รวมบรรยากาศดูดวงจันทร์รับรอมฎอน – ค้นบ้านสายบุรีเจอแผนที่เตรียมป่วน
ตามที่ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์หลังเวลาพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ในวันพุธที่ 17 มิถุนายน 2558 เพื่อกำหนดวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1436 นั้น ปรากฏว่ามีผู้เห็นดวงจันทร์ ที่หอชมดวงจันทร์ บนบูเก๊ะปาเระ (ภูเขาปาเระ) อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ในเวลา 18.45 น.
ต่อมา จุฬาราชมนตรีได้ออกประกาศว่า วันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1436 ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน 2558 โดยเป็นวันที่พี่น้องมุสลิมต้องถือศีลอดเป็นวันแรก และถือต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน
เดือนแห่งบุญ...ประตูสวรรค์เปิด
รอมฎอน เป็นเดือนที่ 9 ตามปฏิทินฮิจเราะห์ หรือปฏิทินอิสลาม ในเดือนนี้พี่น้องมุสลิมจะต้องถือศีลอด หรืองดและละเว้นทุกอย่างที่ไม่ดีตลอดทั้งเดือน ต้องงดอาหารทุกชนิด รวมถึงน้ำดื่มนับจากพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน จากนั้นถึงจะสามารถละศิลอด หรือรับประทานอาหารตามปกติได้
นอกจากการถือศีลอดและทำทานแล้ว เดือนรอมฎอนยังเป็นเดือนสุดประเสริฐ ที่มีการประทานคัมภีร์อัลกรุอาน จะเห็นว่าในเดือนนี้จะมีพี่น้องหลายคนนั่งอ่านอัลกุรอานยามว่างจากภารกิจอื่น เพราะถือว่าเป็นเดือนแห่งความเมตตา ประตูสวรรค์เปิด ประตูนรกปิด เดือนนี้จึงเป็นเดือนที่ต้องหมั่นทำความดีให้มากๆ
สำหรับในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ชายมุสลิมจะนิยมไปรวมตัวกันที่มัสยิดตลอดทั้งเดือน โดยเฉพาะการร่วมละศีลอดเพื่อสร้างความดีและความสามัคคีกันภายในชุมชน ส่วนกลุ่มสตรีมักให้ความสำคัญกับการเตรียมอาหารเพื่อละศีลอด จึงทำให้บรรยากาศในเดือนนี้เต็มไปด้วยอาหารหลากหลาย บางชนิดไม่สามารถหาซื้อได้ในเดือนปกติ เมื่อพิธีละศีลอดเสร็จสิ้น ผู้ปกครองทั้งหญิงและชายจะพากันจูงบุตรหลานเข้ามัสยิดเพื่อร่วมละหมาดตะรอเวียะฮ์ ซึ่งจะเป็นการละหมาดยามค่ำคืนเฉพาะในเดือนรอมฎอนเท่านั้น
เมื่อถือศีลอดใกล้ครบ 1 เดือน หรือวันที่ 16 กรกฎาคม สำนักจุฬาราชมนตรีจะกำหนดวันดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดเดือนใหม่ และเมื่อสิ้นสุดเดือนรอมฎอนในค่ำคืนนั้นบรรดาผู้ชายจะต้องซื้อข้าวสารเพื่อจ่ายซากาตฟิตเราะห์ (การบริจาคอย่างหนึ่ง) ก่อนที่จะร่วมละหมาดและเฉลิมฉลองในวันที่ 1 เดือนเซาวาล เรียกว่า อีดิลฟิตรี้ หรือ รายอปอซอ
มุสลิมแห่ดูดวงจันทร์ที่บูเก๊ะปาเระ
สำหรับบรรยากาศที่หอดูดวงจันทร์ บนภูเขาบูเก๊ะปาเระ ตำบลยะลา อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เมื่อวันพุธที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น ตั้งแต่เวลาประมาณ 4 โมงเย็น มีประชาชนจาก 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา เดินเท้าขึ้นภูเขาเพื่อไปรอดูดวงจันทร์เป็นจำนวนมาก รวมทั้ง พลโทปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 ด้วย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอย่างแน่นหนา
นายอาหามะ สาและ ชาวจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า เดินทางมาร่วมดูดวงจันทร์ที่บูเก๊ะปาเระเป็นประจำทุกปี มาแล้วก็รู้สึกดีใจ ตื้นตันใจที่ทุกคนให้ความสำคัญ ให้ความสำคัญต่อการดูดวงจันทร์และการเข้าสู่เดือนรอมฎอน และรู้สึกดีที่แม่ทัพภาคที่ 4 มาร่วมดูดวงจันทร์ด้วย เพราะถือว่าทหารก็ให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตของพี่น้องมุสลิมในพื้นที่เช่นกัน
