ชาวบ้านมาบตาพุด ยื่นศาลค้าน “การนิคมฯปล่อย บ.ทีโอซี เดินเครื่องต่อ”
สภาทนายฯ-ส.โลกร้อน เป็นตัวแทนชาวบ้านมาบตาพุด ยื่นศาลปกครองสูงสุด “ค้านการนิคมอุตฯ ฝืนมติ คกก.อิสระสิ่งแวดล้อม กรณีปล่อยโรงงานของทีโอซี เดินเครื่องต่อ” หลังจากที่ศาลเคยสั่งให้ระงับโครงการชั่วคราว ระบุกระทบสิ่งแวดล้อม-ไม่เคารพสิทธิชุมชน
วันที่ 17 ต.ค.54 นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และทีมทนายความจากสภาทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจากชาวบ้านมาบตาพุด 43 คน เดินทางไปยื่นคำชี้แจงต่อศาลปกครองสูงสุด หลังจากที่อัยการเสนอคำร้องมายังศาลเพื่อขอให้มีคำสั่งยกเลิก “การคุ้มครองชั่วคราวที่ให้โครงการโรงงานผลิตเอทีลีนออกไซด์และเอทิลีนไกลคอล(ส่วนขยาย) บริษัททีโอซีไกลคอลจำกัด หรือทีโอซี หยุดดำเนินการ”
โดยนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวได้จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (E/HIA) เรียบร้อยแล้ว และส่งเรื่องให้คณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) ให้ความเห็นชอบแล้ว แต่เมื่อส่งเรื่องให้คณะกรรมการองค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (กอสส.) ให้ความเห็นพบว่า กอสส.มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่ให้โครงการดังกล่าวผ่าน
และเมื่อการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) ในฐานะผู้มีอำนาจอนุมัติ/อนุญาตได้แต่งตั้งคณะกรรมการรับฟังความเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียไปรับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นชอบด้วยและขาดความเชื่อมั่นในโครงการดังกล่าว และหากปล่อยให้ดำเนินการต่อไปได้จะก่อให้เกิดปัญหาตามมาจนยากที่แก้ไขเยียวยาได้
เมื่อผลสรุปมีทิศทางเช่นนั้น กนอ.น่าที่จะมีคำสั่งยกเลิกโครงการดังกล่าว แต่กลับส่งเรื่องให้อัยการมาร้องศาลเพื่อให้มีคำสั่งปล่อยโครงการทีโอซีเป็นอิสระ ซึ่งถือว่าเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 66 และ 67 วรรคสอง เป็นอย่างยิ่ง การกระทำของ กนอ.ถือว่าไม่เห็นความสำคัญของสิทธิชุมชนหรือบุคคลในพื้นที่มาบตาพุด-บ้านฉาง ที่จะต้องมีสิทธิดำรงชีพอยู่ได้อย่างปกติและต่อเนื่องในสิ่งแวดล้อมที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพ หรือคุณภาพชีวิตของตนต่อไป ตามเจตนารมณ์ที่รัฐธรรมนูญ 2550
นายศรีสุวรรณ ยังกล่าวว่า สมาคมฯ จึงมายื่นเอกสารคำชี้แจงให้กับศาลปกครองสูงสุดพิจารณา เพื่อให้ศาลยืนยันการสั่งระงับการดำเนินโครงการหรือกิจรรมของบริษัททีโอซีต่อไป และเร็ว ๆนี้สมาคมฯและชาวระยองจะมีมาตรการตอบโต้ กนอ.และรัฐบาลในประเด็นดังกล่าวต่อไป .