2 องค์กรสื่อ บุกทำเนียบฯ ยื่นหนังสือนายกฯ แก้ปัญหาสวนผึ้งทั้งระบบ
สมาคมวิชาชีพ สื่อสององค์กรบุกทำเนียบฯยื่นหนังสือนายกฯแก้ปัญหาป่าสวนผึ้งทั้งระบบ ให้ความคุ้มครองสื่อมวลชนที่ถูกคุกคามจากการทำหน้าที่ตรวจสอบผู้ มีอิทธิพล นายกฯยอมรับแก้ปัญหายาก พร้อมให้ตำรวจดูแลเต็มที่
วานนี้ (1ต.ค.53) นายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และนายวีระศักดิ์ พงษ์อักษร เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยกรรมการบริหารของสองสมาคม เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือกรณีสื่อมวลชนถูกคุกคามจากการตรวจสอบการบุกรุกที่ราชพัสดุ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี โดยนายวิสุทธิ์กล่าวว่า สื่อมวลชนทั้งทีวีและหนังสือพิมพ์หลายแห่งได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี มาตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา จนสามารถเชื่อมโยงพยานหลักฐานให้เห็นภาพของการบุกรุกว่าเป็นฝีมือของกลุ่มนายทุนทั้งในและนอกพื้นที่ แต่จากการติดตามตรวจสอบของสื่อมวลชนกลับส่งผลให้สื่อมวลชนในพื้นที่ 2 องค์กร คือจากสถานีโทรทัศน์ทีวีไทยและหนังสือพิมพ์อีกฉบับหนึ่งถูกข่มขู่คุกคาม
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า จากการสอบถามผู้สื่อข่าวทั้งสองแห่งทราบว่ามีกลุ่มบุคคลขับรถยนต์ตาม ประกบเพื่อให้หวาดกลัว รวมทั้งการส่งมือปืนเข้ามาในพื้นที่ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้รับทราบข้อมูลจากการข่าวของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดราชบุรี (กอ.รมน. จ.ราชบุรี) แจ้งเตือนว่าขณะนี้มีกลุ่มบุคคลจากต่างจังหวัดที่อยู่ในซุ้มมือปืนจาก อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และซุ้มมือปืนในภาคกลาง จาก จ.นครปฐม เข้ามาในพื้นที่เพื่อลอบทำร้าย และมีการแจ้งข่าวจากสื่อมวลชนท้องถิ่นอีกกลุ่มหนึ่งให้สื่อมวลชนของทั้ง 2 องค์กรระวังตัว โดยอ้างว่ามีภาพถ่ายนักข่าว ภาพถ่ายบ้านพักอยู่ในมือกลุ่มมือปืนแล้ว
นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยกล่าวว่า วันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายยิงนาง สุชา กลีบบัว ภรรยาอัยการประจำจังหวัดไชยา อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตบนรถประจำทางสาย ราชบุรี – โป่งกระทิง ระหว่างเดินทางไปดูแปลงเกษตรในหุบพุบอน อ.สวนผึ้ง ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวต้นสังกัดได้ให้ผู้สื่อข่าวทั้งสองออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วเห็นว่าสถานการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายข่มขู่คุกคามสื่อมวลชน และอาจทำให้ผู้สื่อข่าวถูกลอบปองร้ายได้ จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งรัดในคดีฆ่านางสุชาเพราะจะเป็นเบาะแสสำคัญที่อาจจะ เชื่อมโยงเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มที่ข่มขู่คุกคามสื่อมวลชนให้การคุ้มครองสื่อมวลชนในฐานะพยาน เร่งรัดปัญหาการบุกรุกที่ดิน อ.สวนผึ้ง ป้องกันปัญหาขยายผลในระยะยาว และเพื่อเป็นต้นแบบให้หน่วยงานอื่นในการแก้ไขปัญหา
ด้านนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวได้มอบหมายให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าไปดูแลก่อนหน้านี้แล้ว โดยพบว่ามีคนอยู่สามกลุ่มคือ 1.กลุ่มที่ไม่ควรได้เอกสารสิทธิ์ 2.กลุ่มที่ควรได้แต่ไม่สามารถออกได้ และ 3.กลุ่มที่มีการดำเนินคดีอยู่ ยอมรับว่าปัญหาป่าสวนผึ้งแก้ยากมากเพราะที่ดินมีราคาสูงขึ้น ส่วนการบุกรุกจากนักการเมืองนั้นก็กำลงเช็คข้อมูลอยู่ สำหรับการดูแลความปลอดภัยนั้นจะมอบหมายให้ตำรวจเข้าไปดูแล .
ที่มา : http://www.tja.or.th/