สำหรับการดูดวงจันทร์ของพี่น้องมุสลิมที่ชายแดนใต้นั้น ไม่ได้มีเฉพาะที่บูเก๊ะปาเระเท่านั้น แต่ยังมีผู้นำศาสนาอีกจำนวนหนึ่งไปขอใช้สถานที่ชั้น 8 ของโรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เพื่อดูดวงจันทร์ด้วยเช่นกัน
จับจ่ายซื้อของเตรียมถือศีลอด
บรรยากาศการจับจ่ายซื้อของก่อนเข้าสู่เดือนรอมฎอน เมื่อเช้าวันพุธที่ 17 มิถุนายน ที่ตลาดเทศวิวัตฒ์ 1 ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี มีประชาชนเดินทางไปเลือกซื้อของสดเพื่อนำไปประกอบอาหารรับประทานกันในช่วงของเช้ามืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น หรืออาหารมื้อแรกก่อนเริ่มถือศีลอดอย่างคับคั่ง
วัตถุดิบที่นิยมนำไปประกอบอาหาร ได้แก่ เนื้อวัว ไก่ และปลา ซึ่งปีนี้ราคาอาหารสดบางอย่างปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะเนื้อวัว ขณะที่ผลอินทผลัมที่พี่น้องมุสลิมนิยมรับประทานเพื่อละศีลอดในแต่ละวัน ก็มีราคาปรับสูงขึ้นเล็กน้อย ราคาต่อกล่องเกิน 100 บาท
ยะลาจัด "สายตรวจรอมฎอน"
ส่วนที่จังหวัดยะลา พลตำรวจตรีสมศักดิ์ จันทะพิงค์ รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้นำนายตำรวจทีรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดยะลา เข้าพบคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดกลางจังหวัดยะลา เพื่อหารือเรื่องการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ประกอบศาสนกิจในช่วงเดือนรอมฏอน
โดย พลตำรวจตรีสมศักดิ์ บอกว่า จะจัดตั้งหน่วยกำลังที่เรียกว่า "สายตรวจรอมฏอน" ออกไปดูแลและให้ความคุ้มครองตามสถานที่ต่างๆ ที่มีการรวมตัวกันประกอบศาสนกิจตลอดทั้งเดือน ขณะที่มัสยิดตามตำบลหมู่บ้านต่างๆ ได้กำชับให้ทุกสถานีตำรวจจัดกำลังไปรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ เชื่อว่าจะไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับผู้เดินทางไปประกอบศาสนกิจ
ด้านความเคลื่อนไหวของฝ่ายทหาร หน่วยเฉพาะกิจยะลา 16 ซึ่งรับผิดชอบอำเภอเมืองยะลา ได้จัดกำลังไปตั้งด่านตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และบุคคลบนถนนสายเข้าเมืองยะลาทุกสาย เพื่อป้องกันการนำวัตถุระเบิดหรือวัตถุอันตรายเข้ามาสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในเขตเมือง
เชือดคอ นศ.-เหตุร้ายแรกรับรอมฎอน
ในขณะที่พี่น้องมุสลิมกำลังเริ่มถือศีลอดเป็นวันแรกของเดือนรอมฎอน ก็ได้เกิดเหตุร้ายขึ้นเป็นเหตุแรกในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เช่นกัน โดยเป็นเหตุเชือดคอนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคยะลา ขณะที่ทหารเข้าค้นบ้านผู้ต้องสงสัยที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี พบแผนที่เตรียมโจมตีชุดลาดตระเวน
เหตุร้ายกรณีแรกรับเดือนรอมฎอนที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดขึ้นที่ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา โดยเมื่อเวลาประมาณ 06.45 น.เช้าวันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน เจ้าหน้าท่ำตำรวจ สภ.โกตาบารู อำเภอรามัน รับแจ้งพบศพชายวัยรุ่นในสวนยางพารา บ้านบูเก๊ะนือโระ หมู่ 3 ตำบลเนินงาม อำเภอรามัน ตรวจสอบแล้วทราบชื่อคือ นายชิษณุพงศ์ ยอดคง อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/2 หมู่ 6 ตำบลลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา สวมชุดนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคยะลา สภาพศพถูกของมีคมเชือดที่ลำคอและถูกแทงบริเวณลำตัวรวม 3 แผน เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมงแล้ว
ในที่เกิดเหตุยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซุกิ รุ่นสแมช สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน กรน 16 ยะลา จอดอยู่ใกล้ๆ ศพ คาดว่าเป็นของผู้ตาย
สอบสวน นายปรีชา ยอดคง อายุ 47 ปี บิดาของผู้ตาย ทราบว่า นายชิษณุพงษ์ ยอดคง เป็นนักศึกษาแผนกช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคยะลา ก่อนพบศพ 1 วัน ลูกชายได้ขี่รถจักรยานยนต์ที่พบในที่เกิดเหตุ เดินทางออกจากบ้านเพื่อไปเรียนหนังสือที่วิทยาลัยตามปกติ หลังจากนั้นก็หายตัวไป ตกเย็นก็ไม่เดินทางกลับบ้าน จึงไปสอบถามที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน แต่ก็ไม่มีใครทราบเรื่อง กระทั่งมาทราบข่าวจากศูนย์กู้ภัย
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนรู้จักกับนายชิษณุพงษ์ และมีไม่ต่ำกว่า 2 คน โดยนัดผู้ตายมายังจุดเกิดเหตุเพื่อพูดคุยตกลงเรื่องบางอย่าง แล้วถือโอกาสทีเผลอจ้วงแทงและเชือดคอจนเสียชีวิต สาเหตุคาดว่ามาจากความขัดแย้งส่วนตัว
ค้นบ้านเจอแผนที่เตรียมโจมตี จนท.
ส่วนที่ตำบลละหาร อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่ทหารนำกำลังเข้าค้นบ้านต้องสงสัยเป็นสถานที่มั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น พบแผนที่เส้นทางและช่วงเวลาออกลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง คาดว่าเป็นการวางแผนลอบโจมตีชุดปฏิบัติการลาดตระเวนหรือชุดรักษาความปลอดภัยครู เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงยึดไปตรวจสอบหาที่มาและบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป
ค้นเจาะไอร้องเจอเอ็ม 16 สามกระบอก
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพุธที่ 17 มิถุนายน พันเอก สฐิรพงษ์ อาจหาญ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 48 อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย พันเอก พสิษฐ์ ชาญเลขา หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมจังหวัดนราธิวาส ได้สั่งสนธิกำลังจำนวน 6 ชุดปฏิบัติการเข้าพิสูจน์ทราบแหล่งซุกซ่อนอาวุธปืนในพื้นที่หมู่ 1 บ้านเจาะเกาะ ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง หลังจากทลายฐานปฏิบัติการย่อยบนเทือกเขาตะเว บ้านไอร์ปาแย ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา
จากการนำกำลังเดินเท้าบนไหล่เขา ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร พบเนินดินใต้รากไม้ของโคนต้นไม้ใหญ่มีร่องรอยคล้ายถูกกลบใหม่ๆ จึงใช้พลั่วสนามขุด พบถุงปุ๋ยพลาสติกสีขาวขนาดใหญ่ ภายในบรรจุอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 เอ 1 จำนวน 3 กระบอก จากการตรวจสอบหมายเลขประจำปืนพบว่า 2 ใน 3 กระบอกเป็นปืนที่ถูกปล้นไปจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือ ค่ายปิเหล็ง อำเภอเจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547
ยิงดาบตำรวจดับที่ศรีสาคร
ก่อนหน้านั้น เมื่อเย็นวันอังคารที่ 16 มิถุนายน ยังเกิดเหตุคนร้าย 4 คน มีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกกระหน่ำยิง ดาบตำรวจมานพ ไชยชนะ อายุ 51 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ทำให้ ดาบตำรวจมานพ เสียชีวิต เหตุเกิดขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปประจำจุดรักษาความปลอดภัยเส้นทางเพื่อดูแลคณะครูเดินทางกลับบ้าน บนถนนสายศรีสาคร-รือเสาะ ท้องที่บ้านนางโล๊ะ หมู่ 3 ตำบลตะมะยูง อำเภอศรีสาคร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 บรรยากาศการดูดวงจันทร์ที่บูเก๊ะปาเระ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
2 ผู้นำศาสนาดูดวงจันทร์ที่ชั้น 8 โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี