สถานกงสุลไทยในตุรกีถูกบุก! หลังรัฐบาลส่ง "อุยกูร์" ร่วมร้อยให้จีน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยอมรับ สถานกงสุลไทยในตุรกีถูกบุกทำลายข้าวของจริง เผยเหตุไม่พอใจรัฐบาลไทยส่งมุสลิมอุยกูร์ร่วมร้อยชีวิตให้จีน
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอังการา ประเทศตุรกี ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ค ขอให้คนไทยเพิ่มความระมัดระวังตัว เพราะเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษที่ผ่านมา สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ถูกกลุ่มคนจำนวนหนึ่งบุกรุกเข้าไปในสำนักงาน แล้วทำลายประตูและสิ่งของ โดยเหตุการณ์นี้เป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อการดำเนินการของไทยในเรื่องชาวอุยกูร์ที่เข้าไทยโดยผิดกฏหมาย
แถลงการณ์ยังระบุว่า ขอให้คนไทยทุกคนระวังตัว หลีกเลี่ยงการกล่าวถึงหรือโต้เถียงใดๆ ในเรื่องนี้ และติดตามข่าวสารจากสถานเอกอัครราชทูตอย่างใกล้ชิด ขณะที่สถานกงสุลจะปิดทำการในวันนี้ 1 วัน
จากการตรวจสอบเฟซบุ๊คของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอังการา ยังพบว่าได้มีการแจ้งเตือนการแสดงออกถึงความไม่พอใจไทยต่อการดำเนินการเรื่องอุยกูร์มาเป็นระยะ โดยให้คนไทยระวังตัวและเพิ่มมาตรการดูแลทรัพย์สินตลอดจนร้านค้าของตน
สำหรับกระแสความไม่พอใจนี้ขยายวงมาจากกระแสต่อต้านประเทศจีนซึ่งมีอยู่ก่อนแล้วในตุรกี จากกรณีที่จีนดำเนินนโยบายเชิงลบต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ในจีนซึ่งส่วนใหญ่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในมณฑลซินเจียง มณฑลขนาดใหญ่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
เปิดปมต้นเหตุส่งอุยกูร์ให้จีน
ต่อมา นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ออกมายอมรับข่าวสถานกงสุลไทย ณ นครอิสตันบูล ถูกกลุ่มคนบุกทำลายข้าวของ แต่ยืนยันว่าคนไทย 1,300 คนที่พำนักในตุรกียังปลอดภัย
สำหรับสาเหตุที่เกิดกระแสความไม่พอใจของชาวตุรกีต่อรัฐบาลไทย จนนำมาสู่การบุกสถานกงสุลฯนั้น เป็นเพราะมีข่าวว่าทางการไทยเพิ่งส่งมุสลิมอุยกูร์ที่เป็นผู้ชายประมาณ 90 คนให้กับทางการจีนเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดรัฐบาลโดย พันเอกวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแถลงยอมรับว่า ทางการไทยตัดสินใจส่งตัวมุสลิมอุยกูร์ให้ประเทศจีน โดยมีหลักประกันเรื่องความปลอดภัย
ขณะที่ "ทีมข่าวอิศรา" ได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่กักตัวมุสลิมอุยกูร์ผู้ชายที่จังหวัดสงขลา พบว่าถูกส่งตัวออกนอกพื้นที่ไปหมดแล้ว คงเหลือเพียง 23 คนจากร่วมๆ 100 คน คาดว่าเพิ่งถูกส่งไปประเทศจีนตามที่รัฐบาลแถลง
ส่งผู้หญิง-เด็กให้ตุรกี ผู้ชายไปจีน!
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม รัฐบาลไทยเพิ่งได้ส่งตัวมุสลิมอุยกูร์ ซึ่งเป็นผู้หญิงและเด็ก จำนวน 170 คนให้กับรัฐบาลตุรกี โดยกลุ่มคนดังกล่าวได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากรัฐบาลและประชาชนชาวตุรกีซึ่งมีจำนวนไม่น้อยที่เป็นเชื้อสายอุยกูร์ การดำเนินการครั้งนั้นของไทยได้รับการขานรับจากองค์กรระหว่างประเทศและองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลก แต่การส่งตัวมุสลิมอุยกูร์ผู้ชายให้ทางการจีนล่าสุด ไทยอาจต้องเผชิญกระแสกดดันอีกด้านหนึ่ง
นายสุณัย ผาสุก ผู้ประสานงานฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ากังวลมากที่ไทยตัดสินใจส่งมุสลิมอุยกูร์จำนวนไม่น้อยกว่า 90 คนไปให้จีนตามแรงกดดันของจีน ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจนว่ารัฐบาลจีนถือว่าชาวอุยกูร์เป็นศัตรูต่อรัฐ มีรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งสังหาร ทำร้าย ทรมาน และบังคับให้สูญหายอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นการอ้างหลักประกันเรื่องความปลอดภัยในการส่งตัวให้จีน จึงไม่อาจยอมรับได้
ไทยส่อผิดกติกาสากล 2 ข้อ
นายสุณัย กล่าวต่อว่า หนำซ้ำเมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมการส่งมุสลิมอุยกูร์ไปจีนช่วงกลางดึก โดยไม่ปรึกษาหารือกับองค์กรผู้เชี่ยวชาญอย่างยูเอ็นเอชซีอาร์ หรือ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติก่อน ยิ่งเพิ่มความน่ากังวล และมีโอกาสที่รัฐบาลไทยจะถูกกล่าวหาในแง่ของการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศที่ห้ามส่งตัวบุคคลกลับไปเผชิญอันตราย
รวมทั้งยังอาจขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี ซึ่งไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย เท่ากับไทยละเมิดกติการะหว่างประเทศถึง 2 ข้อ และผลประโยชน์ของไทยในตุรกีก็อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงอย่างมาก
ย้อนเส้นทาง 1 ปีมุสลิมอุยกูร์ลอบเข้าไทย
อนึ่ง มุสลิมอุยกูร์กลุ่มนี้ ถูกระบุจากทางการไทยว่าเป็น "มุสลิมไม่ทราบสัญชาติ" ถูกพบตัวในสวนยางพารา เขตรอยต่อระหว่างอำเภอรัตภูมิกับอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2557 และหลังจากนั้นยังพบมุสลิมไม่ทราบสัญชาติซึ่งคาดว่าเป็นกลุ่มเดียวกันอีกหลายครั้ง รวมแล้วหลายร้อยคน
ตลอด 1 ปีเศษที่ผ่านมา ทางการไทยกักตัวมุสลิมกลุ่มนี้ไว้ โดยแยกกักผู้ชายไว้ในห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ส่วนผู้หญิงและเด็กให้อยู่ในความดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพราะไม่สามารถผลักดันออกนอกประเทศได้ เนื่องจากไม่ทราบประเทศต้นทางของมุสลิมกลุ่มนี้
ที่ผ่านมามีความพยายามพิสูจน์สัญชาติ โดยมี 2 ประเทศเข้ามาดำเนินการตรวจสอบ คือ
1.ประเทศตุรกี สืบเนื่องจากมุสลิมไม่ทราบสัญชาติทั้งหมดอ้างตัวว่าเป็นชาวตุรกี
2.ประเทศจีน เพราะทางการจีนเชื่อว่ามุสลิมกลุ่มนี้น่าจะเป็นมุสลิมอุยกูร์ ซึ่งเป็นชนเผ่าหนึ่งที่อาศัยในมณฑลซินเจียง (เขตปกครองตนเองซินเจียง-อุยกูร์) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน และมีปัญหาความขัดแย้งกับชาวฮั่นซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ของจีน มีการปะทะและก่อเหตุรุนแรงขึ้นเป็นระยะ ทำให้ทางการจีนต้องการขอรับตัวทั้งหมดกลับประเทศ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ภาพข่าวจากสื่อตุรกี เป็นคลิปวีดีโอที่อ้างว่าเป็นเหตุการณ์กลุ่มบุคคลเข้าทุบทำลายข้าวของในสถานกงสุลไทย ณ นครอิสตันบูล
อ่านประกอบ :