ชัด ๆ 5 ข้อร้อง“ธีรภัทร์”ปมสมาชิกสภาพัฒนาการเมืองหมิ่นศักดิ์ศรี จนท.?
“…มีคณะกรรมการฯอย่างน้อย 7 คน ได้แสดงความไม่พอใจต่อประเด็นการจ่ายเบี้ยประชุมและการปฏิบัติงานของฝ่ายเลขานุการ ด้วยการใช้กิริยา ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม เหน็บแนม ส่อเสียดอันเป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กระทบต่อขวัญกำลังใจในการทำงานโดยสุจริตของพนักงานและเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน…”
ชื่อของ “สภาพัฒนาการเมือง” ได้รับการจับตาจากสาธารณชนอีกครั้ง !
ภายหลังพนักงานและเจ้าหน้าที่สำนักงานสภาพัฒนาการเมืองหลายสิบชีวิต ทำหนังสือร้องเรียนถึง “ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์” ประธานสภาพัฒนาการเมือง
โดยระบุว่า มีสมาชิกสภาพัฒนาการเมือง “บางราย” ดูหมิ่นศักด์ศรีความเป็นมนุษย์ ในประเด็นการจ่ายเบี้ยประชุม !
นอกจากนี้ยังร้องเรียนด้วยว่า มีสมาชิกฯบางรายมีพฤติกรรมส่อไปในแสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเองอีกด้วย
เพื่อขยายความให้ชัดขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปประเด็นสำคัญในหนังสือร้องเรียนดังกล่าว มานำเสนอต่อสาธารณชนให้ทราบกัน ดังนี้
หนังสือดังกล่าว ระบุว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่สภาพัฒนาการเมืองในชุดที่ 1 แม้แต่กระทั่งสมาชิกสภาชุดที่ 2 ในช่วงแรกการทำงานระหว่างสมาชิกสภาพัฒนาการเมือง และสำนักงานฯก็มีข้อขัดแย้งกันบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ก็สามารถแก้ไขปัญหาเพื่อแสวงหาทางออกการทำงานร่วมกันได้โดยไมตรีจิตรกันเสมอมา ฝ่ายสำนักงานฯ กับฝ่ายสภาพัฒนาการเมือง ทำงานร่วมกัน ทั้งในฐานะฝ่ายขับเคลื่อนและสนับสนุน มีความสัมพันธ์ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน อะไรที่ช่วยเหลือกันได้ก็ปฏิบัติสนับสนุนกันเรื่อยมา
ก่อนนี้เรารู้สึกกับท่านสมาชิกฯเหมือนญาติผู้ใหญ่ เราเรียกคำนำหน้าท่านด้วยสรรพนามที่แทนความเป็นญาติพี่น้องกัน ด้วยคำว่า พ่อบ้าง แม่บ้าง ลุงบ้าง ป้าบ้าง พี่บ้าง เพื่อเป็นการแสดงถึงความเป็นอันเอง และความเคารพซึ่งกันและกัน และสมาชิกหลายท่านเองก็มองพวกเราเหมือนลูกหลาน พี่น้องเช่นกัน
แต่ตามข้อเท็จจริงได้ปรากฏความขัดแย้งขึ้นระหว่างคณะกรรมการพัฒนาการเมือง และสำนักแผนพัฒนาการเมืองในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการดังกล่าว ตามเหตุการณ์ในวันที่ 7 ก.ค. 2558 โดยมีคณะกรรมการดังกล่าวอย่างน้อย 7 คน
ได้แสดงความไม่พอใจต่อประเด็นการจ่ายเบี้ยประชุมและการปฏิบัติงานของฝ่ายเลขานุการ ด้วยการใช้กิริยา ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม เหน็บแนม ส่อเสียดอันเป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กระทบต่อขวัญกำลังใจในการทำงานโดยสุจริตของพนักงานและเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน อีกทั้งมีการกระทำของคณะกรรมการบางคนนำมาซึ่งความอึดอัดต่อการปฏิบัติงาน ก่อให้เกิดการทำงานที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวง ซึ่งกันและกัน
อีกทั้งในห้วงเวลาที่ผ่านมา สมาชิกบางคนมีพฤติกรรมที่ส่อให้เข้าใจได้ว่า มีการแสวงหาผลประโยชน์มิชอบ
เช่น การเบิกจ่ายค่าเดินทางและการเบิกจ่ายค่าที่พัก ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง จนเป็นเหตุให้มีการสอบสวนโดยคณะกรรมการจริยธรรม และมีมติลงโทษการตักเตือน ก่อให้เกิดข้อกังขาต่อกระบวนการสอบสวนทางจริยธรรมของสภาพัฒนาการเมือง
