แถลงการณ์ กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพไว้อาลัย ระบบหลักประกันสุขภาพ ยุค ม.44
วันที่ 27 มิถุนายน กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ออกแถลงการณ์ หลังจากที่หลังมีคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 19/2558 ระงับการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวของนายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และให้ไปปฏิบัติราชการในสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ว่า
ในแถลงการณ์ระบุ กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ขอไว้อาลัยต่อคำสั่งระงับการปฏิบัติงานในตำแหน่งชั่วคราว โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือน ที่มีต่อเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) นับเป็นการใช้อำนาจของคนเพียงคนเดียวในยุคการยึดอำนาจรัฐ ซึ่งเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์มาแต่ต้นตำแหน่งเลขาธิการ สปสช.เป็นกลไกสำคัญของการดำเนินงานบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ทั้งนี้ การบริหารจัดการดังกล่าวเป็นไปตามมติของบอร์ดหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่มีกฎหมายรองรับมาโดยตลอด เลขาธิการคนปัจจุบันไม่ได้มีการปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นการประพฤติมิชอบใดใด แม้จะมีการตรวจสอบการใช้เงินกองทุนโดยหน่วยงานหลายฝ่าย ซึ่งผลตรวจสอบเหมือนกันหมดว่า ไม่ได้ทำผิด เพียงแต่ต้องมีการอธิบายและออกกฎเกณฑ์ให้ชัดเจนภายใต้อำนาจบอร์ดและภายใต้กฎหมายที่ให้อำนาจไว้ โดยเฉพาะการใช้เงินสำหรับช่วยเหลือเยียวยาหมอ/พยาบาล/บุคลากรในโรงพยาบาลเมื่อได้รับความเสียหายจากการให้บริการกับประชาชน และการทำความเข้าใจว่า เงินกองทุนเมื่อส่งให้โรงพยาบาลแล้วสามารถให้โรงพยาบาลของรัฐใช้เงินกองทุนสำหรับจัดจ้างพนักงานเพื่อทำงานในโรงพยาบาล เพราะค่าใช้จ่ายในการจัดบริการสาธารณสุขต้อง รวมทั้งค่าแรงคนทำงาน ค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่ายาเวชภัณฑ์ และค่าบริหารจัดการในโรงพยาบาลเพื่อให้เกิดการบริการรักษาที่ดีมีประสิทธิภาพได้คุณภาพต่อประชาชนทุกคน
ทั้งนี้ ระบบหลักประกันสุขภาพที่ดำเนินการมาสิบกว่าปีนั้น ได้ให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนการทำงานของภาคประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม การตีความของกลุ่มผู้ตรวจสอบและการให้ข้อมูลของกลุ่มบุคลากรที่สูญเสียอำนาจการควบคุมระบบการรักษาที่พยายามตีความตามตัวอักษรในกฎหมายโดยละเลยเจตนารมณ์ของกฎหมายที่มีเป้าหมายให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามีส่วนร่วมในการบริหารระบบหลักประกันสุขภาพ การสร้างความตระหนักไว้วางใจและใส่ใจดูแลระบบ จึงเป็นหัวใจสำคัญของการอภิบาลระบบ การมีมติครม.ให้ระงับการสนับสนุนงบประมาณองค์กรเอกชน องค์กรประชาชน นับเป็นการทำลายการมีส่วนร่วมของการปฏิรูประบบสุขภาพของประเทศ สิ่งที่ท่านกำลังทำนี้จะส่งผลให้ระบบหลักประกันสุขภาพหยุดอยู่กับที่ ทุกอย่างจะทำไปตามระบบราชการ ไม่มีใครกล้าคิด กล้าทำ เพราะเกรงกลัวต่อการตีความแบบแคบตามตัวอักษรในกฎหมาย
กลุ่มฯ ใคร่ขอให้นายกรัฐมนตรี ผู้ออกคำสั่ง ได้พิจารณาทบทวน และให้เหตุผลในการดำเนินการที่ไม่เป็นธรรม ภายใต้อำนาจบริหารแบบเบ็ดเสร็จ รวมทั้งขอให้ท่านได้มีความมุ่งมั่นและตระหนักถึงสิ่งที่ต้องธำรงรักษาไว้ซึ่งระบบหลักประกันสุขภาพสำหรับประชาชนเพียงใด
การมีระบบหลักประกันสุขภาพที่มั่นคง เป็นการสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตสำหรับทุกคนไม่ว่ายากดีมีจน ทุกคนมีหลักประกันว่าจะไม่ต้องล้มละลายจากการจ่ายค่ารักษาพยาบาล และเป็นการจัดสวัสดิการถ้วนหน้าเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทันที
สิ่งที่ท่านควรกระทำคือการคุ้มครองระบบให้ก้าวหน้า การเพิ่มประสิทธิภาพ คุณภาพ ให้ระบบเดินหน้าต่อไป การลดความเหลื่อมล้ำระหว่างระบบ การจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอต่อการดำเนินการ และให้ รมว.สธ. ซึ่งเป็น ครม.ของท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานบอร์ดหลักประกันสุขภาพได้อย่างราบรื่นเหมาะสม ไม่ต้องพะวักพะวนกับการไม่เคารพกันเองของผู้บริหารกระทรวง ที่ต้องการแย่งชิงการบริหารกองทุนกลับไปอยู่ภายใต้ระบบข้าราชการกระทรวงดังเดิม โดยปัจจุบันระบบหลักประกันสุขภาพภายใต้หลักการแยกบทบาทผู้ให้บริการ(กระทรวงสาธารณสุข). และผู้ซื้อบริการแทนประชาชน(สปสช.)โดยสปสช.อยู่ในการกำกับของรัฐมนตรีด้วย ได้ทำให้คุณภาพชีวิตคนไทยดีและมีความสุข การทำให้ข้าราชการมีอำนาจ นี่ไม่ใช่การปฏิรูป สิ่งที่ท่านอ้างและยอมเอาตัวเองเข้าแลกเพื่อยึดอำนาจรัฐเพื่อปฏิรูปประเทศ การที่ท่านมุ่งมั่นเข้ามาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน จะไม่เป็นจริงหากขาดกลไกที่ขาดประสิทธิภาพและมีความสมดุลในการใช้อำนาจจึงขอเรียนมาเพื่อท่านโปรดพิจารณาทบทวนคำสั่งดังกล่าว"