วย
นอกเหนือจากตัวอย่างที่ยกไปข้างต้นที่ว่า “เรารู้ดีประเทศไทยในวันนี้ ต้องมีรัฐบาลอย่าง คสช. ดูแลบ้านเมือง มันเลือกไม่ได้ ใครเถียงเราว่าไม่ใช่ประชาธิปไตย มันไม่ใช่ แต่เราอยู่ในประเทศนี้ เราต้องเคารพกฎเกณฑ์ในขณะนี้”
ในการยืนยันจุดยืนมูลนิธิที่ว่า “จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและประชาชน หากจำเป็นที่เราจะต้องเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องประโยชน์ของประเทศไทยและประชาชนไทย เราก็จะทำ”
โดยยกตัวอย่างถึง องค์กรต่างประเทศหรือว่ารัฐบาลต่างชาติทั้งหลายที่ “ไม่เข้าใจ” คนไทยหรือสภาพของประเทศไทย ก็พร้อมจะ “บิน” ไปชี้แจงโดยทันที เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนไทย และประเทศไทย
แถมตั้ง “กษิต ภิรมย์” อดีต รมว.ต่างประเทศ ยุครัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกฯ ขึ้นแท่นหัวหน้าทีมชี้แจงอีกต่างหาก !
แม้จะบอกปัดคำถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า การกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็น “ล็อบบี้ยิสต์” ให้รัฐบาลหรือไม่ ?
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นับตั้งแต่รัฐประหาร “รัฐนาวาท็อปบู้ต” ถูกต่างประเทศโจมตีทุกวัน โดยเฉพาะ “ล็อบบี้ยิสต์” จากฝั่ง “คนแดนไกล” ไล่บี้ไล่ชนอยู่ตลอด
ประจวบเหมาะที่ว่า ก่อนหน้านี้ “ดอน ปรมัตถ์วินัย” รมช.ต่างประเทศ ออกมายืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่จ้าง “ล็อบบี้ยิสต์” เพื่อสู้เกมสื่อต่างประเทศแต่อย่างใด ?
(อ่านประกอบ : “ดอน ปรมัตถ์วินัย” ไขปริศนาเหตุไฉน“บิ๊กตู่” ไม่จ้าง“ล็อบบี้ยิสต์”เดินเกมเวทีโลก, “บิ๊กตู่”ปูดบางสื่อล็อบบี้กลุ่มเคลื่อนไหวต้านรบ.ทำต่างประเทศได้ข้อมูลผิด)
เท่ากับว่า การประกาศจุดยืนเช่นนี้ ถือว่าทดแทนการจ้าง “ล็อบบี้ยิสต์” ให้กับรัฐบาล “บิ๊กตู่” ได้เป็นอย่างดี
สอง “สุเทพ” ยืนยันถึง “เจตนารมณ์” ของ “มวลมหาประชาชน” ในการปฏิรูป ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ก็ตาม ?
เท่ากับจุดไฟ “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” ให้โหมกระหน่ำขึ้นมาอีกครั้ง ปลุกใจ “มวลมหาประชาชน” ให้เชื่อมั่นในรัฐบาลชุดนี้อย่างเต็มที่
ลั่นวาจา “ปฏิรูปต้องเสร็จในรัฐบาลชุดนี้” และถ้าไม่เสร็จ หากมีเลือกตั้งก็จะกลับสู่วังวนเดิม ๆ อีก
ไม่สนใจ “โร้ดแม็พ-ไทม์ไลน์” ใด ๆ ทั้งสิ้น !
สาม แม้จะออกตัวว่าไม่เป็น “ปฏิปักษ์” กับองค์กรขั้วตรงข้ามที่ไม่ระบุชื่อ แต่ก็ทราบกันอย่างชัดเจนว่าคือ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงอื่น ๆ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีการปะทะกันอย่างแน่นอนก็ตาม
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หากมีการปลุกระดมจาก “มือที่สาม” ให้มวลชนทั้ง “สองขั้ว” มาปะทะกันอีกครั้ง
จะเท่ากับเป็นการจุดชนวนความขัดแย้งให้ลุกโชนยิ่งขึ้น และเป็นข้ออ้างในการอยู่ต่อของ คสช. ได้อีกเรื่อย ๆ เพราะประเทศยังไม่ “สงบเรียบร้อย” ตามคอนเซ็ปต์ที่ว่า “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน”
สี่ ที่น่าสนใจคือการแถลงข่าว “สุเทพ” ลั่นชัดว่า “ไม่กลับไปเป็นนักการเมือง และเข้าร่วมสังฆกรรมกับพรรคประชาธิปัตย์อีกต่อไป”
นอกจากนี้ยังระบุถึงทิศทางของมูลนิธิ กปปส. ด้วยว่าอนาคตอาจแตกต่างกับจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ด้วยก็ได้ ?
อย่างไรก็ดีคำพูดดังกล่าวของ “สุเทพ” ช่างขัดตากับงานแถลงข่าวที่คลาคล่ำไปด้วยอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ต่างเคยขึ้นเวทีม็อบ กปปส. เข้ามาฟังด้วยหลายราย
และเมื่อดูท่าทีของ “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” ในฐานะรองประธานกรรมการมูลนิธิ กปปส. ที่ให้สัมภาษณ์แบ่งรับแบ่งสู้ว่า หากมีการเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้ กรรมการมูลนิธิฯ จะลาออกไปสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. อีกหรือไม่ ?
พร้อมเปิดประตูว่า ปัจจุบันมีกรรมการมูลนิธิอีกหลายรายที่ยังไม่พ้นสมาชิกสภาพพรรคประชาธิปัตย์ มีคนที่พ้นไปเพียง 5 ราย เนื่องจาก “บวช” เท่านั้น
แถมอ้ำอึ้งกับคำถามที่ว่า “บทบาท” ของมูลนิธินี้ จะสิ้นสุดแค่เพียงการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ อีกด้วย
ประกอบกับเบื้องต้นที่ “สุเทพ” เรียกร้องเชิญชวนให้บรรดา “แฟนคลับ” เข้ามาร่วมเป็น “เจ้าของ” มูลนิธิ พร้อมกับส่งสัญญาณไปว่า หากมาเป็นต้อง “รับผิดชอบ” ไม่ว่าจะด้านกิจกรรมต่าง ๆ หรือค่าใช้จ่ายด้วยแล้ว
นับว่าเข้าเค้าไม่น้อย หากมีการเลือกตั้ง กรรมการมูลนิธิชุดนี้ พร้อมจะถอดชุดกระโจนลงสนามเลือกตั้งอีกครั้ง ?
ทั้งหมดคือประเด็นสำคัญที่เกี่ยวพันกับ “การเมือง” ในการแถลงข่าวครั้งนี้
แม้ว่า “สุเทพ” จะย้ำนักย้ำหนาว่าจะ “ไม่แตะ” ประเด็นการเมืองเลยก็ตาม !
อ่านประกอบ :
“สาทิตย์”อุบไต๋กรรมการมูลนิธิ กปปส. ลงสมัครเลือกตั้งยันเป็นเรื่องอนาคต
เปิดตัวมูลนิธิกปปส.“สุเทพ”ลั่นคสช. ต้องดูแลปท.-ปฏิรูปให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง