กฤษฎีกาชี้กฟผ.ไม่มีอำนาจค้ำประกันเงินกู้ให้EGATi
คณะกรรมการกฤษฎีกา ชี้ กฟผ.ไม่มีอำนาจค้ำประกันเงินกู้ให้บริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ EGATi ย้ำมาตรา 9 (6) ให้อำนาจในการลงทุนและกู้ยืมแต่ไม่ได้ให้อำนาจในการค้ำประกัน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรารายงานว่า เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มีบันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรื่อง อำนาจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในการค้ำประกันการกู้เงิน เรื่องเสร็จที่ 1007/2558 ว่า ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้มีหนังสือ ด่วนมากที่ กฟผ.933000/3987 ลงวันที่ 22 มกราคม 2557 ถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรณีที่ กฟผ.ได้จัดตั้งบริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (EGATi) เพื่อเป็นตัวแทนของกฟผ. ในการลงทุนในโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าหรือธุรกิจอื่นที่เกี่ยวกับหรือต่อเนื่องกับกิจการของกฟผ.ในต่างประเทศ เพื่อดำเนินกิจการภายในตามวัตถุประสงค์ของกฟผ.ตามมาตรา 6 (2ทวิ)
ทั้งนี้การดำเนินธุรกิจของ EGATi ต้องมีการกู้ยืมทั้งในระยะสั้นและระยะยาวจากสถาบันการเงินเพื่อนำมาพัฒนาโครงการในขั้นต้น และการเตรียมเงินในกรณีการเข้าซื้อกิจการก่อนการได้รับเพิ่มทุนจาก กฟผ.
แต่เนื่องจาก EGATi เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่มีรายได้ยังไม่แน่นอนและไม่มีทรัพย์สินเพียงพอที่จะใช้เป็นหลักประกันการชำระหนี้ในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน กฟผ.จึงขอหารือในฐานะที่ กฟผ.ถือหุ้นของEGATi จะขอค้ำประกันเงินกู้ของEGATi โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 9 (10) แห่งพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2535 ที่บัญญัติให้กฟผ. มีอำนาจกระทำการอย่างอื่นที่เกี่ยวกับการจัดการให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของกฟผ. ตามมาตรา 6 (2 ทวิ) ได้หรือไม่
โดยคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 5) ได้พิจารณาข้อหารือดังกล่าว ทั้งนี้มีผู้แทนจากกระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจและสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ) ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และผู้แทนบริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้ชี้แจ้งข้อเท็จจริง และคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่าการตีความบทบัญญัติมาตรา 9 จะต้องมีการตีความโดยเคร่งครัดเพราะการที่กฎหมายบัญญัติรายละเอียดเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของกฟผ.ไว้โดยเฉพาะ แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ประสงค์จะให้กฟผ.ดำเนินการเฉพาะกรณีที่ได้บัญญัติไว้โดยชัดเจนเท่านั้น
คณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่า มาตรา 9 (6) บัญญัติให้กฟผ.มีอำนาจกู้ยืมเงินหรือลงทุน โดยไม่ได้ให้อำนาจในการค้ำประกันการกู้เงินไว้ และไม่มีอนุมาตรอื่นใดที่ให้อำนาจกฟผ.ค้ำประกันการกู้เงินไว้อย่างชัดเจน จึงเห็นว่ากฎหมายไม่ประสงค์ให้กฟผ.มีอำนาจดังกล่าว และแม้ในมาตรา 9 (10) จะบัญญัติให้กฟผ.มีอำนาจกระทำการอย่างอื่นบรรดาที่เกี่ยวกับการจัดการให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของกฟผ. แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า กฟผ.จะกระทำการใดๆได้ มิฉะนั้นก็จะเป็นการตีความที่ขัดต่ออำนาจหน้าที่ที่บัญญัติไว้โดยชัดเจน
คณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุด้วยว่า การตีความมาตรา 9 (10) ต้องตีความอย่างแคบโดยอยู่ภายใต้กรอบของบทบัญญัติมาตรา 9 (1)ถึง (9) ด้วย และจะตีความโดยขยายความไม่ได้ ดังนั้น อำนาจของกฟผ.ตามมาตรา 9 (10) จึงไม่รวมถึงการค้ำประกันเงินกู้ กฟผ.ไม่อาจอาศัยอำนาจตามมาตรา 9 (10) ในการค้ำประกันเงินกู้ของบริษัทกฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัดได้