เจาะปฏิบัติการกวาดล้าง"มัคคุเทศก์"เถื่อน! บริษัททัวร์ 1.1 หมื่นราย เบี้ยวส่งข้อมูลรัฐ?
"...ในส่วนของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ไม่ได้นำส่งรายชื่อมัคคุเทศก์และรายชื่อชาวต่างชาติที่จ้างงาน ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 11,695 ราย กรมการท่องเที่ยวจะดำเนินการตรวจสอบว่ามีการจ้างมัคคุเทศก์ผิดกฎหมายหรือไม่ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป.."
ดูเหมือนว่า ปัญหาการใช้มัคคุเทศก์เถื่อนที่ไม่ได้รับใบอนุญาต ปัญหาคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาประกอบอาชีพเป็นมัคคุเทศก์ และการเข้ามาประกอบธุรกิจนำเที่ยวในประเทศไทย ของชาวต่างชาติ โดยการตั้งคนไทยเป็นตัวแทนในการบริหารงาน หรือที่เรียกว่า "นอมินี" กำลังเป็นปัญหาใหญ่ ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจ และต้องการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ
เห็นได้จาก ท่าที ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ออกมาขานรับนโยบายของรัฐบาลในการตรวจสอบปัญหาเรื่อง มัคคุเทศก์ อย่างเต็มที่ (ทั้งที่ ในข้อเท็จจริงเป็นงานประจำที่อยู่ในความรับผิดชอบอยู่แล้ว?)
โดยผลจากการแจ้งให้ มัคคุเทศก์ ทุกคนมารายงานตัว ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.57-31 ม.ค.58 ที่ผ่านมา เพื่อสำรวจข้อมูลสถานะปัจจุบันของมัคคุเทศก์ ที่ได้รับใบอนุญาตทั้งสิ้น 52,956 ราย
ปรากฎว่า มีมัคคุเทศก์ มารายงานตัว เป็นจำนวนแค่ 17,765 ราย โดยในจำนวนนี้ มีผู้ที่ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์เป็นอาชีพหลัก 8,636 ราย ผู้ที่ประกอบอาชีพเป็นบางครั้งบางคราว จำนวน 7,620 ราย และผู้ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์เลย จำนวน 1,509 ราย
ส่วนการทำหนังสือแจ้งให้ผู้ประกอบการนำเที่ยว นำส่งรายชื่อมัคคุเทศก์ที่ปฏิบัติงาน และรายชื่อชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงาน ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.2557 -31 ม.ค.58 ที่ผ่านมา
ปรากฎว่า มีผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ส่งรายชื่อมัคคุเทศก์และชาวต่างชาติมาให้ จำนวนแค่ 1,005 ราย จากจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวทั้งหมด 12,700 ราย
ขณะที่ในจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว 1,005 ราย ที่ส่งข้อมูลมาให้พบว่า มีผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวที่มีการจ้างงานมัคคุเทศก์ ในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 7,373 ราย และมีชาวต่างชาติปฏิบัติงานในบริษัทนำเที่ยวรวมทั้งสิ้น 1,116 ราย โดยชาวต่างชาติส่วนใหญ่ทำหน้าที่ผู้ประสานงาน ผู้จัดการทั่วไป และผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด ทั้งนี้ พบว่า ไม่มีการว่าจ้างชาวต่างชาติทำหน้าที่มัคคุเทศก์
แต่ในส่วนของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ไม่ได้นำส่งรายชื่อมัคคุเทศก์และรายชื่อชาวต่างชาติ ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 11,695 ราย กรมการท่องเที่ยวจะดำเนินการตรวจสอบว่ามีการจ้างมัคคุเทศก์ผิดกฎหมายหรือไม่ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
(โดยในส่วนของ บริษัทเอกชน จำนวน 4 ราย ประกอบไปด้วย 1.บริษัท เถิงเฟย ทัวร์ จำกัด 2.บริษัท ไทย จง หัว ทราเวล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด 3. บริษัท หลงไท้ ทราเวล จำกัด และ 4. บริษัท หวัง เหม่ย ฮอลิเดย์ ทราเวล (ไทยแลนด์) จำกัด ถูกตรวจสอบพบว่า ใช้ผู้ไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ นำคณะทัวร์ ท่องเที่ยว และปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการขยายผลตรวจสอบประเด็นเรื่องการดำเนินการในลักษณะตัวแทนอำพราง (นอมินี))
ส่วนกฎหมายที่นำมาใช้ในการตรวจสอบเรื่องนี้ คือ พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 มีมาตราดังต่อไปนี้
มาตรา 17 ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวซึ่งเป็นนิติบุคคลต้อง
(ก) เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินกิจการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวถ้าเป็นห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยถ้าเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ทุนของบริษัทไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบเอ็ดต้องเป็นของบุคคลธรรมดาซึ่งมีสัญชาติไทย และกรรมการของบริษัทเกินกึ่งหนึ่งต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย
มาตรา 31 ห้ามไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจัดบริการนำเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับค่าบริการหรือรับค่าบริการในอัตราที่เห็นได้ว่าไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
มาตรา 32 ห้ามไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวมอบหมายให้มัคคุเทศก์ ผู้นำเที่ยวหรือบุคคลอื่นใด นำนักท่องเที่ยวในความรับผิดชอบของตนไปท่องเที่ยว โดยเรียกเก็บเงินจากมัคคุเทศก์ผู้นำเที่ยว หรือบุคคลอื่นนั้น หรือโดยให้บุคคลดังกล่าวรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าเดินทางค่าที่พัก ค่าอาหาร หรือค่าอำนวยความสะดวกอื่นใดของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
มาตรา 33 ในการจัดให้มีมัคคุเทศก์หรือผู้นำเที่ยวเดินทางไปกับนักท่องเที่ยวผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องใช้มัคคุเทศก์ซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์หรือผู้นำเที่ยวซึ่งได้ขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัตินี้ แล้วแต่กรณีในการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ของมัคคุเทศก์หรือผู้นำเที่ยวตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าเป็นการกระทำในทางการที่จ้างของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว
บทลงโทษ
มาตรา 84 ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 31 หรือมาตรา 32 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 85 ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 33 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท
มาตรา 86 ผู้ใดทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ หรือทำหน้าที่มัคคุเทศก์ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนงานพัฒนาศักยภาพมัคคุเทศก์ไทย ก็มีการจัดทำโครงการไปแล้วหลายส่วน แต่ในส่วนมัคคุเทศก์ ที่มีแนวโน้มจะขาดแคลนขึ้นได้แก่ ภาษารัสเซีย ภาษาเกาหลี ภาษาฮินดี ภาษาเวียดนาม ไม่เพียงพอต่อการรองรับนักท่องเที่ยว
ทั้งหมดนี่ คือ มาตรการแก้ไขปัญหา มัคคุเทศก์ และบริษัททัวร์เถื่อน ที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กำลังบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น ทั้ง ตำรวจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
ส่วนจะสามารถแก้ไขนำไปสู่การกวาดล้าง มัคคุเทศก์ และบริษัททัวร์เถื่อน ที่ "ขยายตัวเป็นดอกเห็ด" ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาได้หรือไม่
คงต้องติดตามดูกันต่อไป อย่างใกล้ชิด!