เนื่องจากหากเทียบกับข้าราชการ โดยอ้างอิงจาก หนังสือเวียนของสำนักเลขาธิการ ครม.ที่ นร 0205/ว234 วันที่ 24 ธ.ค. 2536 ความว่า “ข้าราชการที่ทุจริตต่อหน้าที่ต้องลงโทษไล่ออกจากราชการ เหตุอันควรปรานีใด ๆ ไม่เป็นเหตุลดหย่อนโทษลงเป็นการปลอดออกจากราชการ”
ดังนั้น การกระทำเช่นนี้ อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสภาพัฒนาการเมือง โดยภาพรวมที่สังคมอาจมองได้ว่าสภาพัฒนาการเมืองมีหน้าที่ส่งเสริมการพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่กลับกลายเป็นว่า สภาพัฒนาการเมืองไม่ได้ใส่ใจและให้ความสำคัญในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น และเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย แค่ลงโทษตักเตือนก็พอ
ทั้งนี้เพื่อมิให้ปัญหาดังกล่าวเกิดเป็นรอยร้าวในการทำงานระหว่างกันอันจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของสภาพัฒนาการเมือง ในช่วงปีสุดท้ายของวาระสมาชิกสภาพัฒนาการเมืองชุดที่ 2 พนักงานและเจ้าหน้าที่สำนักงานสภาพัฒนาการเมือง ขอวิงวอนและเรียกร้องไปยังท่านประธานสภาพัฒนาการเมือง ประธานคณะกรรมการบริหารสำนักงาน คณะกรรมการอิสระติดตามและประเมินผลฯ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และท่านสมาชิกสภาพัฒนาการเมืองทุกท่าน ได้โปรดรับฟังข้อเรียกร้องและขอให้แสวงหาแนวทางการแก้ไขปัญหา ดังต่อไปนี้
หนึ่ง ให้สมาชิกสภาพัฒนาการเมืองปฏิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงหลักสุจริต หลักคุณธรรม จริยธรรม ธรรมาภิบาล มีอุดมการณ์ในการทำงาน โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน และชุมชนเหนือประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง และไม่กระทำการใด ๆ ที่เป็นการทุจริต
สอง ให้สมาชิกสภาพัฒนาการเมืองปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์กับผู้ปฏิบัติงาน ไม่แสดงกิริยา วาจาที่ไม่เหมาะสม ใช้คำพูดส่อเสียด หรือใส่ความให้ร้ายผู้ปฏิบัติงาน โดยปราศจากข้อเท็จจริง
สาม ขอให้ท่านหามาตรการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความคุ้มครอง ปกป้องพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต
สี่ ขอให้ท่านมีมาตรการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่เกิดขึ้นข้างต้นอย่างเหมาะสม และสร้างความเป็นธรรมให้กับพนักงานเจ้าหน้าที่
ห้า ขอให้สมาชิกสภาพัฒนาการเมืองดำเนินงานโดยยึดถือประโยชน์ส่วนรวม และเป้าหมายของสภาพัฒนาการเมืองที่ตั้งไว้
เราพนักงานเจ้าหน้าที่ จะรอรับฟังมาตรการจากท่านทั้งหลายในการจัดการกับประเด็นปัญหา และข้อเรียกร้องต่าง ๆ ของเราอย่างตั้งใจ ระหว่างนั้นเรายังคงปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถตามภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเช่นเดิม และเราจะกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนของเราว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ภายหลังที่ได้รับทราบแนวทางที่ชัดเจนจากท่านต่อไป
ล่าสุด “ธีรภัทร์” ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ยืนยันว่า มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้แล้ว ก่อนอธิบายเสริมว่า เป็นเรื่องการประสานงานที่คลาดเคลื่อน ทำให้เข้าใจผิดกัน
พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ?
ทั้งหมดคือ “ปัญหา” ที่กำลัง “คุกรุ่น” ในสภาพัฒนาการเมืองขณะนี้ !
อ่านประกอบ :
ร้องสมาชิกสภาพัฒนาการเมืองดูหมิ่นศักดิ์ศรี จนท.-“ธีรภัทร์”รับตั้ง กก.สอบแล้ว
ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต! “ธีรภัทร์”เคลียร์ปมสมาชิกสภาพัฒนาการเมืองหมิ่น จนท.