ปากคำ นศ.ไทยในปากีฯ "ทุกคนเข้าใจหมดแล้วว่าพวกเราเป็นแพะ"
ในขณะที่ทุกภาคส่วนกำลังระดมช่วยเหลือ พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งถูกจับกุมที่ญี่ปุ่นหลังพบอาวุธปืนในกระเป๋าเดินทางที่จะนำขึ้นเครื่องบินนั้น
ปรากฏว่ากรณีคล้ายๆ กันของนักศึกษาไทย 5 คนซึ่งถูกทางการปากีสถานควบคุมตัวเพราะพยายามนำปืนขึ้นเครื่องบินกลับไทย ตั้งแต่กลางดึกคืนวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้รับการปล่อยตัวกลับถึงบ้านเกิดแล้ว
นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน 2558 ว่า วันที่ 22 มิถุนายน เวลาประมาณ 17.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน ได้รับตัวนักศึกษาทั้ง 5 คนจากสถานีตํารวจเมืองละฮอร์เรียบร้อยแล้ว และเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน นักศึกษาทั้ง 5 คนได้เดินทางออกจากสนามบินเมืองละฮอร์ เวลา 23.40 น. ถึงประเทศไทยวันที่ 25 มิถุนายน โดยนักศึกษาทั้ง 5 คนมีสุขภาพแข็งแรงและมีกําลังใจดี โดยเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยแล้ว ก็ได้ส่งนักศึกษาทั้ง 5 คนกลับสู่ภูมิลําเนาเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่น่าสนใจคือ ตอนท้ายของแถลงการณ์ ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด จะประสานงานเรื่องคดีความของนักศึกษาท้ัง 5 คนจนกว่าคดีจะสิ้นสุดต่อไป
นั่นแสดงให้เห็นว่าคดีของนักศึกษาทั้ง 5 คนยังไม่สิ้นสุดใช่หรือไม่?
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องน่ายินดี จากนี้ไปจะมีการดูแล ซึ่งทั้ง 5 คนสามารถเดินทางกลับไปอีกได้ แต่ต้องอยู่ในขั้นของการดำเนินคดีของต่างประเทศ นี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำ และทำแบบเงียบๆ เพราะเป็นการขอความร่วมมือในสิ่งที่ผิดกฎหมายของประเทศปากีสถาน ไม่ใช่ทำแบบสื่อที่เขียนกันโครมครามว่าจะต้องไปนำตัวกลับมาให้ได้
สำหรับนักศึกษาทั้ง 5 คน ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา กระบี่ ตรัง สงขลา และปัตตานีนั้น เดินทางถึงบ้านเรียบร้อย ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นของครอบครัวและญาติมิตร โดยแต่ละคนยังไม่ตัดสินใจว่าจะเดินทางกลับไปศึกษาต่อที่ปากีสถานอีกหรือไม่
ที่บ้านตำบลบางตาวา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี หนึ่งในห้านักศึกษาไทยในปากีฯ ได้เดินทางกลับถึงบ้าน
นักศึกษาหนุ่มอายุ 28 ปีเล่าว่า รู้สึกดีใจและภาคภูมิใจรัฐบาลไทยมากโดยเฉพาะ พลเอกประยุทธ์ และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เจ้าหน้าที่สถานทูต เพราะทั้งหมดให้ความช่วยเหลือและดูแลเป็นอย่างดีตลอดเวลาที่ประสบปัญหา ขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความเป็นธรรม
"กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกับหน่วยงานในปากีสถานทุกระดับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ โดยส่งเจ้าหน้าที่กงสุลที่ประจำอยู่ที่เมืองละฮอร์เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อนำทุกคนกลับบ้านให้ได้"
เขากล่าวถึงของกลางที่เป็นอาวุธปืนซึ่งพบในกระเป๋าสัมภาระจนถูกจับกุมว่า กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นฝ่ายแถลงเอง เรื่องคดีขณะนี้เจ้าหน้าที่แจ้งมาว่าจบแล้วทั้ง 5 คน ส่วนการหาเจ้าของปืนเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ปากีสถานที่จะต้องดำเนินการ
"ตอนนี้ทุกคนเข้าใจหมดแล้วว่า พวกเรา 5 คนเป็นแพะรับบาป ของที่รับฝากมาไม่มีใครทราบและรู้เห็นในเรื่องนี้เลย อยากให้ทุกคนนำไปเป็นบทเรียน โดยเฉพาะการรับฝากของ และหลังจากนี้คิดว่าไม่ไปเรียนที่ปากีสถานแล้ว เพราะคิดว่าได้ความรู้พอสมควร เวลาที่เหลือขอดูแลแม่บ้าง" หนึ่งในห้านักศึกษาไทย ระบุ
ด้านมารดาของนักศึกษาหนุ่ม บอกว่า ไม่มีความรู้สึกดีใจครั้งไหนเท่ากับครั้งนี้ อยากขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เชื่อในความบริสุทธิ์ของลูกชาย และเข้ามาให้ความช่วยเหลือจนทำให้เราได้รับความเป็นธรรม และทำให้เจ้าหน้าที่ปากีสถานปล่อยตัวลูกชายและเพื่อนๆ กลับมาบ้าน
"ดีใจจริงๆ ดีใจมากๆ อย่างบอกไม่ถูก" นางกล่าวซ้ำๆ ถึงความรู้สึกของตนเอง
และว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกชาย ถ้าหน่วยงานภาครัฐไม่ให้ความช่วยเหลือ ครอบครัวคงเจอปัญหาใหญ่แน่นอน ทั้งเรื่องของภาษาที่จะพูดคุย การเข้าถึงเจ้าหน้าที่ ค่าใช้จ่าย ทุกอย่างคือปัญหา แต่เมื่อทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยเหลือ ปัญหาที่หนักสำหรับครอบครัวก็คลายลงได้ เพราะสิ่งที่ต้องการตลอดคือ ขอให้ลูกชายได้กลับบ้านโดยพ้นข้อกล่าวหา และสุดท้ายก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
นางสุนิสา หนุ่ยสามัญ กำนันตำบลบางตาวา กล่าวว่า ในฐานนะผู้นำของบ้านบางตาวา ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความช่วยเหลือและดูแลน้องนักศึกษาเป็นอย่างดี จนทำให้ได้รับความเป็นธรรม เรื่องที่เกิดขึ้นชาวบ้านทั้งบางตาวาก็มีความรู้สึกได้รับความเป็นธรรมไปด้วย เพราะทุกคนต่างรอคอยการกลับมาของน้องนักศึกษา บ้างก็ละหมาดฮายัดขอพร บ้างก็ถามไถ่ข่าวคราวจากครอบครัวอย่างไม่ขาดสาย วันนี้ที่น้องได้กลับบ้าน จึงทำให้ชาวบ้านทั้งบางตาวารู้สึกดีใจ ไม่ใช่เฉพาะครอบครัวของน้องเท่านั้น
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : นักศึกษาหนุ่มจากปัตตานีกอดกับมารดา
หมายเหตุ : พรางภาพเพื่อรักษาสิทธิผู้ถูกกล่าวหา